“ตุ๊ก ชนกวนันท์” เผยเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ หลังโพสต์ลูกๆ ไม่ได้เรียนกับครูคนเดิม
ก่อนหน้านี้คุณแม่ลูกสอง “ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ” ออกมาโพสต์ข้อความผ่านโซเชียล มีข้อความว่า... “แพรวไม่ได้เรียนร้องเพลงกับครูคนเดิม และ แพรว ภูมิ ไม่ได้เรียนเปียโนกับครูคนเดิมมาตั้งแต่ 5 พ.ค. 2567 แล้วนะคะ #ยินดีตอบทุกคำถามนะคะ” และอีกข้อความหนึ่งว่า... “ยินดีตอบทุกข้อสงสัย ด้วยความจริงและจริงใจค่ะ” ล่าสุดมีโอกาสเจอสาว “ตุ๊ก” เลยถามถึงเรื่องนี้ว่า...
อ่านข่าวต่อ : “ตุ๊ก ชนกวนันท์” เล่าความเจ็บปวดของรักในอดีต ไม่เคยคิดว่าจะต้องแยกทาง
“เรื่องโพสต์แจ้งให้เพื่อนๆ ลูกเพื่อนๆ ทราบว่าเราไม่ได้เรียนเปียโน กับร้องเพลงกับครูสอนคนเดิมแล้ว คนจะดูว่าเราเรียนอะไรที่ไหน บางทีก็ตามเพราะลูกเราโตกว่า อยากให้รู้ว่าถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นก็คงไม่เลิก เป็นครูที่สอนที่บ้าน ลองเคลียร์แล้วไม่ค่อยได้ความสักเท่าไหร่ แต่ทางเราไม่ได้มีอะไรแค่รู้สึกสิ่งที่เราเจอ เราเจออะไรบ้าง แล้วเราไม่อยากให้ใครเจอแบบเรา อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของตุ๊กนะ เป็นการรีวิวสำหรับตุ๊ก เราไม่ได้เหลือเงินเหลือทอง บางทีเราก็ตั้งใจจะหาตังค์มาซัพพอร์ต สิ่งที่เด็กๆ รัก หลังจากได้พูดคุยกับผู้ปกครองท่านอื่น หลายๆ บ้านเขาก็เป็นแบบนั้น คือทุ่มเทให้ลูก แล้วถ้าต้องมาเจอเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยหรือว่ามันไม่ดี มันไม่รู้จะต้องเจอทำไม อุตส่าห์เอาลูกมาเรียนเพื่อจะได้วิชา เคารพ ศรัทธา นับถือ สตางค์ก็หามาเพื่อทุ่มเท แต่ถ้าเราต้องเจอการพยายาม กดดัน ชักจูง ทำให้เราต้องเสียอย่างอื่นอีก มันใจร้าย ตุ๊กเห็นว่าหลังจากที่ตุ๊กเจอผู้ที่เขาคิดว่าเขาเป็นผู้เสียหาย 10 กว่าคน เรียนก่อนเรา และเรียนหลังเรา ทุกคนโดนหมด ทุกคนเจอเหมือนกันหมด
มันร้ายแรงหรือกระทบจิตใจเรา ส่วนใหญ่ของตุ๊กจะเป็นเรื่องสตางค์ ทั้งมีการขายของเกินราคา ชักจูงให้ลงคอร์สอีกหลายๆอย่าง หลายๆ วิชา มีการขายของระหว่างเรียน สำหรับเราราคามันโอเว่อร์ กับการที่เราดูจากคุณภาพสินค้าที่ขายในท้อง ตลาดทั่วไป สำหรับผู้เสียหายท่านอื่นมีเรื่องราวของทางเพศ มีแชทที่เกี่ยวกับทางเพศ มันเป็นหลายคน 10 กว่าคน ทุกคนเจอเหมือนกัน เพื่อนคือโดนซื้อเปียโนเกินราคา เรามีทั้งหลักฐานขาย และมีสลิปที่โอนให้ครู มันเยอะ เราก็ไม่อยากให้เด็กคนอื่นเจอแบบนี้ ทุกคนก็อยากให้ลูกเก่งขึ้นหรือได้วิชาเนอะ มันไม่ควรต้องเจอ และตุ๊กว่าสำหรับคนเป็นครู
เป็นโรงเรียนหรือเป็นครูรายบุคคลต้องเป็นการสอนที่บ้านของเขา ครูเปียโนท่านหนึ่ง ครูร้องเพลงอีกท่านหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับโรงเรียนใดๆ ย้ำ ไม่เกี่ยวกับโรงเรียน ครูที่สอนไพรเวตเนอะ ท่านที่ดีก็มีเยอะแยะ ตุ๊กเข้าใจแล้วทำไมเราต้องเรียนที่โรงเรียน คือมันมีมาตรฐานแล้วก็ปลอดภัย มีระบบที่มันรองรับ โอ้โห สำหรับตุ๊กเป็นบทเรียนที่ใหญ่
แจ้งความมีขั้นตอนเรียบร้อยแล้วหนึ่งจะบอกว่าพูดไม่ได้กลัวโดนฟ้อง สองกลัวว่าเสียรูปคดี จะพูดอะไรก็ปรึกษาทนายมาก่อนแล้วว่าบอกอะไรได้บ้าง สำหรับท่านที่มาคุยส่วนตัวตุ๊กค่อนข้างละเอียดเลย จะบอกว่าพูดอะไรมากไม่ได้ บอกได้แค่นี้ ลองใช้วิจารณญาณกันเอาเอง แต่ตุ๊กเชื่อว่าของดีๆมี ให้เลือกเยอะ ถ้าดีเราคงไม่เลิก เคยคุยกับครูเขาไม่ได้คิดว่าเขาผิด เพราะฉะนั้นแต่ละท่าน ตุ๊กเชื่อว่ามีดีๆ ให้เลือกเยอะ”