ยอดหดเข้าไทยห่างไกลยอดเดิม! “ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์” อ่านเกม “ฟรีวีซ่าจีน” อาจไม่ค่อยได้ผล เศรษฐกิจขาลง ประชาชนงดออกนอกประเทศ
หลังเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ประชุมครม.นัดแรกเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน คือ มาตรการ “ฟรีวีซ่า” สำหรับนักท่องเที่ยว 2 ประเทศ คือ จีน และคาซัคสถาน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกระตุ้นการเดินทางในช่วงวันชาติจีน ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนนี้ และช่วงตรุษจีนในปีหน้า ขณะที่คาซัคสถานเป็นตลาดศักยภาพที่สามารถเพิ่มการเดินทางเข้าไทยได้
ขอบคุณรูปภาพจาก FB นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน
อย่างไรก็ตาม “ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์” นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้เผยหลังไปร่วมงาน “เมดิคอลแฟร์ ไทยแลนด์ 2023” กลับมองว่ามาตราการฟรีวีซ่าจีนนี้ “อาจไม่ค่อยได้ผล” โดยมองว่า แม้ฟรีวีซ่าเป้าหมายหลักคือประเทศจีนซึ่งในปี2019 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในไทยกว่า 10 ล้านคน แต่ปีนี้ทั้งปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพียง 2.2 ล้านคน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 22 ล้านคน
เนื่องจากปัญหาภายในประเทศจีนเองที่ GDP ลดลงอย่างมากจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในจีน ทำให้ประชาชนต้องรัดเข็มขัดและลดการเดินทางออกนอกประเทศ เพราะฉะนั้น “ใครที่กำลังหวังลูกค้าจีนตอนนี้ยังมีโอกาสน้อยมาก” ดังนั้นมาตราการฟรีวีซ่าที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงมีการประเมินว่า “จะไม่ค่อยได้ผล”
“ภาพรวม 6 เดือนที่ผ่านมาประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 22 ล้านคน เบอร์ 1 กลับเป็นมาเลเซียไล่มาเป็นกลุ่มประเทศอาเซียน เพราะฉะนั้นถ้าจะหวังคนจีนตอนนี้คงยากหน่อย ส่วนนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนโยบายของภาครัฐมุ่งเน้นไปที่ Quality tourism ทั้งหมด ดังนั้นแล้วโดยปกติจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะมีสัดส่วนราว 6-8% จากยอดนักท่องเที่ยวทั้งหมด ดังนั้น Medical tourism ปีนี้เราคงหวังกับจีนไม่ได้แล้ว”
นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวต่อไปว่า ถ้าประเทศไทยจะผลักดันให้เกิด Medical tourism โดยเร็วรัฐบาลต้องผลักดันให้เร็ว ควบคู่ไปกับการสร้างและพัฒนาบุคลากร Set up Infrastructure รวมทั้งระบบเก็บข้อมูลใหม่ ที่สำคัญคือต้องพัฒนาMEDICAL DEVICE แม้ว่าวันนี้ไทยยังผลิตสู้จีนไม่ได้ แต่ต้องส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผลิตออกมาขายรวมทั้งส่งเสริมการผลิตยาสามัญทั่วไปในประเทศซึ่งจะทำให้ต้นทุนการรักษาถูกลง
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ