“ปั้นจั่น ปรมะ” รับตกหลุมรักสาวหมวย “โจมิ” ยังไม่แพลนอนาคต
“ปั้นจั่น ปรมะ” เผยที่กองละครบุหงาสาหรี ช่องวัน31 กรณีเปิดตัวแฟนใหม่ชื่อ “โจมิ” ว่า “โพสต์ล่าสุดลงรูปแฟนสาว ไม่ได้เป็นการเปิดตัวนะ คิดว่าเป็นการลงรูปแบบคนคบหากันปกติ ตอนนี้ไม่โสดแล้วครับ ไม่ได้คลั่งรักแค่อยากให้เสมอต้นเสมอปลายครับ เวลาสัมภาษณ์ก็อยากให้มันดี เราว่าครั้งนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว เพราะว่าเราพร้อมแล้ว คือถ้าหลุดคนดีดีไปอีก คงจะไม่มีแล้วแหละ ชีวิตเราตอนนี้ไม่ได้หวือหวาอะไรละ ทำงาน เล่นกีฬา กลับบ้าน นอน ทุกวันแบบนี้วนไป”
อ่านต่อ:ส่องไลฟ์สไตล์ “โจมิ” หวานใจ “ปั่นจั่น ปรมะ” ช่างตรงกันหลายอย่าง
“ผมล้างมือในอ่างทองคำ ถอดเขี้ยวเล็บหมดแล้ว มนุษย์คนเราก็อาจจะมีพลาดกันบ้าง แต่ไม่พลาดน่าจะดีที่สุด ตอนแรกก็เห็นผ่านๆกัน รู้จักกันเกือบจะปีแล้วนะ อาจจะนานกว่านั้น เคยเห็นหน้ากัน แต่ไม่ได้พูดคุย ยังไม่ได้สนิท แล้วก็ไม่ได้มีใคร เรายืนตีกอล์ฟคนเดียว”
เขาเผยที่มาของแฟนใหม่และการปรับตัวหากันว่า “ ไม่ได้มีคนคอยเชียร์ เราก็แค่รู้จักเพื่อนของเค้าบ้าง กลุ่มเพื่อนใกล้ๆกัน แต่ผมไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว พอเราโตขึ้นการเชียร์ก็ไม่ได้มีผลนะ มันขึ้นอยู่กับตัวเรามากกว่า ว่าจะเลือกยังไง พิจารณาจากอะไร มันก็เป็นเรื่อวที่เราต้องดูกันเอง เพราะเราก็โตด้วยกันทั้งคู่ ไม่ใช่เด็กๆหรือวัยรุ่นแล้ว”
“คือปกติผู้ชายจะเริ่มจากชอบมากมาก แล้วค่อยๆลดลง แต่คนนี้คือเราค่อยๆรู้จักกันจากคนรอบข้าง แล้วก็ค่อยๆเพิ่มทีละนิด แต่จริงๆเขาเป็นคนน่ารัก สวย ดูดีอยู่แล้ว พอเรารู้จักไปเรื่อยๆ ความรู้สึกก็เหมือนค่อยๆเติม เขามีน้ำใจกับผมมาก คอยดูแลแล้วก็ใส่ใจความรู้สึกเรามากๆ เราก็พยายามปรับตัวเข้าหากัน เราก็มาจากความไม่เพอร์เฟคทั้งคู่ ในเรื่องของความรู้สึก ทุกคนมีเรื่องราวที่ผ่านๆมาที่แตกต่างกัน ส่วนตัวผมเองก็อยากจะเป็นคนที่ดีขึ้นอยู่แล้ว เราก็มาคุยกันแบบเปิดอกแบบผู้ใหญ่ก่อน ว่าเราเป็นกันแบบไหน ยังไง มีข้อเสียตรงไหน ถ้าอะไรที่ผิดพลาดไป ก็เรียนรู้กันไป แต่เราจะไม่ทิ้งกันนะ
“คือความจริงเมื่อก่อนเราคิดว่าเราอยู่ด้วยตัวเราเองได้ แต่พอมีเรื่องความรักเข้ามาเราก็ไม่ได้ปิดกั้น แล้วพอเข้ามาแล้วเหมือนจิกซอที่ลงล็อคพอดี มันก็โอเค”
“พอเวลาเดินด้วยกันมันดีกว่าเดินคนเดียวมั้ย ที่จริงผมว่ามันก็ดีแน่นอนนะ เพราะมันมีคนคอยเทคแคร์ดูแลกันทั้งคู่ พูดถึงเราก็ถามหาความเพอร์เฟคในเรื่องความรักได้ยากเนาะ มันก็คือการเรียนกันไปในทุกๆวัน แล้วก็ทำให้มันดีที่สุด แต่ว่าถ้าเกิดวันนี้ความรักมันลดลงไม่เท่ากัน ก็ต้องปล่อยมือให้เป็นไปตามนั้น”
“สำหรับความน่ารักของเขาก็คือ เขาไม่ได้ตัดสินผมจากเรื่องราวที่ผ่านมา ผมก็รู้สึกว่าส่วนนี้มันค่อนข้างแฟร์นะ ที่ให้ผมพิสูจน์ตัวเอง ที่จริงไม่ใช่แค่ผมฝ่ายเดียว เราต้องพิสูจน์ซึ่งกันและกันด้วยที่จริงเราก็จริงจังกับเรื่องความรักทุกครั้ง จะบอกว่าที่ผ่านมาไม่จริงจังไม่ได้ มันแต่มีอะไรที่เราไม่เข้าใจกัน เราเลยต้องแยกกันไปแค่นั้นเอง”
สำหรับแพลนชีวิตคู่ในอนาคตเขาบอกว่า “ในอนาคตเราก็มีแบบแผนของชีวิตกันอยู่แล้ว เพราะตอนนี้เราก็อายุเยอะขึ้น เขาก็โตแล้วเหมือนกัน มันก็ต้องมีแบบแผนวางแผนชีวิตไว้ แต่ถามว่า มีนก้าวกระโดดไปถึงขั้นมีลูกมั้ย อันนี้ก็ยังพูดไม่ได้ เพราะผมเองก็มีสิ่งที่ต้องทำ มีความฝันอยู่ คือถ้าเราข้ามไปมีลูกเลย ชีวิตเราก็คงไปอยู่กับลูกหมด คือเราไงก็ไม่มีแนวที่ตายตัว แต่สุดท้ายก็มาตายที่สาวหมวยอยู่ดี กับคนอื่นไม่รู้แต่ของผมคือสวยน่ารักครับ”
“ที่จริงเราก็จะบอกว่าคบคนในวงการมันยากเนาะ แล้วเขาก็ไม่ได้อยากคบคนในวงการหรอก แต่อย่างที่บอก เรื่องแบบนี้เมื่อมันเดินเข้ามาหาเรา มันคุยกันแล้วถูกใจมันก็ห้ามกันไม่ได้ ส่วนตัวผมก็กำลังพยายามเป็นที่นิ่งขึ้น เพราะว่าเราอายุเยอะกว่าเขา”
“สำหรับผมแล้วมันคือความรู้สึกดีๆ ที่เราได้มีใครสักคนไว้คอยพูดคุยปรึกษากัน คอยระบายรับฟัง เรื่อวราวชีวิตในแต่ละวัน แต่นี้ผมถือว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้วครับ”