กลับมายิ่งใหญ่ 17 ปีละครเวที “บอย ถกลเกียรติ” ยก “ณเดชน์” เป็นสุดยอดพระเอกมิวสิคัล
นาทีนี้ได้รับคำชมแบบถล่มทลายการกลับมาอีกครั้งในรอบ 17 ปีของละครเวทีฟอร์มยักษ์ “ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล” ทำเอาเจ้า ของเวทีอย่าง “บอย ถกลเกียรติ” ยิ้มไม่หุบ แถมยังยกให้พระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ” คือสุดยอดพระเอกสายมิวสิคัลไปเลย เจ้าตัวเผยว่า...
อ่านข่าวต่อ : 17 ปีที่รอคอย! “ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล” คืนเวทีสุดยิ่งใหญ่ “ณเดชน์-แก้ม-หนูนา” ฝีมือการแสดงสุดประทับใจ
“ตื่นเต้น 17 ปีที่แล้วก็ประสบความสำเร็จมาก ตอนนั้นเล่นไปถึง 53 รอบ และเป็นละครเรื่องที่เปิดโรงละครเมืองไทยรัชดาลัย ผ่านมาหลายๆ ปีก็มีผู้คนถามว่าเมื่อไหร่จะทำอีก คือต้องบอกว่าเราก็อยากทำนะ แต่เราคิดว่าถ้าจะทำอีกครั้งเราต้องหาอะไรใหม่ๆ เพราะมันก็ 17 ปีมาแล้ว ก็คิดกันหนักพอสมควร จนกระทั่งเราเจออะไรบางอย่าง พอวันนี้มันได้อะไรใหม่ๆ การเล่าเรื่อง โปรดักชั่น ผมว่ามันแปลกหูแปลกตาไปกว่าเรื่องอื่นๆ ที่เราเคยทำมา
โดยเฉพาะเรามีชารีฟของเราคือณเดชน์ คนนี้ก็สุดยอดแห่งซูเปอร์สตาร์จริงๆ เขาพร้อมจะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ดีแล้วก็ยังดีได้อีก เก่งแล้วก็ยังเก่งได้อีก เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่มาดูจะทึ่งมากๆ กับการแสดงละครเวทีเรื่องแรกของเขา แทบจะไม่รู้เลยว่านี่คือเรื่องแรก และร้องแบบคนละเรื่อง วันที่เขามาซ้อมร้องวันแรกกับวันนี้ มันพัฒนาไปยิ่งกว่าดับเบิ้ลอีก น่าจะคูณสิบ
เอาจริงๆ วันแรกที่เขามาร้อง เราก็รู้ว่าเขาร้องได้ และเดี๋ยวจะพัฒนาขึ้นไป แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะพัฒนามาได้ถึงขนาดนี้ มันเกินความคาดหมายอย่างมาก เสียงตอบรับในโรงละครมันสุดยอดมากๆ เขาคือชารีฟที่จริงใจ เขาคือชารีฟที่เรียกว่าครบเครื่องแล้วกัน ฉากเลิฟซีนที่มีโชว์ซิกแพ็ก ต้องบอกว่าตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็เป็นฉากจำ ยังไงมันก็เป็นเทิร์นนิ่งพ้อยต์ที่สำคัญมากในบทประพันธ์ และครั้งที่แล้วก็เป็นฉากจำที่คนฮือฮากัน ครั้งนี้ยิ่งเป็นณเดชน์ยิ่งโอ้โห
เรื่องโปรดักชั่น ผมกับทีมงานก็คุยกันว่าเราต้องปรับ เราต้องหาอะไรใหม่ๆ ไม่งั้นมันจะอยู่ที่เดิม ถ้าเราได้ดูละครเวทีต่างประเทศ เราจะเห็นว่าเขาไปไกลมาก เราก็เลยซัดเต็มที่ ผมว่าเอาเข้าจริงๆ โปรดัก ชั่นของปี พ.ศ. นี้น้อยแต่มาก เห็นแล้วผมว่ามวลรวมเรียกว่าระทึกใจอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เพิ่มเป็น 55 รอบแล้ว ไม่น่าเพิ่มแล้วมั้ง ก็ไม่แน่ใจ เพราะเราเพิ่มมาแล้วไง คือบัตรยังมี แต่เหลือน้อย
หนูนาคือมาแคส แกบอกว่าอยากเล่นเป็นแคชฟียา อยากลองเล่นร้ายดู เขาบอกว่าเดี๋ยวหนูจะมาแคสร้ายให้พี่บอยดู แล้วเขาก็มาจริงๆ หนูนาอยากเล่นถึงขนาดมาออดิชั่น เราก็เห็นว่าเป็นอีกมุมนนึงที่เราไม่เคยเห็นเขาแบบนี้ ส่วนของแก้มที่ก่อนหน้านี้โดนโจมตีเยอะ ก็นั่นแหละคือที่จะบอกถึงตัวเขาได้เลย แก้มคือตัวจริงของนางเอกละครเวทีมิวสิคัล แน่นอนเสียงร้องเขาอันดับเบอร์ต้นๆ อยู่แล้วกับความเป็นมิวสิคัล แต่ในเรื่องของการแสดงหรืออะไรต่างๆ เขาสง่างามมากบนเวที และต้องบอกว่าเคมีกับณเดชน์คือดีมากๆ ก็คือเป็นมิเชลล์ของชารีฟที่ผมคิดว่ามันทำให้ทุกอย่างไปแบบก้าวกระโดด
เราก็คุยกัน แล้วก็บอกว่าเรามั่นใจ และเรารู้ว่าแก้มทำได้ และเราก็จริงใจกับตัวงาน จริงใจกับโปรเจกต์นี้ และรู้อยู่แล้วว่าศักยภาพของเขาได้ ผมเองก็โดนเรื่องแคสนักแสดง แต่พอฟีดแบ็กมันกลับมาดีแบบนี้เราก็ดีใจมากๆ จริงๆ เราก็รู้อยู่แล้วว่ามันต้องดี เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาเล่นคู่กับณเดชน์ ความรู้สึกของณเดชน์คือเล่นกับแก้มแล้วเข้ากันดีจริงๆ แค่นี้ผมโอเคแล้ว เดี๋ยวมันจะมาเอง ซึ่งมันก็มาจริงๆ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มซ้อมกันเราก็เห็นแล้วว่ามาแน่ๆ
แต่เราก็ต้องแยก ถ้าเราฟังทุกอย่างไดเรกชั่นเราจะเป๋ แต่เราก็มีความเชื่อมั่นของเราอยู่ ถามว่าเราหัวชนฝาไหม ก็ไม่ อะไรที่เราคิดว่าเป็นข้อบกพร่อง เราก็ดู แต่พอดูแล้วเป็นจุดบกพร่องที่ไม่ได้เยอะ เราก็หาทางทำให้มันได้ แต่ถามว่าบกพร่องยังไง อันนี้ไม่บอก บอกไม่ได้ แต่สุดท้ายมันคือฟ้าจรดทรายของปีพ.ศ.นี้ ถ้าเผื่อเข้ามาดูจริงๆ จะเห็นได้ว่าทำไมต้องเป็นแก้ม เข้ามาดูจะรับรู้ได้
ต้องบอกว่าณเดชน์คือหนึ่งในสุดยอดของพระเอกมิวสิคัลที่ผมเคยทำงานมา เขาเหมาะสมมากที่จะยืนอยู่บนเวทีละครเวทีได้อย่างสง่างาม เขาเก่งจริงๆ สุดยอดจริงๆ ส่วนจะเพิ่มรอบอีกไหม ก็ถ้าคนดูหวัง ผมก็หวัง”
