“แมท ภีรนีย์” เคยสูญเสียความมั่นใจในวงการ ตอนนี้เชื่อรักแท้มีจริง แพลนมีลูกปีหน้า!
เปิดใจนางเอกสาว “แมท ภีรนีย์” หลังเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่ม “เฟม ภีมเดช” ในรายการ “WOODY FM” เผยเรื่องราวชีวิตก่อนตัดสินใจแต่งงานทำไมต้องเป็นคนนี้ แพลนอนาคตมีลูกปีหน้า เผยเคยสูญเสียความมั่นใจในวงการ ที่ผ่านมาได้ก้าวข้ามกับความทุกข์และพอใจที่ได้เรียนรู้ชีวิต
ก่อนที่จะแต่งในความสัมพันธ์ที่เราได้เจอ อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่ามั่นใจ ?
แมท ภีรนีย์ : แมทก็มานั่งถามตัวเองเหมือนกันค่ะ เพราะว่ารู้สึกเร็วมากๆ เพราะว่าก่อนหน้านั้นก็คือยังไม่ได้มั่นใจกับอะไร รวมถึงเฟม (สามี) ด้วย แต่ว่ามันเป็นไปของมันเองค่ะ ยังจำได้เลยว่าเราตั้งใจไว้ว่าจะทำเพื่อตัวเองแล้วต่อจากนี้ เพราะเราทำเพื่อคนอื่นมาเยอะแล้ว อยากจะเอาใจตัวเอง อยากจะตามใจตัวเอง อยากทำในสิ่งที่อยากทำจริงๆ ไม่อยากมีใครมาพ่วง หรือไปพ่วงใคร แต่ว่าเฟมมาทำให้แมทเชื่อว่ารักแท้ดีๆยังมีอยู่จริง แค่นี้เลย คือเขาให้ความมั่นใจ ให้ความรัก ให้คุณค่า ให้เกียรติ ให้ทุกอย่างที่แมทเก็บสิ่งนั้นเข้าลิ้นชักไปแล้ว
เพราะเชื่อว่าอาจจะไม่เจอแล้วในชาตินี้ ?
แมท ภีรนีย์ : ประมาณนั้น
พออยู่กับเขาความสบายใจมันเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง ?
แมท ภีรนีย์ : เขาพยายามเข้าใจเราด้วยนะ จริงๆ ตอนช่วงแรกระหว่างแมทกับเขา แมทใจร้ายกับเขามากเลย ก็คือเราถ่ายละครไปด้วย แล้วซ้อมเทนนิสหนักไปด้วย เราซ้อม 3 ทุ่มถึงเที่ยงคืน กลับมาก็ต้องเตรียมตัวเพื่อไปถ่ายละคร ได้นอนประมาณเกือบตี 2 แล้วตื่นตี 5 ไปถ่ายละคร ในวันว่างแมทก็ลงเทนนิสตลอดเลย เพราะฉะนั้นแมทก็จะให้ตัวเองก่อน เขาก็รอไป รอได้ก็รอ รอไม่ได้ก็ไม่ต้องรอ ซึ่งเขาก็รอ คือเขาพยายามเรียนรู้แมทค่ะ ว่าเราเจออะไรมา และเป็นแบบนี้เพราะอะไร ตอนแรกแมทก็ไม่ได้ใส่ใจเขา จนเขาทำให้แมทมั่นใจจนถึงจุดหนึ่ง แมทก็มาคิดว่าคนดีแบบนี้มันไม่ได้มีมาง่ายๆ แมทอาจจะไม่ได้คบกับคนเยอะค่ะ ประสบการณ์น้อยแต่ว่าช่วงเวลานั้นมันก็ 20 ปีแล้ว แฟนเก่าก็ 15 ปี แล้วก็มาอีก 5 ปี มันก็กินเวลาชีวิตเราไป 20 ปีแล้วนะ แล้วคือถ้าไม่ตอนนี้มดลูกฉันฝ่อแล้ว (หัวเราะ)
ฟังดูแล้วคิดว่าคงอยากมีลูก ?
แมท ภีรนีย์ : แมทชอบเด็ก รักเด็ก อยากมีลูกชอบเทคแคร์คน ชอบทำอะไรให้คนกินแล้วอร่อยอะไรแบบนี้
มีการวางแผนไหม ?
แมท ภีรนีย์ : มีการวางแผนค่ะ แล้วก็คุยกันตลอด ช่วงนี้เหมือนแมทกำลังกลับมาเยอะๆในวงการ รวมถึงละครกำลังจะออนแอร์ด้วย ก็เลยอยากมาเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายของตัวเอง แบบพลังใจมันมาแล้วค่ะ คือเราเป็นคนตั้งใจ อย่างน้อยตั้งใจแล้วรู้ว่าเราพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่มันสูญเสียความมั่นใจไปช่วงหนึ่งจนทำให้เราไม่กล้ารับ ไม่กล้าออก ไม่กล้าเจอใคร แต่ตอนนี้เราโตขึ้นก้าวข้ามผ่านอะไรต่างๆมาเยอะมากแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้คิดว่าพร้อมในด้านการทำงานในวงการ ส่วนลูกก็ต้องมีอยู่แล้ว ก็น่าจะเป็นปีหน้าค่ะ วางแผนไว้ว่าต้นปีก็คงจะทำเลยทั้งธรรมชาติหรือว่าอาจจะวิทยาศาสตร์ช่วย ก็เดี๋ยวค่อยไปดูมกราคมปีหน้า
การได้เจอกับขบวนรถไฟเหาะที่พาคุณวิ่งแบบไม่หยุดขึ้นลง ถ้าไม่แกร่งพอก็คงจะลาออก แต่ใจคุณยังเดินหน้าต่อได้เรียนรู้ความทุกข์แล้วอยู่กับมันให้เป็น ?
แมท ภีรนีย์ : ถือซะว่ามันเป็นเรื่องดี อย่างที่บอกเราเคยเป็นแบบนั้นแบบนี้มา ถ้าไม่เจอกับเรื่องที่มันขนาดนี้จะไม่มีวันเป็นเราตอนนี้ ซึ่งถ้าถามแมทพอใจค่ะ พอใจกับการได้เรียนรู้