“เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เปิดใจดราม่าเงิน 5 ล้าน ลั่นแรง! จากนี้ไม่ใช้หนี้ให้ใครแล้ว
ก่อนหน้านี้เป็นประเด็นดราม่ากับเงิน 5 ล้านที่ถูกคนใกล้ตัวบุกทวงเงินถึงเตียง ล่าสุด “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หรือ “รัชนก สุวรรณเกตุ” ได้ออกมาเปิดใจในรายการแฉเป็นครั้งแรกว่า...
อ่านข่าวต่อ : “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” แสดงความยินดีกับน้องสาว “เหมย อรทัย” ที่คว้ารอง 4 มิสแกรนด์ไทยแลนด์2024
“เรื่องน้องสาวแยกวง เป็นความต้องการของลิลลี่ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องลองแยกกันออกไปเพื่อเติบโต น้อง 20 ปีแล้ว ก็ให้เขาไปเดินเองสักปี ถ้าปีนี้ทั้งปีดูแล้วมีงานน้อย ปีหน้าก็อาจจะกลับมาร่วมกัน เวลาลิลลี่ไปเดี่ยวคนก็ต้องคิดถึงเจนนี่อยู่แล้ว อย่างงานล่าสุดหันไปมองหน้าน้องก็ร้องไห้เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วทุกคนต้องเติบโต
เรื่องโพสต์ตัดพ้อ หนูไม่ได้บอกว่า 5 ล้าน หนูบอกว่าเงินไม่ได้หาง่าย ใครที่อยากได้เงินคนอื่นแล้วเขาไม่เต็มใจจะให้ มันจะเป็นบาป กรรม เงิน 5 ล้านมันก็มีปัญหาภายในครอบครัว หนูอาจผิดที่ใจร้อน แต่ความอดทนคนเราถึงขีดจำกัดบางเวลา เรานอยด์ เราเหนื่อย เงินที่หาได้อยู่ดีๆ หมดไปกับมือ ยิวซึ่งเป็นสามีเห็นเราร้องเกือบเป็นเกือบตาย เขาก็ใจร้อนไปโพสต์อีก แต่ใดๆ ก็ว่าเขาไม่ได้เพราะเขาปกป้องเรา มันเลยกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต
เราก็ยอมรับว่ามันเกิดจากที่เราโพสต์ ก็ขอโทษสำหรับคนที่ไม่โอเคด้วย แต่ถ้าไม่เป็นเรา ณ วันนั้นก็ไม่เข้าใจจริงๆ หนูหมดแรง หนูล้มทั้งยืน วันนั้นที่โพสต์ก็คืออยากสื่อสารกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ญาติหนูคนไหนก็แล้วแต่ ว่าหลังจากนี้ฉันจะไม่จ่ายให้ใครแล้ว เจ้าหนี้ไม่ได้มา แต่ที่พี่ๆ ไม่เห็นก็มีเยอะ มีทั้งแชท ทั้งมาหา ก็มีอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้มาจากบุคคลคนเดียว มาจากหลายบุคคลรอบตัวเรา เราไม่อยากเจาะจง เพราะสุดท้ายครอบครัวก็สำคัญ แต่มันไม่ไหวแล้ว โพสต์นี้อยากประกาศกับโลก ต่อไปถ้าใครบุกมาถ่ายคลิปทวงหนี้ฉัน ถ้าฉันไม่จ่ายก็อย่ามาด่าฉันนะ ฉันเคยโดนด่าเรื่องนี้ไปแล้วตอนเป็นไวรัล แล้วหนูเพิ่งทะเลาะกับสามีเรื่องหนูทำงานหนักจนเกินไปจนไม่มีเวลาให้ครอบครัวเพื่อหาเงิน แล้วเงินที่หามา มันไม่มีแล้ว
ต้องการประกาศว่าไม่ว่าใครก็จะไม่รับผิดชอบอีกแล้ว และขอความร่วมมือทุกคน ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ หลังจากนี้ไม่ต้องการมีปัญหาเรื่องการเงินกับใครแล้วทั้งนั้น ขอทำงานแบบสบายใจ ถ้าวันนี้มีคนมาทวงหนี้อีก ไปเจอกันที่โหนกระแส บอกมาเลยว่าค่าอะไร ที่ผ่านมายอมจ่ายเพราะรักทุกคน อยากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ทุกวันนี้หนูเสียใจ แต่ก็รับมือได้มากขึ้น ครอบครัววันนึงก็ต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิมแน่นอน มันตัดกันไม่ขาด ขอประกาศว่าหลังจากนี้ขอทำเพื่อลูกดีกว่า เพราะยูจินยังมีอนาคตสดใส
ส่วนที่มองว่าตั้งแต่มีผัว ไม่เหมือนเดิม ติดสามี ก็ตามนั้นคนๆ เดียว วันนึงมาใช้ชีวิตร่วมกับอีกคน แล้วร้องไห้ให้เขาเห็น ระบายความทุกข์ทุกอย่างกับเขา พอถึงวันนึงจะไม่ฟังเขาเลยเป็นไปไม่ได้ ไม่ได้ติดใครคนใดคนหนึ่ง หนูรักทุกคน เอาเป็นว่าอย่าตัดสินว่าใครเป็นใครดีกว่า ให้ตัดสินเรื่องความถูกต้องดีกว่า ว่าใครทำถูกทำผิด เรื่องเปย์สามี ถ้าติดตามเราจะรู้ว่าเราทำงานกันหนักมากจริงๆ ไลฟ์กันตลอด ยิวก็ไลฟ์ เขาก็ทำงานตลอด แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกคนเขามองว่าเจนนี่มีเยอะกว่า เจนนี่ก็ต้องเปย์ ก็แล้วแต่คนจะมองได้เลย
สิ่งที่เปลี่ยนไปถามว่าเป็นเพราะมีสามีเกี่ยวไหม เกี่ยวอยู่แล้วพอเรารู้จักยิว ก็รู้จักโลกอีกมุมนึง โลกที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนได้รู้จักทัศนคติที่ไม่เหมือนเราเลย มันก็ได้แลกเปลี่ยนกัน แต่หนูไม่ได้โง่ถึงขั้นงมงาย ผู้ชายสั่งให้ทำอะไรก็ไป ไม่ใช่ เพราะหนูเองมาถึงจุดนี้ได้ เราก็มีความสามารถระดับหนึ่ง แต่พอมาถึงจุดที่มีปัญหาครอบครัว แล้วเราต้องปรึกษาเขา ต้องมาชั่งน้ำหนักว่าแบบไหนดีกว่า อันนี้ควรฟังไหม หรืออย่างเขาโพสต์ไปหนูก็พูดนะว่าที่รักหลังจากนี้พอแล้วนะ เขาขอโทษที่ทำให้ตัวเองต้องเจอเรื่องแบบนี้ แต่มันดูไม่ดีไปแล้ว”