หวังมีปาฏิหาริย์! “กุ้ง สุทธิราช - จิ้งหรีดขาว” น้ำตาซึม แถลงอาการน้องสาว หายใจเองไม่ได้ แต่ยังมีหวัง

หวังมีปาฏิหาริย์! “กุ้ง สุทธิราช - จิ้งหรีดขาว” น้ำตาซึม แถลงอาการน้องสาว หายใจเองไม่ได้ แต่ยังมีหวัง

       แฟนๆ ยังคงส่งกำลังใจให้อย่างมากมาย สำหรับ “วิรดา วงศ์เทวัญ” หรือ “วิ ฏิญญ์วดี ภูวรุ่งเรืองหิรัญ” น้องสาวพระเอกลิเกชื่อดัง “กุ้ง สุธราช” หลังป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกชนิดรุนแรง โดยอาการตอนนี้ยังถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤตไม่รู้สึกตัว ล่าสุด “กุ้ง สุทธิราช - จิ้งหรีดขาว” ได้ออกมาเปิดใจแถลงข่าวอัปเดตอาการว่า

อ่านข่าวต่อ: 7 วันในรพ. “วิราดา วงศ์เทวัญ”อาการยังทรง “กุ้ง สุธิราช” โพสต์อยากให้ตื่นมาเห็นความรักของทุกคน

         สำหรับน้องวิ น้องติดเชื้อไข้เลือดออกชนิดรุนแรง ก่อนหน้านี้คือไปมาหลายที่ แล้วก็มีอาการป่วยเป็นไข้ และเขามีอาการปวดท้องนิดหน่อย มีอาการขัดเบา ก็มาถามหายา เลยบอกให้ไปหาหมอ หลังจากนั้นก็แยกย้ายไปทำงาน น้องก็กลับไปอยู่ราชบุรี ซึ่งตอนนั้นเขาปวดท้องมีไข้สูง เลยไปซื้อยามาทานเอง จนวันที่ 26 รู้สึกไม่ไหว มีไข้ ปวดท้อง ปวดเนื้อปวดตัวเลยไปหาหมอที่คลินิกแล้วฉีดยามาสองเข็ม เดินไม่ไหวเลย หัวใจเต้นช้า ความดันตก หลังไปฉีดยา

       หลังจากนั้นมีโอกาสต้องเดินทางไปอีกหลายที่ เพชรบูรณ์กลับมาระยอง เลยนัดแนะไปด้วยกัน ก็มารวมกันที่บ้าน เขามาก็เป็นปกติ พอเข้าบ้านก็รู้สึกหนาว เราก็ไล่ให้ขึ้นไปนอนบนห้อง หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกัน

       ตอนค่ำคนดูแลก็พาน้องไป รพ. แล้ว มารู้ตอนเช้าเขาหนาวมากผ้าห่ม 4-5 ผืนก็เอาไม่อยู่ วันไปเยี่ยมเขาก็หลับไป เราก็ไม่ได้ปลุก เพราะเห็นว่าน้องคงเพลีย ก็ลาน้องว่าเสร็จงานแล้วเดี๋ยวจะกลับมาเยี่ยม หลังจากเดินทางไปได้ ชม. คนดูแลก็โทรมาหา ปลุกไม่ตื่น ตาลอย เหมือนมีอาการชักหน่อยแพทย์ก็เข้าไปดูแล เราก็รู้สึกใจคอไม่ดีแล้ว

      ตอนค่ำที่มาถึงก็เจาะเลือดเลยเพราะกลัวเป็นไข้เลือดออก ผลตอนเช้าก็ออกมาเป็นไข้เลือดออกจริงๆ ซึ่งหลังจากนั้นน้องช็อกไปก็ต้องสอดท่อหายใจ เราก็ทำเพราะทางไหนให้น้องปลอดภัยเราก็ทำ ความดันตอนนั้นต่ำ ก็ต้องใช้ยากระตุ้นความดัน แต่ก็ยังไม่ได้ดีขึ้นสักทีเดียว พอเสร็จงานผมก็ตีรถกลับมาทันที น้องก็ยังไม่รู้สึกตัว

        เลยปรึกษากันว่าอยากจะย้าย รพ. แต่ติดตรงที่หัวใจยังไม่ดี ติดตรงที่เคลื่อนย้าย จนสุดท้ายย้ายได้ในบ่ายของวันที่ 31 ก็ย้ายมาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หมอก็มาดูแลบอกหัวใจเต้นไม่ดี ต้องทำบอลลูนหัวใจ มีอาการสมองบวมด้วยเหมือนกัน

      พอกลับมาอีกวันก็อาการค่อยๆ ดีขึ้น แต่ที่หนักอาจจะเพราะกินยาเอง และมาหาหมอช้า อาการเลยหนัก หมอบอกมีแค่ 5% ที่เป็นแบบนี้ ตอนนี้ม่านตายังไม่ตอบสนอง รักษาในสิ่งที่ควรทำ ณ.ตอนนี้ผลของความดันเลือดที่ใช้เครื่องบอลลูนก็บาลานซ์ เอาเครื่องออกหัวใจก็เต้นได้ 35 % ที่หนักๆ ตอนนี้คือที่สมองเพราะยังไม่รู้สึกตัว

       กำลังใจของครอบครัวก็ยังขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอด แต่เราไม่หมดกำลังใจ เราทำทุกวิธีทาง ต้องขอบคุณคุณหมอและพยาบาลที่ทำทุกอย่าง แฟนๆ ก็ทำบุญให้น้องฟื้น คุณแม่ก็บนถ้าน้องฟื้นจะบวช แต่มันรอไม่ได้เลยบวชเลย เราไม่รู้ว่าเปอร์เซ็นมันจะมีมากขนาดไหน แต่ก็หวังปาฏิหารย์ คุณหมอก็ทำเต็มที่ ปาฏิหารย์ต้องดูวันต่อวัน ตอนนี้น้องยังไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ สมองบวมอยู่ โอกาสก็มีเคสที่คุณหมอบอก แต่เคสนี้ยังตอบอะไรมากไม่ได้

        พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจจากที่บ้านไม่มีใครหมดหวังและท้อ หลังจากนี้อีกกี่วันไม่รู้ทุกคนก็หวังพึ่งปาฏิหารย์ และคุณหมอ แฟนๆ หลายคนที่ส่งกำลังใจมาให้น้องเราก็พยายามบอกน้อง หนูต้องสู้ต้องตื่นมารับรู้นะว่ากำลังใจจากทุกคน อยากให้ตื่นมารับรู้ว่าเขาส่งให้หนูเขารักหนูนะ