ยก “นังอึ๋ง” ให้เป็น “บ่าวแห่งปี66”
เรียกว่าเป็นมุมมองที่น่าสนใจเมื่อมีการโฟกัสนักแสดงแต่ละคนในละครฟีเว่อร์แห่งปี เรื่อง “พรหมลิขิต” โดยเพจดังได้ยกข้อความนักวิชาการและมุมมองที่น่าสนใจว่า “จ๊ะจ๋า แดนดาว” หรือ “นังอึ๋ง” เป็นส่วนผสมหรือส่วนประกอบที่ดีที่สุดในละครเรื่องนี้
และดาราเดลี่ขอยกให้เป็น “บ่าวแห่งปี66”
อ่านข่าวต่อ: เพื่อนดาราแห่เบิร์ดเดย์ “นังอึ่ง” ขวัญใจของแฟนๆ จาก “พรหมลิขิต”
โดยเพจดังกล่าวเผยว่าต่อให้นักแสดงเก่งมากฝีมือสักแค่ไหนถ้าบทไม่ส่ง ไม่ได้รับโอกาสดีๆจมอยู่ในจุดที่โดนเด่นและมีตัวจนก็แถบไม่มีใครจดจำเราได้ความสำเร็จไม่ใช่ของทุกคนเสมอไปแต่เป็นของคนได้โอกาสและทำโอกาสนั้นให้ดีที่สุด #พรหมลิขิต
โดยมีการยกข้อความเพจดังว่า “สำหรับเรานะ เราคิดว่าไม่ควรไปกล่าวหาว่าเขามาได้เพราะเส้นใหญ่เท่านั้น เพราะเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า โอกาสที่เขาได้รับมา เขาทำมันได้ดีแค่ไหนและระบบ casting ประเทศไทย ก็ไม่ได้เป็นการ cast นักแสดงแบบทดสอบความสามารถเสมอไป หลายครั้งเป็นการจิ้มคนรู้จัก หรือดูว่าทางผู้ใหญ่ของช่องมี list รายชื่อใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มนักแสดงที่จะผลักดันในปีนี้ ระบบ castingบ้านเรามันไม่ได้เที่ยงธรรมขนาดนั้น มันก็จิ้มๆอยู่ แล้วตัวเขาต้นได้รับโอกาสที่ดีนี้พอดี ก็ควรเคารพโอกาสของเขาด้วย”
“ถ้าถามว่าให้ตำหนิอะไร ไปตำหนิบทละครที่เขียนขึ้นมาจะดีกว่าไหม? บทที่โป๊บเล่น เขียนยังไงให้พระเอกดูไม่เป็นพระเอก ไม่มีศักดิ์ศรีเลย ถ้าเราเป็นพุดตาล เราคงไปเป็นเมียเจ้าดีกว่า ยังรู้สึกว่า เกรท วรินทรได้บทที่ส่งเสริมความเป็นพระเอกมากกว่าเสียอีก แล้วบทโป๊บก็ดูแย่กว่าบทอื่ง ในแง่ตัวบทที่ดูแข็งแรงหรือน่าติดตาม ดังนั้น เราจะเห็นได้เลยว่า ต่อให้นักแสดงมากฝีมือแค่ไหน ถ้าบทแย่ เขาก็เล่นไม่ขึ้น ไม่ถูกจดจำในทางบวก ไม่ส่งเสริมตัวเขา”
ท้ายนี้แค่อยากให้มุมมองว่า "ความสำเร็จของทุกคนก็เป็นเหมือนกับดราม่านักแสดงนี้ คุณอาจจะเก่ง มีของ มีความสามารถ แต่คุณต้องถูกค้นพบด้วยนะ!" ก็จงหาพื้นที่ที่ไปใกล้แสงหน่อย วิ่งเข้าหาโอกาสมากๆ และทุกครั้งที่ได้รับโอกาสจงจำไว้ว่า เราไม่รู้ว่าโอกาสดีๆครั้งที่ 2 จะวิ่งมาหาชีวิตเราอีกทีวันไหน จงทำโอกาสครั้งที่ได้รับมานั้นให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ