“นนท์-ไบร์ท-เดอะ ทอยส์-เจฟ” สร้างปรากฏการณ์สุดมันส์ใน “The Kingdoms Concert”
เปิดอาณาจักร The Kingdoms อย่างยิ่งใหญ่อลังการ เรียกตัวชาวด้อมของทั้ง 4 คิงส์ สร้างความประทับใจให้กับแฟนเพลงอย่างท่วมท้น กับการรวมตัว 4 ศิลปินชายแห่งยุค อย่าง นนท์ ธนนท์ จำเริญ ค่าย LOVEiS Entertainment, ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี ค่าย Cloud9 Entertainment, ทอย ธันวา บุญสูงเนิน ค่าย What The Duck และ เจฟ วรกมล ซาเตอร์ ค่าย Wayfer Records ภายใต้บริษัท Warner Music Thailand ไว้บนเวทีเดียวกันเป็นครั้งแรก! ในคอนเสิร์ต “The Concert Application presents The Kingdoms Concert” (เดอะ คอนเสิร์ต แอปพลิเคชัน พรีเซนต์ส เดอะ คิงดอมส์ คอนเสิร์ต) เรียกเสียงดังสนั่นจากแฟนๆ ทั้ง 2 รอบการแสดง กว่า 15,000 คน ที่ถูกจับจองเต็มทุกที่นั่ง เมื่อวันที่ 1-2 มิถุนายน 2567 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
อ่านข่าวต่อ:ปังสมคำร่ำลือ “bodyslam” ชวน “เจฟ ซาเตอร์” ส่งเพลงรักพร้อมสะกิดทุก “แผลเป็น” ในใจ
วินาทีแรกที่เปิดตัวก็ทำให้ผู้ชมตกตะลึงกับโปรดักชันสุดไฮเทค ทุกสายตาและทุกที่นั่งแทบหยุดการเคลื่อนไหว เพราะโดนสะกดด้วยความเท่ของทั้ง 4 ศิลปิน ในเพลง ‘Demons’ และ ‘Believer’ ที่ทำโชว์ออกมาได้ลงตัวและฮึกเหิม ผ่านทั้ง 4 อาณาจักร ที่มี ‘คิงส์’ ทั้ง 4 สไตล์ มาเรียก ‘ด้อมส์’ ของตัวเองได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ในช่วงท้ายของคอนเสิร์ตวันที่สอง ก็ได้มีโมเมนต์สุดซึ้ง! เมื่อ The Toys ได้เผยความรู้สึกที่ท่วมท้น ผ่านน้ำเสียงระเรื่อ “ความจริงผมจะเลิกทำเพลงแล้ว ผมไม่ได้อยากทำเพลงต่อแล้ว แต่ว่าในคอนเสิร์ตนี้ พวกคุณทำให้ผมยังอยากที่จะทำเพลงต่อ” ในโมเมนต์นั้นทั้ง 4 ก็ได้โอบกอดกัน ทำน้ำตาแตกกันทั้งฮอลล์ นั่นเป็นเหตุผลของการรวมตัว ‘คิงส์’ และ ‘ด้อมส์’ ของทั้ง 4 ที่มารับส่งพลังงานให้กันและกัน ได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นเสียงตอบรับที่ทรงพลังและมีคุณค่า ครบรสเต็มอิ่มทุกความรู้สึก ทั้งความซึ้ง ความฮา และความสุข
ทำให้คอนเสิร์ต “The Concert Application presents The Kingdoms Concert” (เดอะ คอนเสิร์ต แอปพลิเคชัน พรีเซนต์ส เดอะ คิงดอมส์ คอนเสิร์ต) กลายเป็นหนึ่งในงานที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำที่สุดในใจของแฟนประจำปี 2024 เป็นที่เรียบร้อย และการจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิงให้กับแฟนๆ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่าง 2 บริษัทใหญ่แห่งวงการเพลง LOVEiS Entertainment (เลิฟ อิส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) และ Muzik Move (มิวซิกมูฟ) ซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่ความสำเร็จในการจัดงานคอนเสิร์ตครั้งต่อๆ ไปในอนาคต