สัมภาษณ์พิเศษ “น็อต วรฤทธิ์” เล่าเรื่อง “พ่อตุ่ม ชลิต” กับบทบาทเศรษฐีสวนทุเรียน
เรียกว่าอีกบทบาทหนึ่งของนักแสดงเพื่ออาวุโสก็มักจะออกไปทำงานอื่นๆ ในแบบที่ถนัดหรือสนใจ หรือมีทีมีทางก็มักจะไปทำสวนหรือทำกิจการอื่นๆที่พอให้มีรายได้
ล่าสุดดาราเดลี่เปิดใจพิเศษ “น็อต วรฤทธิ์” เล่าเรื่อง “พ่อตุ่ม ชลิต” กับบทบาทเศรษฐีสวนทุเรียน
อ่านต่อ:“เพชร กรุณพล” ตอบชัดหลังชาวเน็ตบอกให้เลิกคบ “น็อต วรฤทธิ์”
Q. อยากให้เล่าเรื่องคุณพ่อตุ่ม กลายเป็นข่าวเรื่องเศรษฐีทุเรียน
ไม่ใช่แบบที่ทุกคนเข้าใจคือแบบนี้ พี่ก็รู้คือพ่อไปอยู่จันทบุรีนานแล้ว ทำรีสอร์ท ทำสวนทำไร ท่านชอบแบบนั้นมาก แล้วโควิดก็ไม่มีลูกค้าช่วงหนึ่ง คือก็ไปเน้นทำสวนทุเรียน
แล้วเรื่องคุณพ่อไปอยู่จันทบุรี 30-40 ปีแล้ว แกชอบทำไร่ทำสวน ชอบต้นไม้ คือเรื่องรีสอร์ตที่นี่เริ่มทีหลัง อีกส่วนคือผมอยากทำรีสอร์ตพื้นที่ริมทะเล เลยมาคุยกันร่วมกันทำกับคุณพ่อ หลักๆก็มีสวนทุเรียนแล้วก็ทำรีสอร์ต ลงสวนประมาณ 50 ไร่
Q.50 ไร่เลย จัดการยังไงครับ
ก็มีคนสวน เวลาอ่านข่าวเหมือนพ่อทำคนเดียวนะ 55 ก็ดี จริงๆ เราวางแผนกัน มีคนงาน มีการจัดการ ต้องคิดประชุมกัน กว่าจะได้ทุเรียนแบบในข่าว แล้วใช้เวลา ไม่ได้มาในวันเดียวหรือปีเดียว ทำกันมานาน
Q. ผลผลิตเก็บเกี่ยวกันได้มากน้อยอย่างไร ลงมือกันอย่างไร
ก็ทำผลผลิตให้พอสมควร แต่ก็ไม่ได้ถึงร้อยล้านอะไรขนาดนั้น ด้วยปัจจัยหลายอย่าง จ้างคนงานต่างๆอีกด้วย ผลผลิตก็ออกมาดีก็พออยู่ได้ คุนพ่อก็อยู่ที่จันทบุรี ปีนี้ 77-78 ปี ยังคล่องตัว แล้วก็ยังแข็งแรงอยู่ครับ
Q. เล่าเรื่องความอบอุ่นในบ้านหน่อย เห็นในไอจีแล้วปู่มาเยี่ยมหลานๆ น่ารักมากๆ
ส่วนเรื่องที่บ้านผมนี่ ครอบครัวเรามีหลาน 2 คน มีลูกผมแล้วก็ลูกพี่สาวผม คือผมไม่ค่อยได้ไปหาพ่อ เวลาพ่อมีเวลาท่านจะมาหาหลานๆเอง ก็น่ารักดี อบอุ่นแบบครอบครัวเรา จริงๆก็อยากพาลูกไปหาปู่ แต่เราทำงานกัน
Q. เรื่องสวนทุเรียน จะขยายคือจะปรับอะไรอีกไหมครับ
นอกจากสวนทุเรียนแล้ว ก็ยังไม่ได้คิดขยับขยายอะไรมาก เพราะการทำอะไรแบบนี้ต้องใช้เวลาอยู่กับมันให้มาก ถ้าเราไม่พร้อมที่จะทำจริงๆผมคิดว่าไม่เสี่ยงที่จะทำดีกว่า ถ้าให้คุณพ่อทำคนเดียวคงจะไม่ไหวครับ