“แคน นายิกา” เผยความในใจ BNK พรากชีวิตวัยรุ่น วัยเรียน กดดันทุกสิ่ง
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งมุมมองชีวิตของวัยรุ่นคนหนึ่งที่เคยผ่านการเป็นนักร้องระดับซุปตาร์สำหรับ “แคน นายิกา” โดยเธอโพสต์ว่าชีวิตการเป็นนักร้อง BNK มีส่วนทำให้วันเด็กเธอหายไป และทำให้ขาดเพื่อน กลัวแม้กระทั่งว่าไม่มีใครมางานรับปริญญา
อ่านข่าวต่อ: น่ารักไม่ไหว “แคน นายิกา”เปิดตัวหวานใจ
เธอโพสต์ว่า “วันนี้ อยู่ๆก็เข้าไปหาชื่อตัวเองใน pinterest เล่นๆ ปรากฏเจอรูปตัวเองสมัยขึ้นเวที ตอนเป็น BNK เยอะมากๆ มีเรื่องนึงที่ไม่เคยบอกใคร แต่เก็บไว้ลึกๆ เพราะถ้าพูดออกมาในหลายปีที่แล้วคงโดนด่า เช้าเย็นแน่ๆ เพราะเลือกคำพูดที่จะสื่อไม่เก่ง”
“คือเคยไม่ชอบที่ตัวเองเคยเป็น BNK เลย ถึงขั้นไม่เซฟรูปตัวเองสมัยนั้น หรือ apprecite อะไรเลย ด้วยความคิดในวัยเด็กว่า การเป็น BNK พรากชีวิตนอกวง ไปเยอะมาก โดนกดดันไปสะทุกก้าวในการใช้ชีวิต และความคิด เพื่อนในมหาลัยจากตอนแรกมีเยอะมากๆ ก็ค่อยๆหายไป เพราะตัวเราเอง ที่ไม่สามารถแบ่งความสำคัญ ในการเข้าสังคมได้ มันสงสัยไปหมด ว่าเวลาไหนควรให้ใคร เวลาไหนควรสนใจอะไร จนสุดท้ายต้องจบ ปีสุดท้ายคนเดียว แถมกลัวว่าจะไม่มีใครมางานรับปริญญา เครียดหน่อยๆ กับหลายๆเรื่องจนเป็นลม ตามข่าว มันน่าอายนะถ้าให้พูดตรงๆ”
“ แล้วโตมาเป็นผู้ใหญ่ ที่แทบจะทิ้งคนที่ให้ความสำคัญกับเราไปหมด ไม่ว่าจะเพื่อนหรือครอบครัว หลายคนมักบอกว่า คนอื่นในวงยังทำได้เลย แต่ตัวเราในวัย 18 19 นั้นได้แต่ตั้งคำถามว่า แล้วเราต้องทำยังไง เราเลือกอะไรได้บ้าง มีแต่ความสับสนในชีวิตเต็มไปหมด เราเก็บทั้งหมดไว้ไม่ได้หรอ แต่พอพยายามกลับไม่สุดสักอย่าง เพราะวัยวุฒิของเราที่คิดไม่ได้ในตอนนั้น”
เธอเล่าอีกว่า “พอออกจากวง ก็พยายามฝืนใช้ชีวิตแบบเดิมแต่อยู่ๆมันก็ลืมไปแล้ว ว่าก่อนหน้านั้นเราเป็นคนยังไง พอย้ายมาโลกใบใหม่ ที่มีแต่ความจริงจัง และตึงเครียดไม่ว่าจะหน้าหรือหลัง ไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนติดภาพที่เคยเป็นไอดอล เวลาไปพูดที่ไหนอย่างน้อย 1-2 คนจะมองเราอย่าง negative เพราะมันยังมีการถกเถียงถึง วงการไอดอล ในมุมมองที่บางกลุ่มไม่ได้ยอมรับ
แล้วมองตัวเราเป็นแค่เด็กที่แค่หน้าตาคิคุคนนึงเฉยๆ (โลกความจริงช่างน่ากลัว จริงๆรู้นะ เวลาคนเตือน แต่เอาพลังบวกเข้าสู้ให้ถึงที่สุด เวลาคนกันเองมาบอกว่าเราโลกสวย … ในใจคือไม่ได้โลกสวยเฟ้ย! แค่เชื่อมั่นในโลกที่ดีขึ้นเท่านั้น) … ถึงแม้ปัจจุบันจะไม่ได้อายุแค่ 19 จากตอนนั้นแล้ว ภาพที่คนมองเข้ามา มักจะถูกสตาฟไว้แบบนั้น”
“นี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้วหลังจากเด็กสาวคนนึงที่เคยมีความชอบ ความรักในเสียงเพลง และความบันเทิง ได้เติบโตเจออะไรมากมาย ปัจจุบันอายุ 26 เข้า 27 มันไม่ใช่เด็กอีกแล้ว แคนได้เลิกที่จะปฏิเสธด้านนั้นของตัวเอง และยอมรับกับมัน ทั้งหมดคือตัวเรา การเคยเป็น BNK ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น มันคือส่วนนึงที่ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้ รอยยิ้มทุกอย่างที่อยู่บนเวที กับแฟนคลับ เพื่อนๆในวง หรือแม้แต่บริษัทที่ให้โอกาสเราล้วนเป็นความรู้สึกที่แสดงออกมาจริงๆ ขอบคุณทุกๆคนจริงๆที่อยู่ด้วยกันมา”
“สำหรับใครที่ชื่นชอบในการตามศิลปินหรือไอดอล ก็คงฝากไว้แค่ว่า คนพวกนั้นก็เป็นมนุษย์คนนึง คนนึงทำได้แบบนั้น คนนึงทำได้แบบนี้ มีดีในแบบของตัวเองที่แตกต่างกัน คนเราไม่ได้ยิ้มได้ทุกวันหรอก มันก็ต้องมีวันที่ดีและวันที่แย่ ได้แต่หวังว่าอยากให้สังคมไทยเราเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะอาชีพไหนๆ ทุกคนล้วนมีปัญหา และประสบการณ์ที่ต้องเจอแตกต่างกัน … เปิดใจ แล้วคำว่าพัฒนา จะเข้ามา”
เวลาชีวิตหลังจากนี้จะเป็นยังไง ก็ไม่มีอะไรเลยนอกจาก appreciate กับสิ่งรอบตัวที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สังคม อาชีพ สิ่งของ หรือแม้แต่ธรรมชาติ ทำมันให้สุดในทุกๆด้าน วางลำดับความสำคัญดีๆ โอกาสไหนที่เข้ามาแล้วเราชอบมัน ก็จะเต็มที่ให้สุด แค่นั้นเอง …
