พูดครั้งแรก! “เบเบ้” ตอบปมเลิกสามี ยันจบด้วยดี รับช่วงแรกเฮิร์ตหนัก
ก่อนหน้านี้ถูกจับตามีกระแสข่าวลือขาเตียงหักซุ่มเลิกรากับสามี โดยถูกโยงคำว่า “อดีตดาราสายเฮลตี้เลิกสามี” งานนี้หวยเลยดันไปตกที่นักแสดงสาว “เบเบ้ ธันย์ชนก” งานนี้เจ้าตัวเลยออกมาพูดครั้งแรกถึงความสัมพันธ์กับสามีนักธุรกิจนอกวงการ “บูม สุธีร์” ยอมรับว่าเลิกกันแล้ว พร้อมเผยถึงสาเหตุที่ชีวิตคู่จ้องปิดฉากลงว่า…
อ่านข่าวต่อ : "เบเบ้ ธันย์ชนก" ตอบครั้งแรกปมเลิกสามี จบกันด้วยดี ไม่ปิดกั้นความรักปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
“สถานะของเรา ก่อนหน้านี้มีข่าวลือ แต่ยังไม่ได้ยินจากปากเรา กลับมาโสดมันก็เป็นมาเรื่อยๆ แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวของเราเป็นคนโอเคกับทุกสิ่ง ก็เลยเหมือนไม่ได้คุย ไม่ได้ปรับความเข้าใจอย่างจริงจัง จนเริ่มมีการละเลยกันบ้าง จนวันนึงเป็นแบบนี้ คุยมาเรื่อยๆ มีการพูดเรื่องนี้ แต่ว่าไม่คุยกันต่อ มีพูดขึ้นมาแต่ไม่ได้คุยกันต่อ สะสมเรื่อยๆ เป็นปีเหมือนกัน จะมีช่วงดี คุย มีดี มีคุย เหมือนคนปกติทั่วไปเลย ปรับกันสุดทางแล้ว สภาพจิตใจก็อยู่กับตัวเองมากขึ้น พยายามบาลานซ์ชีวิตมากขึ้น และโฟกัสความสุขของตัวเราเอง
ข่าวลือออกมาเฮิร์ตหนักก็มีเหมือนกัน ปกติทั่วไปเลย แต่ว่าเราไม่ได้เกลียดกัน ทุกวันนี้ยังคุย ยังทำงานด้วยกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังมีธุรกิจทำด้วยกัน จบด้วยดี คุยกันด้วยความเข้าใจ คนรอบตัวเราจะเป็นคนเก็บทุกอย่าง เพื่อนก็ไม่ปรึกษา ความเข้าใจก็ไม่ปรับ พ่อแม่ก็ไม่บอก เพราเราเป็นคนนิสัยเก็บ ก็จะมีเพื่อนบางคนที่คอยสังเกต คอยดู ก็จะรู้ เข้าใจ ก็มีบางส่วนที่รู้พร้อมกัน เนื่องจากว่าเราเป็นคนที่จัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ค่อนข้างเก่ง คือพอเรารู้สึกว่าเริ่มเครียด เริ่มมีอะไรที่ไม่ถูกใจ จะมีวิธีการทำให้ตัวเราเองสบายใจขึ้น พอทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าบางทีสิ่งนี้มันเป็นเรื่องเล็กที่มองข้าม
ตอนที่อักษรย่อออกมาเราตกใจไหมก็ไม่ได้ตกใจ แต่ก็แค่รู้สึกว่าไม่ได้อยากออกมาพูด เพราะปกติเราไม่ใช่คนที่แคร์เรื่องส่วนตัวอะไรแบบนี้อยู่แล้ว แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่เราภูมิใจในการที่จะบอกต่อ รอจังหวะ รอเวลาอะไรต่างๆ เพราะมันเป็นเรื่องของหลายฝ่าย ให้ทุกคนรู้สึกสบายใจให้ได้ก่อน
จริงๆ แล้วหลักๆ เราอยู่ด้วยตัวของเราเองได้ แต่ว่าเราก็ไม่ได้ปิดกั้น ว่าจะไม่คุยกับใครเลยชีวิตนี้ จะครองโสดอยู่คนเดียว คือปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ตามจังหวะของมัน เพราะเราก็เรียนรู้ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว ถ้าเกิดเราไปแพลน ไปเร่ง ไปตั้งเป้าหมายว่าตอนนี้ต้องแต่งงาน หรือต้องทำอะไร มันก็อาจจะจังหวะไม่ดี ทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตให้เราโตมากขึ้น ให้เราได้เรียนรู้อยู่แล้ว”
