“บิวกิ้น” เขิน! ไม่ชินถูกเรียก พระเอกพันล้าน ดีใจ “หลานม่า” ประสบความสำเร็จ
ขึ้นแท่นเป็นพระเอกหนังพันล้านเรียบร้อยแล้ว พระเอกหนุ่ม “บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” ที่ตอนนี้ภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” กำลังกวาดทั้งกระแสและรายได้จากต่างประเทศ อีกทั้งยังคว้ารางวัลได้อีกด้วย งานนี้หนุ่ม “บิวกิ้น” เผยว่าดีใจและแปลกใจกับความสำเร็จ ยอมรับไม่ชิน ถูกเรียกพระเอกพันล้าน
อ่านข่าวต่อ : "บิวกิ้น" ดีใจหนัง "หลานม่า" ร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์เอเชียนิวยอร์ก รับยังไม่ชินเป็นพระเอกพันล้าน
“เดือนที่แล้วมีโอกาสไป NEW YORK ASIAN FILM FESTIVAL 2024 ไปกับหลานม่า คว้ารางวัล AUDIENCE AWARD ดีใจมาก การที่หนังเดินทางไปได้ไกล ข้ามโลกไปได้ มันมีหนังเอเชียหลายๆ เรื่อง จากประเทศที่มีอุตสาหกรรมหนังที่แข็งแรงมากๆ แต่แค่ได้ไป ได้ไปเป็นส่วนหนึ่งก็ดีใจแล้ว หลานม่าได้มีโอกาสฉายที่เฟสติวัล 2 รอบ และบัตร SOLD OUT ทั้ง 2 รอบ และก็แปลกใจมากกับฟีดแบ็คของคนที่โน้น ที่ได้เข้าไปดู ทั้งคนอเมริกัน คนเอเชีย เขาให้ความสนใจมากๆ
ปฏิกิริยาของคนที่ได้เข้าไปดู มันน่าตกใจ มันเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับหลานม่าในประเทศอื่นๆ ที่หลานม่าเคยได้ไป แต่ที่น่าตกใจ หลานม่ามันเป็นสิ่งที่ธรรมชาติมาก หัวใจที่สำคัญคือความสัมพันธ์ หรือความเป็นมนุษย์ การที่หนังมันไปอยู่ตรงนั้น กับวัฒนธรรมที่แตกต่าง เขายังเข้าใจมุกบางมุก เข้าใจความสัมพันธ์ของครอบครัว แบบไทยจีนแบบนี้ ก็มีหลายคนร้องไห้ ก็มีบ้างส่วนนึง ซึ่งก็เป็นส่วนใหญ่
สิ่งที่ทำให้ทัชใจคนต่างชาติ ผมว่ามันมีหลายส่วน ส่วนนึงที่เป็นคนเอเชีย-อเมริกัน เขาจากบ้านมาอยู่อเมริกานาน ซึ่งในเชิงวัฒนธรรม ประเพณีที่คล้ายกัน และคนที่นั่นเข้าใจบริบทครอบครัวปู่ย่า ในวัยที่ต้องอยู่ใกล้ แต่สายเลือดมันสำคัญกว่าเรื่องผลประโยชน์ และตอนที่ผมได้พูดคุย คือวัฒนธรรมอเมริกา เขาไม่ได้มีบริบทการส่งต่อ สืบทอด แต่จริงๆ แล้วแก่นของความรักและความหวังดี ก็สามารถส่งต่อไปหาเขาได้
ดีใจที่ได้ฉายในจีน อย่างที่บอกว่าการที่ภาพยนตร์ไทยไปฉายที่จีนจำนวนโควต้า ดูจากฟีดแบ็คของหนังที่จะเข้าไปฉายด้วย มีหลายองค์ประกอบ สุดท้ายหนังหลานม่าได้เข้าจีน ผมดีใจที่เราได้มีโอกาสได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยจีน มันก็มีวัฒนธรรมบางส่วนที่คาบเกี่ยวกัน
ไม่ชินถูกเรียกพระเอกพันล้าน ไม่ขนาดนั้นหรอกพี่ ก็ดีใจ ผมดีใจแทนทีมงาน พอหนังจบ ผมจะเจอพี่ผู้กำกับบ่อยสุด ซึ่งทุกคนก็ดีใจที่ได้เป็นส่วนนึงของความสำเร็จนี้ รู้สึกโชคดีที่ได้ทำงานนี้ เป็นอวัยวะส่วนนึงที่ทำให้มันประสบความสำเร็จ ให้มันลงตัวอย่างวันนี้ ผมก็เต็มที่ในพาร์ตของเรา ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ผมเคยคุยกับพี่ผู้กำกับคนนึงว่า งานหนังมันคืองานกลุ่ม มันต้องไปกันทั้งทีม มันต้องดีกับเคมีที่ไปด้วยกัน มันกลมกล่อม จริงๆ ผมเข้ามาเกือบท้ายๆ เขามีการเขียนบทกันมานาน ทีมกล้อง ทีมอาร์ตถูกล็อกตัวมาก่อน ผมโชคดีที่ได้เกาะขบวนหลานม่าไปกับเขาด้วย
ส่วนเรื่องต่อไปก็ไม่ได้กดดัน อย่างที่บอกหนังเรื่องนึงประกอบไปด้วยหลายคน หลายร้อยชีวิต การที่เราทำเต็มที่ เราก็แค่เป็นส่วนนึงที่ให้หนังมันประสบความสำเร็จ แต่หนังหลายๆ เรื่อง มันมีคนที่แสดงได้ดีกว่า แต่อาจจะไม่ใช่จังหวะประจวบเหมาะ มันมีหลายปัจจัยที่ทำ ให้หนังประสบความสำเร็จ ถ้าเรื่องหน้าไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเราเต็มที่ ผมก็โอเค”