“ปลื้ม” ยอมรับนอกใจ “แอน” จริง! ลั่นจบสัมพันธ์ครั้งนี้กล้าพูดทำหน้าที่แฟนดีที่สุดแล้ว
ก่อนหน้านี้ทั้งฝั่งนักร้องสาว “เบียร์ เดอะวอยซ์” และคู่กรณี “แอน” ออกมาโต้ตอบเกี่ยวกับดราม่าที่เกิดขึ้น ในขณะที่หลายคนถามหาฝั่งฝ่ายชาย “ปลื้ม สิทธิพัฒน์” ที่ไม่ออกมาเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับกรณีนี้ แต่ล่าสุด “ปลื้ม” ได้ออกมาเคลียรน์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยโพสต์ข้อความว่า...
อ่านข่าวต่อ : รู้จัก “พี่ปลื้ม” เชฟหนุ่มหล่อ ที่ตกเป็นข่าวกับ “เบียร์ เดอะวอยซ์”
“มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง… ก่อนอื่นสำหรับเพื่อนๆ พี่น้องทั้งหลายที่แนะนำให้ผมอยู่เฉยๆ อยู่เงียบๆ ไว้ก่อน ผมขอบคุณในความหวังดีของทุกคน แต่วันนี้ผมควรที่จะทำในสิ่งที่ผมควรไปนานแล้ว ผมยอมรับผิดในเรื่องของการนอกใจ และการกระทำที่ไม่ควรเช่นนี้ ผมไม่มีหน้าจะขออภัยใครๆ ด้วยซ้ำ ไม่มีข้อแก้ตัว ผมทำให้หลายๆ คนที่อยู่รอบข้างต้องผิดหวังแหละเสียใจ ผมละอายต่อการกระทำผมอย่างยิ่ง เป็นบทเรียนราคาแพง และผมก็ต้องรับมันไป ผมเสียใจกับแอนอย่างยิ่ง ที่มันเป็นเช่นนี้ผมควรยุติความสัมพันธ์ระหว่างกัน ก่อนที่จะเริ่มมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ มีการจูบขึ้นจริง วันนั้นผมนั่งคุยกับเบียร์ ผมเมา และทำในสิ่งที่น่ารังเกียจนี้เอง
การมองแฟนเป็น ATM .... ในมุมมองของผม การที่ผมได้รักใครสักคน ผมก็อยากจะ Support เขาในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะการใช้หนี้ให้ การออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ผมให้ด้วยความเต็มใจ แต่ผมรู้สึกเหมือนส่วนเกินของเขา บ่อยครั้งที่ผมจะกินข้าวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ดูคอน เสิร์ตคนเดียว ผมเข้าใจว่าเวลางานของเขาเยอะจริง ไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่ในส่วนของการมีเวลาอยู่ร่วมกัน เขามักจะ Enjoy กับคนอื่นๆ มาก กว่าผม ผมรู้สึกน้อยใจในส่วนนี้ เขาบอกว่าเขาแสดงความรักไม่เก่ง และผมก็เข้าใจในส่วนนี้
ผมกับแอนนี่มีปัญหากัน และเคยบอกเลิกเมื่อ 3 ปีก่อน ปัญหาก็ยังมีอยู่บ้าง แต่ว่าตัวผมเองก็ไม่ได้เด็ดขาดพอที่จะทำให้มันจบจริงๆ สักที การจบความสัมพันธ์ครั้งนี้ ผมกล้าพูดว่าผมทำหน้าที่แฟนได้ดีที่สุดแล้ว ในคืนที่เกิดเหตุ ระหว่างที่ผมเคลียร์กับแอน เบียร์มาขอคุยกับแอน เบียร์รู้สึกผิดจริงๆ และจะไม่มายุ่งกับผมอีก วันรุ่งขึ้น เราก็ได้เคลียร์กันจนจบ และจบในวันนั้นไปแล้ว ต่างคนต่างแยกย้าย ในคืนวันที่ 29 มี Fake News ออกมาว่า ผมกับเบียร์แอบมีอะไรกัน ทำให้เบียร์โกรธมาก ไม่ไว้ใจใครอีกเลย และมุ่งเป้าไปที่แอนนี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยเห็นเขาเดือดดาลแบบนี้มาก่อน และผมรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุ ผมขอจบเรื่องนี้แต่เพียงเท่านี้นะครับ”