โตแล้วคลั่งรักได้! “ปั้นจั่น” แฮปปี้รัก “โจมิ” ลงภาพคู่อยากให้รู้มีเจ้าของแล้ว
หลังจากที่นักแสดงหนุ่ม “ปั้นจั่น ปรมะ” เปิดตัวแฟนสาวนอกวงการ "โจมิ" ไป ก็ทำเอาหลายๆ คนเซอร์ไพรส์ไม่น้อย เพราะเจ้าตัวเก็บเงียบมานาน พอเปิดตัวทั้งทีก็เลยทำหลายๆ คนฮือฮา แถมแฟนสาวคนนี้ก็สวยไม่แพ้ดาราอีกด้วย
อ่านข่าวต่อ : “ปั้นจั่น ปรมะ” ช่วงนี้เล่นกอล์ฟหนักจนแฟนถาม “ระหว่างกอล์ฟกับหนูเลือกอะไร?!” คำตอบจึ้งสุด!
ล่าสุดมีโอกาสเจอ “ปั้นจั่น” จึงอัปเดตเรื่องราวความรัก ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่า… “ความรักก็ดีตามในโซเชียล มันไม่ได้เรียกว่าคลั่งนะเธอ ก็ตามปกติแหละ ก็เปิดเผย ก็ต้องให้เกียรติเขา ไม่ใช่จะเอาเขาไปเก็บไว้ในที่ลับ เวลาเราไปไหนจะได้มีใครรู้แจ้งว่าเรามีเจ้าของนะ ลงรูปเองเลยก็โตแล้ว ส่วนใหญ่รูปกอล์ฟเยอะกว่ารูปคู่ เยอะกว่ารูปละครอีก ก็หวังว่าจะเป็นคนนี้ พยายามทำทุกครั้งให้มันดีที่สุด ไม่มีใครหรอกที่มีความรักแล้วมันไม่ดี แต่ถ้ามันไม่ใช่ให้ผมทำยังไง มันลิขิตไม่ได้ ต้องใช่ที่สุดอยู่แล้ว มีแพลนคุยอนาคต แต่ปั้นบอกรับละครทีละเรื่อง เวลาที่เหลือไปซ้อมกอล์ฟ ที่ซ้อมเพราะอยากให้ไปได้ดี บางทีก็มีน้อยใจบ้างนิดหน่อย เราซ้อมกีฬาเยอะ คือผมเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมกับแฟนได้ แต่เวลาซ้อมกีฬาชอบทำคนเดียว บางทีเวลาเลยอาจจะน้อย เพราะเราซ้อมเยอะ คุยกันแล้วเขาเข้าใจ เพราะเขาก็เป็นคนเล่นกีฬาเหมือนกัน เป็นพี่จะเอาแฟนไปเป็นแคดดี้ เขาก็ไปแต่บ่นร้อน เพราะผมไปกลางวัน ผมคลั่งในการเล่นเป็นกีฬาจริงๆ เราก็ต้องไปซ้อมกลางวัน ไปซ้อมกลางคืนผิดวิสัย คนมันมีอดีต เป็นคนดีไม่มีใครเชื่อ
ตอนนี้ในสายตามองเขาคนเดียว รักมาก ความรักนะมันไม่ต้องพูดใช้คำก็ได้ ดูวิธีการปฏิบัติตัว คนเราจับมือกันไปนะ มันไม่ต้องไล่เรียงอะไรกันมาก ประสบการณ์จะทำให้เรารักกันมากขึ้น ความเข้าใจต่างหากจะทำให้เรารักกันมากขึ้น คือผมก็อายุเยอะแล้ว แต่ว่าไม่อยากจะบอกเป็นนัยเวลาที่กำหนด มันก็ใกล้ถึงเวลาแล้วล่ะ ขอทำขมวดความฝันนี้ให้สำเร็จก่อนก็คือเรื่องกอล์ฟ ถามว่าจริงจังแค่ไหน คือจริงจังเลย ก็เข้าไปแข่งแมตช์อาชีพถ้าสำเร็จ ปีหน้าก็แต่งเลย
จริงๆ ก็ทำเป็นอาชีพหลักก็ได้นะ แต่งานละครมันทิ้งไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่ต้นแล้ว เราทิ้งไม่ได้ มันเสียดายโอกาสที่ได้ตรงนี้ ผมยังมีความสุขกับการเล่นละครอยู่ ไม่ได้รับโหลดแบบแต่ก่อน และเรารู้สึกว่าอยู่ในจุดที่โตแล้ว และเราอยากจะเลือกบท หรือเลือกคนที่เราอยากร่วมงานด้วย ไม่ได้บอกว่าเรื่องมากนะ เพราะเราบอกไปว่าเราไม่มีเวลาตรงตรงนี้ ได้ไหมครับ”