“สดใส- ดำรง–นก บริพันธ์ ” ร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ครูชลธี ธารทอง” ศิลปินแห่งชาติ
ที่วัดไร่ขิง 24 ก.ค. 2566 ได้มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดย โกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นผู้อัญเชิญน้ำหลวงพระราชทาน
จากนั้น “นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมเชิญพวงมาลาพระราชทาน จากนั้นพระสงฆ์สวดอภิธรรมศพ โดยพระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เจ้าคณะภาค 14 เป็นประธานพิธีสงฆ์
อ่านต่อ:“อ.เกรียงศักดิ์ ประคองวงษ์” ชมเชย “นก บริพันธ์” ผู้สืบสานรายการแบบ “พนม นพพร”
ทั้งนี้ “ครูปุ้ม ศศิวิมล” เผยถึงการจัดการงานศพของ “ครูชลธี ธารทอง” ว่าเราจะสวด 7 วัน แต่ละเว้นในวันที่ 28 ก.ค. จากนั้นก็จะบรรจุไว้ 100 วันเพื่อรอพระราชทานเพลิงศพ ครูปุ้มมีความปลาบปลื้มใจที่วันนี้ เราได้รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และมีผู้ใหญ่ในวงการมาร่วมงานมากมาย ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่นปัญหาลิขสิทธิ์เราจะแถลงข่าวภายหลัง
ด้าน “นก บริพันธ์ ชัยภูมิ” นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งเผยที่งานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ครูชลธี ธารทอง” ว่า สำหรับครูนั้นฉายาเทวดาเพลงนั้นไม่เกินจริงเลยเพราะผลงานเพลงเป็นตำนานความยิ่งใหญ่ กับยุครุ่งเรืองที่สุดของวงการเพลงลูกทุ่ง เพราะท่านสร้างผลงานไว้มากมาย ตั้งแต่ คุณ “ยอดรัก สลักใจ”
“และลูกทุ่งทุกยุคทุกสมัยที่ครูได้แต่งไว้ ล้วนแล้วแต่มีคุณค่า อยากให้ทุกคนได้รณรงค์สืบสานสิ่งที่เป็นตำนานให้มีคุณค่ายิ่งขึ้น เวลาแต่งเพลงเอง ครูมักจะร้องไปด้วย วีธีการร้องของครูจะไม่เหมือนใคร แตกต่างเวลามีเรื่องอะไร ไม่เคยโทรตาม แต่ครูจะมาเองตลอด รู้จักกับครูมาตั้งแต่เด็ก เริ่มเข้าวงการ สมัยก่อนท่านเชียร์รำวงอยู่คณะลูกทุ่งดาวทอง
ผมได้มีโอกาสไปพบครู ก่อนที่ครูจะจากไป และขออนุญาตบันทึกเสียงครูเพื่ออวยพรให้กับศิลปินชาวลูกทุ่ง ที่มีความห่วงใยกับพี่น้องทุกๆคน เป็นครั่งสุดท้าย จากศิลปินแห่งชาติคนนี้ ถึงแม้วันนี้ครูจะจากไป ก็เชื่อว่าสิ่งที่ครูคิด ฝัน และสิ่งที่ครูฝากไว้ให้กับพวกเรา ก็คือ คำแนะนำที่ดีและผลงานต่างๆมากมายขอบท่าน จะอยู่ตราตรึงให้ทุกคนได้จดจำในสิ่งที่ดีดีครับ
“สดใส รุ่งโพธิ์ทอง” เผยว่าเพลงที่ผมได้จากครูชลธีคือ หน้าอย่างเธอจะรักใครจริง เพลงนี้ดังที่สุด เพลงที่สองสิบล้อรอรัก เพลงที่สาม ไม่รักอย่ามอง เพลงที่สี่ คนจนอย่างพี่ถามทำไมไม่พูด ก็ถือว่าวงการลูกทุ่งสูญเสีย วันนี้เรามาลาครู และคงไม่มีนักแต่งเพลงแบบนี้อีกแล้ว
“ดำรง วงศ์ทอง” ศิษย์คนสุดท้ายเผยว่า เหมือนกับเสียร่มโพธิ์อีกร่มหนึ่ง วันนี้รู้สึกเสียงใจที่เสียครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นผู้ที่ให้กำเนิดผม เหมือนพ่อคนหนึ่งครูเป็นคนพาผมเข้าวงการเพลงแรกที่ครูแต่งให้ผมคือยังรักเสมอ ซึ่งเป็นเพลงที่มีความหมาย ตอนนี้ท่านก็จากไปแล้วรู้สึกเสียใจท่านเป็นผู้ที่มีพระคุณอย่างสูงท่านเปรียบเสหมือนพ่อแม่อีกคน ระหว่างผมกับครูไปมาหาสู่กันตลอดบ้านอยู่ไม่ไกลกันผมอยู่บ้านโป่งครูอยู่ท่าม่วงก็ไปมาหาสู่กัน เจอครั้งสุดท้ายป่วยหนักที่โรงพยาบาลเมืองกาญจน์แล้วก็มาที่มะการักษ์ไปเยี่อมกับ “พี่ต้อม เสรี รุ่งสว่าง” ครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลมะการักษ์ที่โรงพยาบาลศิริราชผมไม่ได้ไปเมื่อเช้าผมก็ได้ไปรับร่างทานที่กลับมาที่วัดไร่ขิง เพลงที่ท่านเขียนให้ผมมากหมายเลยที่เดียวหลายท่านที่เคยฟังคือหนุ่มราชภัฏแล้วก็เพลงที่ทุกคนชื่นชอบเป็นพิเศษเลยเพลงนี้เป็นเพลงหวานเพลงผู้หญิงคนสุดท้ายอยากจะบอกครูนะครับช่วงเจ็บปวดมาหายเดือน ตอนนี้ท่านไปสบายแล้วไม่ต้องเจ็บปวด