“แพท พาวเวอร์แพท” ปล่อยซิงเกิลใหม่ “สแกมเมอร์” ดึง “อุ๋ย บุดดาเบลส” ฟีเจอริงครั้งแรก!

เริ่มต้นปีใหม่กับซิงเกิลใหม่ สำหรับนักร้องหนุ่ม “แพท วรยศ บุญทองนุ่ม” หรือ “แพท พาวเวอร์แพท” ที่ซุ่มทำเพลงแบบไม่มีพัก ล่าสุดปล่อยเพลง “สแกมเมอร์(Scammer)” ให้แฟนๆ ได้ฟังกันวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตการเป็นนักร้องของแพทที่มีการฟีเจอริง(Featuring) และทำเพลงที่มีท่อนแร็ป โดยได้ดึงแร็ปเปอร์ชื่อดัง “อุ๋ย นที เอกวิจิตร” หรือ “อุ๋ย บุดดาเบลส” มาร่วมแจม

อ่านข่าวต่อ: “แพท พาวเวอร์แพท” ตกใจ! ถูกแอบอ้างรับงานตั้งแต่ปี 64 เร่งหาทางออกร่วมกับผู้เสียหาย

อีกทั้งยังได้โปรดิวเซอร์ฝีมือดีอย่าง “จอร์จ เซเว่นด็อก”(วารุศ รินทรานุกูล) ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินหลายคนมารังสรรค์เพลงให้ โดยแพทได้โชว์ศักยภาพทางด้านดนตรีแบบใส่เต็ม ด้วยการทำดนตรีท่อนแร็ป เรียบเรียง และอัดกีตาร์ด้วยตัวเอง จนผลงานออกมาตรงกับใจแพททุกอย่าง ถึงกับยกให้เพลงนี้เป็นเพลงในฝันของตนเองเลยทีเดียว

“สแกมเมอร์” เป็นเพลงแนวซินธ์ป็อปร็อก(Synthesizer pop rock) ดนตรีน่ารัก ฟังง่ายมีจังหวะสนุก ฟังแล้วยิ้มตาม เนื้อหาเพลงพูดถึงการโดนหลอกให้รัก รู้หน้าไม่รู้ใจ มาทำดีด้วยให้ตายใจ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนในสังคมปัจจุบันมักเจอคนมาหลอกลวงได้ง่ายๆ ฉะนั้นก่อนจะคบใครให้ดูดีๆ โดยแพทได้เผยถึงความพิเศษของเพลงนี้ว่า...

“เพลงนี้ดนตรีน่ารักมากๆ เป็นเพลงที่สนุก การใช้คอร์ดเมโลดี้ต่างๆ ฟังง่าย พูดถึงการหลอกให้รัก ทำดีด้วยให้ตายใจ เนื้อหาเพลงจะเกี่ยวกับการเตือน ว่าคนที่เข้ามาสมัยนี้ต้องระวังให้ดี เพราะหลายคนเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ เราจะเจอคนที่เขาแสดงออกด้วยการกระทำให้เรารู้สึกดี ไม่ว่าจะการกระทำ คำพูด ให้เราหลง ให้เราเชื่อในสิ่งที่เขาต้องการอยากให้เราเชื่อ จนอาจจะนำพาไปสู่การหลอกลวงหรือการสูญเสีย

อย่างที่เราเห็นในข่าวบ่อยๆ สแกมเมอร์ก็คือมิจฉาชีพ นักต้มตุ๋น ที่มาหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ แต่ในเพลงนี้พูดถึงการหลอกให้รัก เราเลยหยิบคำนี้มาเป็นชื่อเพลง จริงๆ ในตอนที่ได้เพลงนี้มา ช่วงที่เป็นเดโม(Demo) เป็นเพลงดิบ เพลงนี้ชื่อเพลงว่า “การแสดง” แต่ผมฟังแล้ว ผมอยากขอเปลี่ยนชื่อเพลงให้เป็นชื่อที่มีความน่าสนใจ และตรงกับสังคมปัจจุบันมากกว่านี้ ก็เลยปรึกษากับทางโปรดิวเซอร์เลยเปลี่ยนเป็นชื่อเพลง สแกมเมอร์ ครับ”

ดนตรีแนวซินธ์ป็อปร็อก ฟังแล้วยิ้มตาม โยกตามได้

“เป็นความตั้งใจของผมว่าอยากให้เป็นเพลงที่เข้าถึงได้กับทุกกลุ่ม ฟังได้ตลอด ในเรื่องของชื่อเพลงกับตัวเพลง อาจจะมีความขัดแย้งกันนิดหน่อย ถ้าพูดถึงสแกมเมอร์อาจจะเป็นความรุนแรง แต่จริงๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่น่ารักครับ เปรียบเทียบมุมมองความรักที่เป็นคนโต ผ่านโลกมาเยอะพอสมควร มองออกว่าในรูปแบบนี้ต้องระวังนะ เชื่อใจใครไม่ได้นะต้องดูกันไปเรื่อยๆ

ดนตรีเป็นซินธ์ป็อปร็อก เราชอบดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้ว เราอยากจะให้มันมีความเป็นตัวเองมากขึ้น อยากให้กลิ่นร็อกเข้ามาผสม บวกกับความฟังง่ายก็คือป็อป เราก็มาสอดแทรกในเรื่องความทันสมัย กับเสียงเครื่องดนตรีสังเคราะห์ ถ้าใครได้ฟังก็จะมีความสุขและยิ้มตามแน่ๆ เลย เป็นเพลงที่โยกได้ กระโดดตามได้ ฟังมันๆ”

เป็นเพลงที่ถูกใจที่สุด งานนี้แพทถอดหัวใจทำ มีส่วนร่วมในพาร์ตดนตรีเต็มที่ ทั้งยังโชว์อัดกีตาร์เอง

“ถูกใจมากเลย ด้วยความที่เพลงนี้ผมอยากได้อะไรที่มันมีความใหม่และแปลกไปจากตัวเราบางส่วน เลยตั้งใจว่าอยากจะลองให้คนอื่นทำให้ แต่ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของเราทั้งหมด ผมก็เลยให้ อ.จอร์จ เซเว่นด็อก ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์และซาวด์เอนจิเนียให้กับศิลปินดังๆ มากมายมาทำเพลงนี้ให้ โดยที่ผมให้โจทย์อาจารย์ไปว่าอยากได้เพลงที่ร่วมสมัย ร้องตามได้ง่าย เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุก มีอะไรที่ฟีลกู๊ด แล้วอาจารย์ก็ไประดมน้องๆ ในทีมที่เป็นคนรุ่นใหม่มาช่วยกันทำให้ออกมาตามที่เราให้โจทย์ไป

อาจารย์ส่งมาให้ผมเลือก 5-6 เพลง เป็นเดโมที่ร้องเปล่ากับดนตรี เราก็ให้ทีมในบริษัท มาดู มาฟัง(บริษัทของแพท) ช่วยเลือกว่าชอบเพลงไหน แต่ละคนเลือกมาคนละ 1-2 เพลง ซึ่งมีเพลงที่ตรงกันหมดคือเพลงนี้ มติเอกฉันท์มากๆ โดยตัวผมจะเป็นคนเคาะ คนเกา และร่วมกันดีไซน์ แม้กระทั่งเรียบเรียงตัวบทเพลงด้วยเช่นกัน ในพาร์ตดนตรีเราก็มีส่วนร่วมหลายส่วนเหมือนกัน เราตั้งใจว่าอยากจะแสดงฝีมือในเรื่องการอัดกีตาร์เองด้วย เพราะฉะนั้นแทบทุกไลน์กีตาร์ตรงนั้น ผ่านการคิดมาด้วยตัวเองหมดเลย แต่ในส่วนของดนตรี เราทำร่วมกันกับ อ.จอร์จ ครับ”

แพทเป็นคนปิ๊งไอเดียในการเพิ่มท่อนแร็ปเข้ามาในเพลงนี้ จากที่ตอนแรกไม่มี และเป็นครั้งแรกในชีวิตของการเป็นนักร้องที่มีการฟีเจอริง

“ตอนแรกเพลงนี้ไม่มีท่อนแร็ป ผมว่ามันขาดสีสันความน่าสนใจไปนิด เลยคิดว่าน่าจะมีท่อนหนึ่งที่แยกออกมา แล้วตัวผมเองไม่เคยทำเพลงที่มีท่อนแร็ปเลย แล้วก็ไม่เคยฟีเจอริงกับใครเลย พอเราอยากได้อะไรที่ใหม่ เลยคิดว่าถ้างั้นก็ฟีเจอริงครั้งแรกกับเพลงนี้ ผมเลยสร้างท่อนแร็ปมาประมาณ 8 บาร์ แล้วก็สร้างดนตรีใหม่ขึ้นมา แล้วลองให้ทีมอาจารย์ลองเขียนท่อนแร็ป ซึ่งน้องเขาเขียนมาดีมากๆ อยู่แล้ว การใช้คำ เนื้อหาดีมาก

สำหรับท่อนแร็ป ผมทำดนตรีทั้งหมดเลย เป็นคนดีไซน์ว่าต้องมี และมีตรงไหนของเพลง ในเรื่องการทำดนตรี ก็ทำที่บ้านเลย คิดคอร์ด ใส่ซาวด์ รวมถึงไลน์กีตาร์ที่จะสอดแทรกไปกับการแร็ป ตรงนั้นคือจัดการเองแทบร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ”

ในส่วนของคนที่จะมาฟีเจอริง แพทก็เลือกเองว่าต้องเป็น “อุ๋ย บุดดาเบลส” ท่อนนี้นึกถึงอุ๋ยคนแรกและคนเดียว

“ผมคิดว่าท่อนแร็ปนี้ต้องเป็นคนที่เข้าใจชีวิต และสามารถเล่าเรื่องเดียวกับเราได้ ซึ่งก็นึกถึงคุณอุ๋ย บุดดาเบลส คนแรกเลย มองคุณอุ๋ยไว้คนเดียวเลย เพราะเราเคยร่วมงานกับเขามา ตอนไปออกรายการคุยกับอุ๋ย ในช่อง YouTube แล้วก็ชอบทัศนคติด้วย คิดว่าคุณอุ๋ยจะคลิกและจูนกับเราได้ง่ายในการทำงาน อีกอย่างคือยุคความเป็นศิลปินก็ใกล้เคียงกัน เลยคิดว่าทิศทางน่าจะใกล้เคียงกัน ก็เลยลองติดต่อดู ซึ่งเขาก็ตกลง รู้สึกเป็นเกียรติมากครับ ต้องขอบคุณคุณอุ๋ยและทางค่ายมากๆ ชิ้นงานออกมาดีเกินคาดมากๆ คุณอุ๋ยถ่ายทอดท่อนนี้ได้เป็นอีกฟีลหนึ่ง เป็นตัวเขาเลย ทำให้เพลงมันดูน่าสนใจมากขึ้น ดูมีพลังฮึกเหิมมากขึ้นด้วย

เป็นความใฝ่ฝันที่อยากร้องฟีเจอริง

“ใช่ครับ คือเราชื่นชอบแร็ปเปอร์ เขาเก่ง ไม่ว่าจะเป็นศิลปินท่านไหนก็ตาม ผมฟังแล้วรู้สึกทึ่งในการที่เขาเอาคำต่างๆ มาเรียงร้อยให้สวยงามมากๆ แล้วหลักๆ ก็คือตัวคุณอุ๋ยด้วย มีส่วนมากๆ ในการตัดสินใจ เพราะคอนเซ็ปต์เขาเข้ากับเพลงที่เราอยากให้เขามาถ่ายทอดพอดี เจอคนมีของเลยทำให้งานสมบูรณ์ตามแบบที่อยากได้ แล้วมันทำให้เราทำงานง่าย ใช้เวลาน้อย”

ทุกอย่างออกมาตรงกับใจแพทที่สุด เป็นเพลงในฝัน

“เป็นเพลงในฝันเลย ตรงใจกับที่เราต้องการให้ออกมาหมดเลย อาจจะด้วยเราได้ร่วมงานกับคนที่เขามืออาชีพ มีประสบการณ์ ทำให้เราเรียนรู้ซึ่งกันและกันมากกว่า แล้วมันจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เราอาจจะมองไม่เห็น แม้กระทั่งตัวเราเอง แต่ทีมงานที่เขามีประสบการณ์เขาก็พยายามดึงตรงนี้ออกมา เลยทำให้มันชัดมากขึ้น เพราะบางสิ่งบางอย่างถ้าเรามองตัวเราเอง มันอาจจะเห็นไม่รอบด้าน”

คาดหวังว่าแฟนเพลงจะมีความสุขกับการฟังเพลง สแกมเมอร์ ร้องตามได้ ฟังเพลงนี้บ่อยๆ ตนก็มีความสุขแล้ว

“เบื้องตนเลยการที่มันออกมาตรงกับที่เราต้องการ ผมแฮปปี้มากๆ แล้ว เพราะกว่างานจะออกมาเป็นมาสเตอร์นี้ ได้มีการระดมสมอง ปรับเปลี่ยนอะไรต่างๆ มาเยอะมากพอสมควรกว่าจะตรงใจเราที่สุด พอมันตรงใจเราที่สุด เราก็แฮปปี้มากๆ ในส่วนของพอเพลงออกไปแล้ว ผมขอแค่คนที่ฟังเขามีความสุข ร้องตามเพลงของเราได้ นึกถึงเพลงของเราบ่อยๆ ก็พอแล้ว แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ส่วนจะได้รับความนิยม เป็นกระแสขนาดไหน ถ้าเป็นที่นิยมเยอะๆ ได้ มันก็ดี เราก็แฮปปี้ครับ ลองจินตนาการว่าคนร้องตามท่อนฮุกกันเยอะๆ มันก็น่าจะเป็นภาพที่สวยงามมากๆ เลย”