“ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” อัปเดตอาการพี่สาวหลังแท้งรับนอยด์ข่าวลือปิดค่ายเพลง
เธอเผยอัปเดตอาการของพี่สาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หลังแท้งว่า อาการพี่เจนนี่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ แต่คงต้องใช้เวลาสักนิดนึง ตอนนี้หนูกับแม่อยู่กรุงเทพ ก็ช่วยๆกันดูพี่สาวอยู่ค่ะ
อ่านต่อ:เปิดใจ! “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” แชร์ประสบการณ์ หลังสูญเสียลูกคนที่ 2 อัปเดตผ่าตัดขูดมดลูกแล้ว
เธอเล่าว่า “เหตุการณ์วันนั้นหนูไม่ได้อยู่ด้วย เพราะหนูติดถ่ายละคร พอทราบเรื่องหนูก็ตกใจมากๆ เพราะเราก็ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น หนูเล่นเฟสอยู่เลื่อนมาเห็นก็ตกใจ คือสงสารพี่มากๆ เพราะพี่เขาตั้งอยากจะได้ลูกชายตั้งแต่คนแรกแล้ว มาคนนี้เขาก็หวังว่าเป็นผู้ชาย แต่พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น น้องไม่มีชีวิตอยู่แล้ว คือพี่ยูจะเสียใจหนักกว่าพี่เจนมากๆค่ะ เพราะอายุน้องตอนเกิดเหตุการณ์ขณะนั้นประมาณ 8 สัปดาห์ค่ะ ( 2 เดือน )”
“ส่วนสาเหตุหนูก็ไม่มั่นใจ ที่คิดกับแม่ น่าจะเป็นเรื่องทำงานหนัก พักผ่อนน้อย แล้วก็เครียดเยอะ อะไรประมาณนี้ค่ะ”
ส่วนกรณีที่เธอโพสต์ค่ายเพลงและลือกันว่าจะปิดค่ายเพลง ลิลลี่บอกว่า “เรื่องการปิดค่ายเพลง ก่อนหน้านี้เป็นตัวหนูเองที่นอยด์มากกว่า คือพอเราอยู่คนเดียวแล้วคิดมาก ด้วยความที่เมื่อกว่า 3-4 ปีที่แล้ว มีคนอยู่กับเราเยอะ พี่ๆศิลปิน 20-30 คน เวลาเราไปทัวร์คอนเสิร์ตก็รู้สึกไม่เหงา ด้วยความที่เราเป็นเด็กด้วยเราอยากมีเพื่อนคุยเพื่อนเล่นเยอะๆ พอมาตอนนี้เหลือแค่ 2-3 คน เราก็เลยรู้สึกเหงา พี่เจนก็อยู่กรุงเทพด้วย เราก็เลยนอยด์ๆในช่วงนั้นค่ะ เราคิดว่าถ้าวันนึงตรงนี้ต้องโดนปิดไปแล้วเราอยู่คนเดียวมันคงจะหนักกว่านี้”
“ส่วนเรื่องค่ายเพลงยังไม่ปิดนะคะ พี่เจนก็ไม่ได้เครียด แต่เขากำลังกระตือรือร้นเรื่องเพลงหนู เหมือนเขากำลังบีบตัวเอง คิดเรื่องเพลงหนูบ้าง ดูแลน้องยูจินบ้าง ทำงานบ้าง ถ่ายภาพยนต์บ้าง แล้วมันเยอะเกิน คือหนูกับแม่ก็เตือนพี่เจนตลอด ถ้าหนูพูดคนเดียวพี่เจนจะไม่เชื่อ ถ้าแม่พูดคนเดียวพี่เจนก็ไม่เชื่อ แต่ถ้าหนูกับแม่พูดด้วยกัน เขาถึงจะยอมเชื่อค่ะ ก็บอกเขาว่าอยากให้ลดเรื่องตรงนี้น้อยลงหน่อย คือเราเป็นห่วงเรื่องสุขภาพด้วย แล้วพอมาเจอเหตุการณ์ล่าสุดก็คือต้องหยุดจริงๆนะ ต้องน้อยลงจริงๆ พี่เจนก็เป็นคนค่อนข้างดื้อ ถ้าเรื่องงานนี่จะดื้อมากๆเลย”
ลิลลี่ ยังเล่าถึงชีวิตครอบครัวของพี่สาวอีกว่า “คือจริงๆแล้วหนูจะเข้าถึงพี่ยิวยากกว่า คือปกติคนอาจจะมองเราอยู่หน้ากล้องเล่นกัน แต่จริงๆแล้วพี่ยิวเขาก็อยู่ในโลกของเขา บางเวลาที่พี่ยิวเล่นกับยูจินคือเราก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง เพราะเราคิดว่าให้เวลาพ่อลูกเขาได้อยู่ด้วยกัน ถ้าพี่เจนจะเข้าถึงง่าย แต่ถ้าเป็นพี่ยิวจะให้พี่เจนเป็นพูดดีที่สุดค่ะ”
ตอนนี้ก็เป็นห่วงพี่เจนมากที่สุดค่ะ พี่ยิวยังคงเป็นกำลังใจให้กับพี่เจนได้ แต่พี่เจนเขาทำอะไรหลายๆอย่าง เราก็กลัวว่าร่างกายของเขาจะไม่ไหว ห่วงเรื่องสุขภาพของเขาค่ะ
พี่เจนก็สอนอะไรหลายๆอย่างกับเรา อย่างเช่น เวลาเราคิดมากไปมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย กลับกันมันทำให้สภาพจิตใจเราแย่ลงด้วยซ้ำ เราก็เลยคิดว่า ไม่ต้องคิดมากดีที่สุด ทำวานอย่างเดียวแบบที่พี่เจนบอก
สำหรับกรณีโดนบูลลี่หน้าตาและหุ่น “ลิลลี่”บอกว่า
“การรับมือกับคอมเมนท์ที่รุนแรงจริงๆ ถ้าโกรธจัดโกรธจริงๆ และโกรธที่สุดอย่างเช่น ด่าแม่เรา แต่ด่าหนูไม่ค่อยโกรธ เราก็จะคอมเมนต์กลับแบบใช้คำพูดที่ซอฟต์ๆ แล้วพยายามใช้คำพูดที่ทำให้คนที่คอมเมนท์ได้คิดสักนิดกับสิ่งที่เขาพิมพ์มาให้กับเรา ถ้าเขาโดนแบบนี้หล่ะ เขาจะรู้สึกอย่างไร หรือว่าถ้าคนในครอบครัวเขาโดนเขาจะคิดยังไงบ้าง แต่หนูก็ไม่ได้กล้าต่อปากต่อคำขนาดถึงนั้นค่ะ ในวงโคจรของเราเลือกเฉพาะคนที่รักเรา ซัพพอร์ตเราดีกว่า ให้คนที่ไม่ชอบเราไปอยู่อีกวงโคตรนึง”
“เวลาเจอพลังลบ หนูก็เอาพี่เจนนี่เป็นตัวอย่างค่ะ เพราะเขาโดนหนักกว่าหนู โดนด่า ดราม่าเยอะกว่าหนู แต่เขาก็ยังอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ แล้วดังอีกด้วย เราก็ต้องอดและทนให้ได้แบบพี่สาวเราค่ะ”
“จากเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา ก็ถือว่าหนัก แต่หนูไม่คิดว่ามันเร็วเกินไปสำหรับอายุของหนู เพราะหนูมองว่ามันก็ดีที่เราได้เจอและรับมือได้เร็ว กับคนอื่นที่อายุเท่าเราแต่เขาไม่ได้แบบเรา แต่ไปเจอในอีกช่วงอายุที่มากกว่านี้ เขาอาจจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เรายังถือเป็นเรื่องดีที่เราไม่ได้สูญเสียความเป็นตัวเองไปตอนนี้”
“ทำให้รู้สึกว่าเราโตขึ้นจากเรื่องราวเหล่านี้ เหมือนเจอก่อน แก้ไขรับมือได้ก่อน ก็ทำให้เติบโตได้ไวค่ะ ในบางเรื่องดราม่าก็จะมีพี่เจนคอยสอนอยู่ตลอด แต่เรื่องทางความคิดหนูพยายามคิดให้ได้เองมากกว่า”
ขอบคุณทุกกำลังใจทุกคอยส่งมาซัพพอร์ตทางครอบครัวเรา ไม่ว่าจะเป็นแม่ พี่เจน หรือตัวหนูเอง ขอบคุณทุกคนจริงๆ เพราะว่ากำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาล่าสุด ทั้งกำลังใจจากทางครอบ และเพราะกำลังใจจากแฟนคลัปจากช่องทางออนไลน์อีกด้วยค่ะ