“เบนซ์ เรซซิ่ง” เผยแผลในใจตลอด 6 ปี ถามใครจะรับผิดชอบอิสรภาพ ชื่อเสียงที่สูญเสีย
จากกรณีที่ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง “นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” หรือ “เบนซ์ เรซซิ่ง” คดีค้ายา เนื่องจาก พยานหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วนความผิดฟอกเงินในชั้นอุทธรณ์ เหลือจำคุกครบ 3 ปี 4 เดือน แต่เนื่องจากเบนซ์ เรซซิ่ง รับโทษติดคุกมานานกว่า 4 ปีอยู่ในเรือนจำครบจำนวนวันแล้ว จึงให้ปล่อยตัววันนี้
อ่านข่าวต่อ: โมเมนต์น่ารัก! เมื่อ “แพท ณปภา” พาลูกชายกราบแม่ “เบนซ์ เรซซิ่ง” ในวันตรุษจีน
ล่าสุดที่หน้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง “เบนซ์ เรซซิ่ง” พร้อมคุณแม่ได้ออกมาเปิดใจหลังศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง คดีค้ายา-ฟอกเงิน ว่า
ระหว่างที่สู้คดี ตนอยู่ด้วยความหวัง ว่าเราจะต้องได้ประกันตัว เราจะต้องชนะคดี ผมต้องเสียชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ ตั้งแต่มีข่าวพัวพันกับเครือข่ายค้ายาเสพติด การที่ต้องไปคบค้าสมคมกับใคร มันดูขาดความน่าเชื่อถือ ผมไม่กล้าไปทำธุรกิจร่วมกันกับใคร ผมไม่อาจที่จะเปลี่ยนใจใครได้ อย่างน้อยวันนี้ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องคดียาเสพติด ขอให้เคารพการตัดสินของศาลด้วยนะครับ
และประการสุดท้าย ผมอยากจะถามว่า จะมีหน่วยงานไหน ที่ชดใช้สิ่งที่ผมสูญเสียไปได้ สิ่งนี้เป็นแผลในใจผมมาตลอด 6 ปี สิ่งที่ผมสูญเสียคือการได้เลี้ยงดูลูกชายผม ผมไม่มีโอกาสที่จะสอนลูกเดิน สอนลูกวิ่งหรือปั่นจักรยาน ผมไม่มีโอกาสที่จะสอนเรียกพ่อเลยด้วยซ้ำ ผมเข้าใจมันไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ไม่มีใครที่จะสามารถทำให้ผมย้อนเวลากลับไปได้ ซึ่งในวันนี้ผมขอให้คดีความจบที่ตรงนี้ ผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวผม
ส่วนการเรียกเงินชดเชยต้องขอปรึกษาทนายดูก่อน ตั้งแต่เริ่มต้นคดีก็ปฏิเสธมาโดยตลอด ด้านลูกชายมารอรับหรือไม่ “เบนซ์ เรซซิ่งบอกอีกว่าตนไม่ให้ลูกชายมาเยี่ยมที่นี่เพราะไม่อยากให้จดจำในสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่อยากจะทำคือ อยากอยู่กับครอบครัว อยากทานอาหารฝีมือแม่ ซึ่งการพบเจอลูกได้แจ้งไปแล้วว่า ให้ไปพบกันที่บ้าน