“หนุ่ม กรรชัย” เตือน! พี่น้องในวงการ ปมเอี่ยวเครือข่ายดัง ถ้ารู้ว่าผิดหยุดซะ
หลายคนกำลังติดตามกับประเด็นใหญ่กับเคสบริษัทเครือข่ายชื่อดัง ที่มีดาราระดับตัวท็อป มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนว่าถูกขายฝันให้มาร่วมลงทุน แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นอย่างนั้น สร้างความเสียหายให้ประชาชนเป็นจำนวนมาก งานนี้พิธีกรชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย” เตรียมแฉเรื่องนี้ ทำประชาชนมีความหวัง ด้าน “หนุ่ม กรรชัย” ตอบเรื่องนี้ว่า….
อ่านข่าวต่อ : "หนุ่ม กรรชัย" ตอบปมคนไม่กล้ามารายการโหนกระเเส ขอบคุณทุกฉายาที่มอบให้
“มันเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ฟังจากทางผู้เสียหาย ขออนุญาตไม่เอ่ยว่าเป็นที่ไหน เป็นเรื่องข้อกฎหมายก็อยากให้รู้ว่ามันเป็นเรื่องราวที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบ ทำให้รู้สึกว่าอะไรที่เราเป็นกระบอกเสียงให้ผู้เสียหายได้เราก็ยินดี เราก็อยากจะเป็นกระบอกเสียงให้ ในขณะเดียว กันคนที่ถูกกล่าวหาเราก็ยินดีนะครับ ถ้าคุณต้องการจะชี้แจงว่าตนไม่ใช่แบบนั้น อย่างน้อยคุณก็จะได้พ้นคำครหาในสังคม แปลว่าคุณไม่ได้ทำแบบนั้น เราก็ยินดี ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้เสียหายเขากล้า ผู้ถูกกล่าวหากล้าหรือเปล่า ตอนนี้ยังไม่ได้ติดต่อผู้เสียหายชัดเจน ขอรวบ รวมข้อเท็จจริงให้มันได้มากกว่านี้สักนิดนึง แล้วก็คงจะมีการพูดคุยกันต่อไปว่าจะเอายังไง
รู้เหรอที่ไหน นี่สัมภาษณ์คนนะอย่ามาล่อซื้ออย่างนี้นะ ยังไม่ได้บอกนะว่าเป็นที่ไหนนะ เราพูดแบบไปเปิดกว้างๆ แล้วกันผมเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนหรือว่าเป็นธุรกิจไหนบางครั้งก็อาจจะมีเหล่านักแสดงที่ไปอยู่ในนั้นด้วย จะเป็นไปร่วมทุน เป็นพรีเซ็นเตอร์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ถามว่าลำบากใจไหม ผมลำ บากใจเพราะว่าอย่างเคสผ่านๆ มามันก็มีคนที่เรารู้จัก แต่ว่าสุดท้ายในเมื่อเราเลือกที่จะยืนอยู่ตรงนี้เราก็ต้องยืนอยู่ข้างประชาชน อยู่ข้างคนที่เสียหายจริงๆ ผมก็หวังว่าพี่ๆ น้องๆ ที่มีประเด็นผ่านๆ มาหรือต่อไปข้างหน้า ก็อยากจะให้เข้าใจพี่ด้วยว่าวันนี้สิ่งที่พี่ทำอยู่มันคือหน้าที่ของเรา คุณก็มีหน้าที่ของคุณ เพราะฉะนั้นอันไหนที่คุณรู้สึกว่ามันไม่ถูก ไม่ควร คุณก็ปล่อยซะ บางทีมันอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นพี่หรอก
ผมก็เชื่อว่าสังคมปัจจุบันนี้เรารู้กันอยู่แล้วเราอยู่กันด้วยเรื่องราวของสังคมโซเชียลที่เขาก็มีพลังโซเชียล มีสื่อในมือ ทุกวันนี้จะมาบอกว่าเราเป็นสื่ออย่างเดียว ไม่ใช่ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าสื่อใหญ่ๆ หลักๆ เองก็ ไปเอาเรื่องราวข้อมูลจากสื่อที่เป็นชาวบ้านที่อยู่ในโซเชียล เราก็ต้องยอมรับว่าโลกมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วสื่อบางครั้งเราก็ต้องพึ่งชาวบ้านที่มีข้อมูล
อย่างเคสนี้หรอ ผมเชื่อว่ายังไม่มีใครขยับ แต่ผมก็ยังไม่ได้หมายถึงว่าเป็นใครนะ เพราะว่ายังไม่มีการถูกกล่าวหามันก็เป็นแค่คำโพสต์ลอยๆ ก็เดี๋ยวไว้รอเร็วๆ นี้แล้วกัน มันก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะว่าสุดท้ายตัวนักแสดงหรืออินฟลูฯ ต่างๆ เองก็จะได้ดีแคลร์ตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าต่อไปในอนาคตข้างหน้าสังคมมันจะพิพากษาเองสังคมจะมีบริบทเองว่าการที่จะทำกันแบบนี้ต่อไปมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่าจริงๆ แล้วผมบอกเลยว่ารายการไม่ได้น่ากลัวแต่ผมว่าคนที่ติดตามรายการนี่แหละน่ากลัว เพราะจริงๆ แล้วคนที่เขาดูเขามีปัญญาที่ดูแล้วเขาจะรู้ว่าใครที่พูดข้อเท็จจริง ใครแถอะไรยังไง ผมว่าจริงๆ แล้วการออกรายการโหนกระแสมันไม่น่ากลัวเลย แค่พูดตามข้อเท็จจริงไปเท่านั้นเองว่ามันเป็นยังไง ผิดคุณขอโทษ ผิดก็เข้าสู่กระ บวนการ ผมว่าคนไทยต้องการแค่ตรงนี้แหละ คือไม่ใช่ว่าคุณผิดแล้วคุณจะตะแบงว่าคุณถูกแต่พอไปพิสูจน์กันแล้วมันก็ผิดทั้งนั้น
โทนของรายการโหนกระแสคือผมเองก็พยายามปรับโทนให้มันสบายๆ เพราะว่าเรื่องมันเครียดมากถ้าไม่ใส่อะไรให้มันสบายๆ หรือมีอะไรขำๆ กันบ้างในรายการผมว่าทุกคนเครียด มันจะกลายเป็นเหมือนเราอยู่ในศาลซึ่งมันไม่ใช่ รายการเท่านั้นเองเพราะฉะนั้นเราคุยกันได้เหมือนอยู่บนวงกินข้าวอยากจะพูดไรก็พูดมาเท่านั้นเอง
ถามว่ากังวลใจไหมก็ไม่ได้กังวลนะ เพราะผมเองก็ไปไหนมาไหนผมก็ไม่ได้มีการ์ด ไม่ได้มีคนคอยดูแล ไม่เคยมีอะไรอย่างนั้น ผมว่าสิ่งที่ผมทำถ้าเกิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรผมก็เชื่อว่าประชาชนปกป้องผมเองนะถ้าเกิดว่าจะมีอะไร แต่เคยเจอแบบมีมาขู่บ่อย เพียงแต่ว่าผมก็ไม่เคยไปนั่งบอกไง ยกเว้นมันจะเป็นข่าวออกมาอย่างที่เป็นข่าวออกมาว่าจะมีคนมาดักแทงที่หน้าช่อง 3 มีคนส่งลูกปืนมาให้ว่าระวังนะอะไรอย่างนี้ มีหลากหลายรูปแบบครับ หนักสุดที่เจอก็มีประชิดตัว ก็อย่างเช่น บุกเข้ามาแล้วก็เหมือนกับมาโวยวายเรามาด่าทำไมไม่ช่วยฉันทำไมอะไรอย่างนี้
เอาตรงๆ บางเรื่องก็ไม่ได้อยากจะทำหรอกแต่พอมีเสียงกระแสสังคมมา อย่างบางครั้งเขาจะบอกว่า อ้าว..แล้วทำไมทีเรื่องนี้ถึงปล่อยผ่านล่ะ เพราะฉะนั้นเราก็เลยรู้สึกว่าบางเรื่องราวก็ไม่อยากปล่อยแต่ว่ามันบางทีก็มีบทของการนำเสนออยู่เหมือนกันมีเส้นบางๆ อยู่เหมือนกัน อย่างบางเรื่องอยากให้ทำเรื่องนี้แต่แขกรับเชิญเขาไม่มาเราก็ลำบาก เราก็จะโดนก่นด่าว่าทำไมไม่ทำ ทำไมไม่เสนอเรื่องนี้คือมันไม่ได้ง่ายๆ นะบางครั้งคนที่มีแผลเขาก็ไม่ได้อยากจะมาเปิดแผลของเขาแต่ถ้าเกิดมาก็ดีคุณก็ได้ดีแคลร์ตัวเองไป
เราก็รู้สึกว่าเราก็ทำหน้าที่ของเราสิ่งที่ผมทำอยู่ผมว่ามันก็ดีกับทั้งสองฝ่ายด้วย ฝ่ายที่เป็นผู้เสียหายแล้วก็ฝั่งผู้ที่ถูกกล่าวหาเขาก็จะได้ดีแคลร์ตัวเองว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมพูด เพราะถึงผมไม่พูดสังคมก็พูด คืออย่าให้คิดแค่ตรงนี้เลยมันไม่ได้มีแค่รายการโหนกระแส ถึงวันนี้ไม่มีรายการโหนกระแสก็ยังมีรายการอื่นอีกเยอะแยะมาก มายถูกไหม ทุกที่ก็มีหมด กระบอกเสียงของประชาชน มันไม่ได้อยู่ที่ผมคนเดียวถึงไม่มีรายการผมไม่มีผมมันก็มีคนอื่น
ขอบคุณแฟนๆ รายการทุกคนนะครับที่ติดตามแล้วก็เป็นกำลังใจให้ แล้วก็ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วง แล้วก็ต้องขอโทษสำหรับหลายๆ คนที่อาจจะผิดหวังในการที่เรานำเสนอและรู้สึกว่าไม่ถูกใจ ผมเข้าใจและผมก็เห็นทุกครั้งว่ารู้สึกไม่โอเคกับตรงไหน แต่ว่าในบางครั้งผมก็อยากให้เข้าใจผมด้วยเพราะว่าการทำรายการโหนกระแสผมบอกเลยว่ามันยากมาก เพราะว่ามันเหมือนกับรายการอยู่บนความคาดหวังของคน ซึ่งผมไม่สามารถทำความคาดหวังให้กับทุกคนได้จริงๆ มันก็มีพลาดบ้างมีถูกบ้างก็ให้อภัยผมด้วยแล้วกันผมเองก็พยายามที่จะเป็นกระบอกเสียงที่ดีที่สุดให้แล้วกันแล้วกันนะครับ ส่วนช่วงนี้ฉายาเยอะก็น่ารักดีนะ ก็มีครูกะปิ พี่หน่วง อาหวัง ก็น่ารักดี”