เปิดใจน้ำตาคลอ “อาทิตย์ ริว” จุดเปลี่ยนชีวิต! เพราะแม่ทำให้มุ่งหาพระธรรม และเรื่องลูกที่นี่ที่แรก

เปิดใจน้ำตาคลอ “อาทิตย์ ริว” จุดเปลี่ยนชีวิต! เพราะแม่ทำให้มุ่งหาพระธรรม และเรื่องลูกที่นี่ที่แรก  
      เรียกว่าเป็นอดีตพระเอกชื่อดังที่กำลังเป็นที่สนใจสำหรับ “อาทิตย์ ริว”  เพราะดราม่าที่เกิดขึ้นยังไม่ชัดเจน 
       ดาราเดลี่ได้เปิดใจอีกครั้งถึงเส้นทางชีวิตที่แท้จริงๆ ของอดีตพระเอกคนนี้ว่าทำไมมาถึงจุดนี้ได้ ที่ต้องออกมาของานจากเพื่อนฝูง
และเรื่องแม่ เรื่องลูก ที่เขาเผยทั้งน้ำตา 

อ่านต่อ:“เก่ง เมธัส” ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ “อาทิตย์ ริว” | daradaily

Q.ตัดสินใจนานไหมที่กลับเข้าวงการ 
       : การที่บอกว่าออกจากวงการบันเทิงไม่สนใจแล้ว ห่างไปแล้ว แต่การใช้ชีวิตมันจะหมดลงเขาก็ย้งรู้จักผมดีเหมือนเมื่อก่อนจริงๆ ทีนี้ผมไปไหนมาไหนเขาก็ยังรู้จักผมอยู่เท่ากับผมก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ เพราะฉะนั้นไม่มีประโยชน์ที่ผมที่ผมจะบอกว่าผมออกจากวงการบันเทิง
        ทีนี้พอผมไปเจอในสภาพเป็นคนธรรมดาทำมาหากินปกติเหมือนคนทั่วไป เงินก็ไม่ได้เยอะเท่ากับตอนที่อยู่ในวงการบันเทิง วงการบันเทิงเราไปเล่นละครเราก็ได้เงินเยอะ เราไปโชว์ตัวเราก็ได้เงิน แบบแป๊บเดียวเราก็ได้ แต่อันนู้นเราต้องแต่ละวันเราตื่นมาคิดว่าจะทำอะไรดี เข้านอนตอนนี้ทำอาหารซื้อไอนี่ทำเองหมดไปจ่ายตลาดเอง ขี่มอเตอร์ไซค์ไปแต่ตอนทำงานอยู่วงการนอน ตื่นมามีอะไรกินในตู้เย็นมั้ย 
       ไปซื้ออะไรก็ได้ที่อยากกิน แต่พอเรามีชีวิตตรงน้้นได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปจ่ายตลาด ได้ไปแซวแม่ค้าขายปลา ผมก็มีความสุขกับการที่ได้ใช้ชีวิตไปพูดคุยได้ไปเดินตลาดไปช้อปปิ้ง เราก็มีความสุขกับการที่ได้ไปนั่งร้านกาแฟ ได้ไปนั่งคุยกับพี่ๆญาติๆอะไรแบบนี้พอไปไหนก็อาทิตย์นิวมาแล้ว กาแฟสักแก้วนึงเดี๋ยวพี่จ่ายเองคือบรรยากาศตรงนั้นมันเป็นแบบนั้น

Q. เราคิดว่าชีวิตเราพอออกจากวงการมาแล้วมันดีกว่าตอนที่อยู่ในวงการมั้ย 
       : มันก็ดีอยู่ช่วงนึง ตอนแรกอะดีมากแบบสุดยอดเลย กล้าประกาศเลยว่าตัวเองมีลูกมีครอบครัวไม่สนใจอะไรเลย ณ ตอนนั้นเขาก็ชมว่าสุดยอดไม่เคยเจอดาราคนไหนเลยที่กล้าเอาตัวเองเสี่ยงขนาดนี้ทั้งๆที่ตอนนั้นมีละครรออยู่ทิ้งเงินได้ ทิ้งทุกอย่าง ทิ้งชื่อเสียง ทิ้งเงินทอง ทิ้งความสุขสบายได้ มีแต่คนถามทำไมทิ้งทั้งๆที่ทุกอย่างโอเค ผมก็ตอบว่าผมอยากอยู่กับลูก ผมอยากพาลูกเที่ยว ผมไม่ได้อยากทำงานตรงนั้น แต่ทีนี้ด้วยความที่เราเป็นคนธรรมดา บางทีเราก็ไม่ได้เก่งมากกว่าคนทั่วไป คนทั่วไปจริงๆก็เก่งนะที่ทำมาหากิน ออฟฟิศเงินเดือนก็เก่ง ตื่นมาต้องแต่งตัวแล้วไปทำออฟฟิศจนถึงเวลาเย็นแล้วเลิกงานถือว่าเก่งมากเลยอดทนได้ แต่ว่าผมอดทนไม่ได้หรอกถ้าให้ไปอยู่แบบนั้น มันแบบทำไมต้องไปทำตามรูปแบบคนอื่น

Q.ถ้าตอนนั้นมันเหมือนสมัยนี้ที่มีลูกมีเมียแล้วมันสามารถเปิดและทำงานวงการบันเทิงได้ ตอนนั้นยังจะอยากทำงานในวงการบันเทิงมั้ย
        : ทำ ถ้าสังคมหรือแฟนคลับยอมรับ แล้วก็สนับสนุนว่าพี่ริวมีลูกลูกพี่ริวน่ารักจังเลย พี่ริวเอาลูกพี่มาเป็นพรีเซนเตอร์เด็กได้ไหม แพมเพิ้ดหรือแป้งหรือนมหรือขนมขบเคี้ยว หรือบรรยากาศทำรายการพาครอบครัวไปหรรษากันอบอุ่นกันทำบาร์บีคิวพาไปเที่ยว สอนและถ่ายทอดออกเป็นรายการเป็นรายการครอบครัวสุขสันต์บันเทิง เราก็สอนลูกผ่านทางทีวีและให้สังคมได้รับรู้ว่า ครอบครัวที่ดีตัวอย่างที่ดีพ่อที่ดี แล้วลูกเราดูวิวัฒนาการมาเรื่อยๆคล้ายๆกับซีรีส์ ทำแบบนั้นกันได้แต่ว่าสมัยนั้นมันยังทำไม่ได้ ช่วงที่ออกมาใช้ชีวิตนอกวงการอาจจะไม่ได้เจอผู้คนในวงการ ไม่ได้เจอเพื่อนฝูง มันมีช่วงที่ทุกข์ลำบากแสนสาหัส โดนดูถูกดูแคลนอย่างหนักสุด อย่างตอนไปไหนมาไหนเอาง่ายๆคือผมเข้าไปในบริเวณนั้นไม่ได้

Q.ตอนนั้นคือไม่มีขนาดไหน
       : ตอนนั้นมี ตอนเดินเข้าไปอะมีแต่ด้วยความที่ภาพเขามองแบบไม่มีชื่อเสียงแล้ว อาจจะเข้าไปกลัวรบกวนเขารึป่าว กลัวไปยืมตังค์ เป็นเพื่อนนอกวงการ มันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้เป็นแบบนี้ เสียใจ

Q. คืออาจจะไม่คิดว่าวันนึงที่เราเปลี่ยนไปแล้วเขาทำแบบนี้กับเรา อันนี้ถูกต้องไหม
      : ในวันที่เรามีขื่อเสียงเขายินดีอ้าแขน แล้ววันที่เราหมดตรงนั้นมันก็เป็นธรรมดาที่เขาจะต้อง เพราะฉะนั้นคนที่รู้จักเราโดยแค่ชื่อเสียงเงินทองมันก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า เราได้รู้แล้วว่าคนไหนเป็นอย่างไร คนไหนควรจะเป็นมิตรแต่เราก็ไม่เป็นศัตรูกับใคร เราก็เดินของเรา ตอนนั้นเป็นแบบนั้นบ่อย ส่วนคนที่ดีๆที่จะอยู่กับเราอยู่ใกล้ตัวเรา เราก็ต้องรักษาเขาไว้ดีๆ มีไรปรึกษากันมีไรก็ช่วยกันมีความอบอุ่นที่ได้เจอ มีสิ่งที่ดีๆปรารถนาดีต่อกัน ผมคิดว่าเอาแบบนั้นดีกว่า แต่อย่างน้อยที่ผ่านมาผมก็ลองใจไปเยอะ ผมก็ได้รู้แล้วว่าที่ผ่านมาความจริงเป็นอย่างไร

Q. เราสู้อย่างไร ไปหาคนนั้นเลยหรือยังไง
       : คอยหาแล้วก็คอยลองใจคอยเทสไปเรื่อยเพราะผมชอบศึกษาใจคน ผมชอบค้นชอบพิสูจน์ว่าจริงหรือป่าว รักผมจริงหรือป่าว รักแค่ไหน และตอนเดือดร้อนต้องช่วย มีเงินเป็นล้านแต่ขอสามร้อยคิดเยอะ ไม่ใช่

Q.ระยะเวลาเกือบ20ปี เพื่อนหายไปเยอะไหม
       : เยอะมาก บอกเลยว่าผมมีเพื่อนเป็นล้านคนทั่วประเทศ เป็นล้านคนจริงๆ เพราะผมเป็นคนที่ชอบพูดมาก ผมคุยได้กับทุกคน และผมเป็นคนขยันพูดแล้วก็ชอบแซวชอบอะไรแบบนี้ ขี้เล่น แต่มันจะมีเพื่อนจริงๆสักกี่คน ไม่ว่าผมจะบอกว่า อย่ามายุ่งกับผม ผมรู้จักคนเยอะ ผมคอนเนคชั่นเยอะ ผมจะไปพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะว่าใครจะไปรู้ว่าคนไหนเขาเอาเราบ้างไม่เอาเราบ้าง คนไหนเขารักเราจริงคนไหนเขาผ่านๆ แต่แค่ว่า ณ วันนี้กี่ปีมาแล้วคนที่อยู่เป็นตัวจริง หมายถึงว่าคนที่เป็นพี่จริงๆ คนที่คอยโทรมายามที่เรามีข่าวหรือไรแบบนี้ เสียงโทรศัพท์เหล่านั้น นั่นแหล่ะคือความรักจริง

       แล้วก็ไม่ได้บอกว่าพอมีชื่อเสียงแล้วเขาจะโทร ป่าวเขาตามหาอยู่นั่นไอริวมันหายไปไหนไม่มีเบอร์หาตัวไม่เจอ เบอร์ก็เปลี่ยน เดี๋ยวก็หายอยู่แบบนั้น แล้วพอโผล่ขึ้นมาอีกทีก็พอรู้เบอร์ก็รีบที่จะโทรมาถามว่า น้องพี่เป็นห่วง หายไปไหนมา น้องต้องมีสตินะ ไม่ได้นะ มาหาพี่มั้ย แล้วเดี๋ยวพี่จัดการให้ มาเจอพี่หน่อย ก็เหมือนกันที่ผ่านมาไประยองก็ พี่ริวเอาตัวมาถึงระยองให้ได้ก่อน มาถึงนี่เดี๋ยวเอาตังค์ที่นี่ ค่าที่พักค่ากินค่าอะไรไม่ต้องห่วงเลย

Q. ถ้าย้อนกลับไปได้ในอดีตกับสิ่งที่มันผิดพลาด ริวอยากแก้ไขอะไรบ้าง
      : ถ้าย้อนกลับไปได้ ถ้าผมมีเงินเยอะขนาดนั้น ผมจะไม่ซื้อรถ ผมจะไม่ทำแบบนั้นเลย ผมจะไม่เปลี่ยนรถ

Q.ตอนนั้นสะสมรถหรือชอบหรือรักรถก็เลยซื้อ
       : ไม่ๆ คือความสุขผมไม่มีไง ผมก็เลยตั้งรางวัลไว้ว่า เรื่องนี้ได้เงินเท่านี้ ต้องไปดูรถก่อนว่าจะได้รถอะไรเป็นของรางวัล แล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อย ผมไม่ได้เสียดายเลย

Q.  ริวกำลังจะบอกว่าถ้าย้อนไปได้ต้องเก็บเงินหรอ
       : ไม่เก็บ จะไม่เก็บ ถ้าจะเก็บเอาแค่บางส่วนพอได้ทำประกันชีวิต เก็บไว้เพื่อซื้อบ้าน เก็บไว้เพื่อเตรียมไว้ให้ลูกมห้เป็นค่าเทอมค่าเล่าเรียน เก็บไว้แบบพอดีอย่าเก็บไว้เยอะ ส่วนเงินที่เหลือถ้าไม่จำเป็นแล้ว พอเหลือเป็นก้อน ก้อนไหนก็ได้ขอให้เหลือก็แบ่งเงินก้อนนี้ไปช่วยคนอื่นเขาบ้างดิ ไปช่วยพี่ที่เดือดร้อน ช่วยแม่เขาที่เขานอนติดเตียง ส่งแพมเพิ้ดหรือส่งอะไรที้เป็นประโยชน์ หรือช่วยอาหารหมา อาหารแมว

Q.ริวในวันนี้ที่ทุกคนได้เห็นตัวตนใหม่ เปิดตัวใหม่ เข้ามาวงการใหม่กับริวเมื่อก่อน เป็นคนละคนแตกต่างกันอย่างไร
       : แตกต่างกันครับ เมื่อก่อนเป็นคนไม่ไหว้ไม่ลา ไม่ไหว้ ไม่ศรัทธา ไม่เชื่อ แล้วใครบังคับก็ไม่เชื่อ แล้วจะชอบมีผู้ใหญ่บอกเดี๋ยวสักวันจะได้เจอกับตัวเอง ถ้าไม่มีความศรัทธาในสิ่งใด เพราะว่าผมเชื่อมั่นในตัวเอง ชีวิตผมเลยพัง

Q. แล้วจุดเปลี่ยนทำไมถึงไปไหว้พระ
      : จุดเปลี่ยนก็คือว่าครั้งแรกที่ผมบวชที่วัดเบญจมบพิตร นั่นคือผมตั้งใจจะบวชให้แม่ แต่ผมไม่ได้อะไรเลย เพราะผมคิดว่าแค่ทำให้แม่สบายใจ ว่าแม่ได้เห็นผ้าเหลือง เพราะแม่ก็พิการนั่งรถเข็นมาที่วัด ญาติพี่น้องก็มา นั่นคือผมอยากทำให้แม่ ได้ตอบแทนบุญคุณในส่วนนึง แต่ตอนนั้นก็มีข่าวมีอะไรก็ช่างมัน แต่ยามที่ผมไม่มีแม่วันนั้นแล้วผมบวชจริงๆ บวชให้เขาจริงๆที่ไม่ใช่บวชเพื่อให้เขาสบายใจ นั่นคือบวชเพื่อให้เขา ส่งบุญให้เขาได้ขึ้นสวรรค์ ผมเป็นพระที่สวดกุสลาแล้วน้ำตาคลอ

Q.ตอนนั้นบวชนานเท่าไหร่
      : ก็ตั้งแต่มีนาจนถึงสิงหา แต่ว่าเป็นการบวชที่ผมตั้งใจมาก ผมตั้งใจท่องบทสวด ผมขึ้นไปท่องที่โบสถ์ ผมไปนั่งสมาธิ ผมว่าผมขยันมากนะ

Q.ก่อนหน้านี้ที่บวชเป็นเพราะแม่ป่วยหนัก
       : คือแม่เขาป่วยติดเตียงแล้วเขานั่งรถเข็น แล้วเขาก็ไม่ได้ไปไหน แล้วพอถึงอายุนึงที่ผมน่าจะต้องบวช ในช่วงนั้นผมก็มีปัญหาทางครอบครัวด้วยผมก็เลยคิดว่าถือโอกาสนั้นเป็นการขอขมาก็เลยบวช และเพื่อให้แม่ได้เห็นผ้าเหลืองด้วย ขอขมาบางท่านด้วยเพราะตอนนั้นผมก็ได้ทำอะไรโดยขาดสติด้วยก็เลยตัดสินใจว่าขอบวชเพื่อขอขมา แต่การบวชตอนที่สูญเสียคุณแม่คือตั้งใจจริงๆว่าจะบวชแบบไม่ศึกเลยเพราะว่าไม่มีใครแล้ว

Q.แล้วทำไมถึงสึกออกมา
        : มีลูกค้า แต่ก็ยังลังเลอยู่เพราะว่าด้วยบรรยากาศ บางอย่างผมก็พูดไม่ได้นะ หมายถึงว่าบางอย่างต้องปกป้องพระพุทธศาสนา ผมคิดว่าตอนที่ผมเป็นพระเงินปัจจัยที่จะเอาไปช่วยอย่างอื่นมันไม่สามารถมีพลัง อย่างเงินสามร้อยเอาไปช่วยอะไรได้ พันนึงช่วยอะไรได้ แต่นี่คือแบบอยากช่วยอะไรที่มันแบบ ขับรถก็ไม่ได้ไปไหนก็ไม่ได้ก็คิดว่าเออมันคงจะได้รับแล้วล่ะเนอะ ได้กับตัวเองแต่กับคนอื่นก็คงไม่ได้ ก็คิดว่าถ้าศึกออกมาแล้วถ้าเงินก้อนใหญ่ได้ก้อนนึงก็จะได้ช่วยตรงนู้นตรงนี้ได้ เมื่อก่อนผมหมดผมก็ทำการช่วยคน ช่วยหมาช่วยแมวฉีดวัคซีนตามวัด นั่นคือความเป็นผม

       ผมก็เลยตั้งใจว่าถ้าศึกมารอบนี้ผมต้องการช่วยเหลือ แล้วก็ยังสวดมนต์อยู่ นั่งสมาธิ ไม่กินเนื้อสัตว์ และถือศีลแต่ว่าอันคือผมเป็นฆารวาสดังนั้นผมมีเมียได้มีลูกได้ปกติ แต่แค่ว่ายังมีภาพที่ถือศีลอยู่สวดมนต์ได้ ส่งบุญได้เพราะว่าศีลผมเคร่ง

Q. ตอนนี้ก็ไม่กินเนื้อสัตว์หรอ
       : ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ว่าเหล้าก็กินปกติ แต่ต้องอยู่กับที่นะ ต้องอย่าขับรถ อยู่ในที่ที่เราไม่ต้องเดินทางเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับคนอื่น

Q. สิ่งนึงที่มันเหมือนเป็นพลังให้สู้ให้กลับมาคือลูกๆ?
: ลูกๆด้วย ตอนนั้นลูกชายสองคนก็โตแล้ว ลูกสาวอีกคนอยู่อังกฤษก็โตแล้ว

Q.เวลาคิดถึงเขามากๆทำอย่างไร
: ก็โทรหาเขา

Q.ทั้งสามคนไม่มีใครติดต่อกลับมาเลยใช่ไหม
       : คนที่เป็นอะ พ่อทุกคนอยากกอดลูก อยากจะเห็นเขาไปได้ดี อยากเห็นเขามีชีวิตที่ดี แต่เวลาเราไม่ได้อยู่กับลูกมันก็จะมีความแบบเศร้านะ สมมติว่าให้ผมถามเขากลับว่าเขารู้สึกอย่างไรกับผม

Q.แล้วเราเคยคิดที่จะติดต่อเขาไปบ้างไหม หรือติดต่อไปก็ติดต่อไม่ได้
      : ผมต้องพร้อม ผมต้องมีหน้าที่การงานที่ดี ผมต้องมีเงินที่พร้อมจะเอามาช่วยค่าเทอม ซื้อบ้านให้

Q.แสดงว่าเกือบ20ปีมาเราก็ไม่ได้เจอกันเลย
       : ก็นานแล้ว มันก็เลยแบบทำไมเจอเด็กแล้วทำไมต้องให้ตังค์ไปกินขนม

Q.เห็นไปโรงพยาบาลไปรักษาโรคอะไร
: จำได้ไหมว่าผมเคยเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในเรื่องของ bmw ทำลงไปจะทำกับข้าวให้แม่ทานแล้วเกิดขับด้วยความเร็วแล้วก็บินแล้วคว่ำแล้วก็ระเบิดก็เลยมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกข้างหลัง ก็เลยต้องหาเงินก้อนในการรักษาตัวเอง เพราะว่าชีวิตเราถ้าเกิดเป็นพิการหรือง่อยขึ้นมาก็ไม่ได้ทำอย่างที่เราหวังเอาไว้

Q.จริงๆตอนนั้นคือยังไม่ได้ออกจากวงการใช่ไหม ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ
: ออกแล้ว แต่ว่าพอระเบิดตรงนั้นเขาก็ตกใจแล้วก็เป็นข่าว ตอนนั้นผมก็ไม่ได้รู้อะไรหรอกว่าข่าวออก เพราะผมอยู่ในห้องไอซียู

Q.นานรึยังเหตุการณ์นี้
: นานมาก

Q.แล้วตอนนั้นเงินที่เราเก็บมามันหมดไปแล้วไหม
: ตอนนั้นยังไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะผมก็ทำธุรกิจ

Q.แต่ก็คือยังต้องรักษาต่อเนื่อง
: หมายถึงว่าตอนเกิดอุบัติเหตุ ตอนนั้นผมทำธุรกิจแล้ว ผมมีบริษัท คือไม่ได้เดือดร้อน เพราะรถทุกคันที่ผมซื้อก็ซื้อเงินสด แล้วรถนั้นพึ่งได้มาผมซื้อสด แต่บังเอิญว่าพลาดเองด้วยความประมาท มันก็เลยกลายเป็นว่าทำให้เราไม่ได้อยู่วันเกิดกับแม่ วันนั้นต้องมารอหมอผ่าตัด ทั้งๆที่เจตนาเราต้องการจะลงไปหาแม่ในวันเกิดเราเอง เพราะว่าผมคิดเสมอว่าวันเกิดผม ผมไม่ควรจะมานั่งเลี้ยงวันเกิดกับเพื่อนๆ เพราะวันเกิดผมคือวันที่แม่เจ็บตัวมากที่สุดเพราะอยากเห็นหน้าผม ผมต้องไปเอาใจเขา ไปกราบเท้าเขา ไปขอบคุณเขาที่ทำให้ผมได้เกิดมา

Q.ทั้งหมดนี้ก็ได้เห็นว่า เพื่อนเขามาช่วยเหลือกันค่อนข้างเยอะ เพื่อนติดต่อมาช่วยเหลือเยอะไหมหลังจากเป็นข่าวออกไป
       : เอาง่ายๆคือตอนนี้คือประมาณว่ามีแต่คนถามว่าผมอยากทำอะไร ให้ช่วยยังไง

Q. ริวอยากทำอะไร
       : ผมแค่อยากได้ความรักแต่นั้นเอง ผมไม่ได้ต้องการอะไรเลย แต่อย่าลืมนะว่าเมื่อเกิดความรักต่อกัน ปรารถนาดีต่อกัน แสดงว่าเราเริ่มไว้ใจกันที่เราจะรู้จักกัน ไม่ว่าจะเดืดร้อนถ้าเราพอมีกำลัง ดีกว่ายืมแล้วไม่คืน บางคนมีชีวิตสบายแต่ไม่คืน
Q.งานในวงการติดต่อมาบ้างไหม
       : ก็มีติดต่อมา คนในวงการหรือว่าคนดูหรือดาราที่เขาอยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยพวกผู้จัดรายการต่างๆ ก็หาบทให้ผมเล่น ให้ผมได้โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงได้ ให้ผมได้ใส่ฝีมืออีกครั้งนึง แล้วผมจะตั้งใจทำมันให้ดี

Q. ล่าสุดดราม่าที่เพื่อนโพสต์แฉ มันเกิดอะไรขึ้นยังไงเห็นว่าเคลียร์กับเพื่อนคนนี้ไปแล้ว
       : เคลียร์หมายถึงว่าเขาเข้าใจผมแล้ว จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องส่วนตัวด้วยที่ผมคบกับใคร เขาจะให้อะไรผมมันก็เรื่องของผู้รับ คนเราคบกันถ้าเขาจะให้พระก็ให้พระแล้วมันเกี่ยวอะไรกับใคร แล้วถ้าเขาจะให้เงิน แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับใคร แต่ว่าคนนอกอะมีเจตนาอะไรที่คอยจะตามว่ามีอะไร

       เพราะฉะนั้นอะไรที่มันไม่เข้าที่เข้าทางเราก็อย่าไปให้ความสำคัญ เราอย่าไปโชว์หรือชูมันขึ้นมาให้เกิดเป็นท็อปปิคเกิดเป็นกระแส เขาเรียกว่าอย่าไปให้น้ำหนักกับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ เพราะว่ามันเป็นกระแสจิตที่คิดไม่ดี ผมก็คิดว่าถ้าได้สิ่งที่ดีๆให้คนทางบ้านเห็นหรือว่าคนที่เป็นแฟนคลับได้รับรู้ แทนที่ผมเข้ามาดีแล้วผมก็ทำตัวดีแล้วแทนที่จะปล่อยผ่านไปก็ขอให้มันผ่านๆไป ผมคิดง่ายๆแค่นั้นเลยว่าเราจบปัญหากันง่ายๆแล้วก็กลับมากินข้าวด้วยกันที่บ้าน

Q. ความสนิทกับเขายังเหมือนเดิมไหม
       : ก็คุยกันแล้วว่ากลับมากินข้าวกันต่อได้ ก็คือไม่ถือโกรธ ไม่ว่าจะมีอะไรก็ค่อยๆปรับความเข้าใจกัน

Q.กลัวไหมว่าถ้าเราดังขึ้นมาอีกครั้งนึง จะมีเรื่องกวนใจดราม่าอะไรเกิดขึ้นง่ายๆ สมัยนี้มีดราม่าเยอะมาก
      : ก็ไม่รู้ว่าละครในชีวิตจริงกับละครในทีวีมันต่างกันไหม แต่คิดว่าน่าจะเป็นเนื้อเดียวกันอยู่ดี เพราะว่าในชีวิตจริงทุกคนก็ละครกันอยู่เหมือนเดิม