ทนายดังเม้นต์กรณี “เชฟอ้อย” เป็นหนี้ต้องชดใช้
“ทนายสาคร ศิริชัย” ทนายความดัง ที่เป็นที่ปรึกษาคดีดังๆ อาทิของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เผยกรณี “เชฟอ้อย“ เจ้าของแฟรนไชส์ลูกชิ้นชื่อดังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมว่ากรณีนี้เป็นเคสพื้นฐานคือเป็นหนี้ต้องชดใช้
อ่านข่าวต่อ: รายการดังแจง “เชฟอ้อย” ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเชฟกระทะเหล็ก
เขาเผยว่า “เป็นหนี้ต้องชดใช้“ กรณีที่”เชฟอ้อย“ เจ้าของแฟรนไชส์ลูกชิ้นชื่อดังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในกรณีที่ถูกกล่าวหาและฟ้องต่อศาลว่านำเครื่องเพชรทองของผู้เสียหาย มูลค่าประมาณสองล้านบาท ของผู้เสียหายเอาไปขายแต่สุดท้ายมีการทวงถามแล้วไม่นำเงินหรือส่งมอบคืนเครื่องเพชรทองให้ผู้เสียหาย
ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวหากเป็นมูลความความจริง ”เชฟอ้อย“ จะมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 ซึ่งความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยความผิดฐานยักยอกทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 356
โดยคดีดังกล่าวหากได้มีการกระทำความผิดตามที่ถูกฟ้องหรือกล่าวหาจริง ” เป็นหนี้ก็ต้องชดใช้“ แม้คดีจะถูกฟ้องต่อศาลแล้วก็สามารถประนีประนอมผ่อนชำระหนี้หรือนำของไปคืนให้กับผู้เสียหายได้ หากเป็นที่พอใจกับผู้เสียหายแล้วก็สามารถยอมความและถอนฟ้องกันได้ในทุกชั้นศาลครับ “เป็นหนี้ต้องชดใช้ ไม่ต้องหนีครับ“ มีปัญหาต้องแก้ไข
เขาเผยอีกว่า คดีดังกล่าวมีอัตราโทษไม่รุนแรงและเป็นความผิดอันยอมความได้ พฤติการณ์คดีไม่ร้ายแรงไม่ได้มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง จำเลยมีถิ่นที่อยู่ และประกอบอาชีพ แน่นอน ศาลจึงให้ประกันตัวได้ไม่เหมือนคดีฉ้อโกงอื่นๆซึ่งเป็นกรณีฉ้อโกงประชาชน