“ป.” ฟาดกลับนางแบบกล่าวหาตั้งใจกลั่นแกล้งเอาเช็คเข้าบัญชีเพื่อให้เช็คเด้ง และแจ้งความ...??
จากกรณี “ลูกหมี รัศมี”ฟ้องฉ้อโกง “ปู มัณฑนา” ตามที่ปรากฏเป็นข่าวโดย โดยทั้งสองได้พร้อมนัดที่ศาลแขวงพระนครใต้เมื่อ 22 ตค. ที่ผ่านมาโดยมี “หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ” ซึ่งมาเป็นตัวแทนภรรยา “ปู มัณฑนา” พร้อมด้วย “ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” และ “ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช” ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้อง สืบพยานฝั่งโจทก์ “ลูกหมี รัศมี” โดยฝั่งโจทย์ยืนยันไม่ไกล่เกลี่ยแล้ว ซึ่งศาลนัดอีกครั้งวันที่ 1 พ.ย.
อ่านข่าวต่อ: “ลูกหมี” พร้อมทนายยื่นฟ้องดาราดังข้อหาฉ้อโกง
ล่าสุด “ปู มัณฑนา” โพสต์รัวฟาดโจทย์ไม่ยั้งอีกครั้งว่า ยัง...ยังไม่หยุด...ทำลายชื่อเสียงนะ
“ยังคงพูดดิสเครดิตทำลายชื่อเสียงทุกวันตามที่คุยกัน คุณเป็นคนขอเช็คดิฉัน และให้เซ็นสัญญาเพื่อค้ำประกันเท่านั้น ไม่ได้เป็นเช็คชำระเงินและเงินบางส่วนที่โอนไปให้ ทำไมไม่พูดล่ะ ได้เงินคืนไปแล้ว และทำไมคุณไม่ส่งเช็คกลับคืนมาตอนคุยกันไม่ได้ให้เอาเช็คไปขึ้นเงินคุณขอแค่เช็คค้ำๆๆๆๆเพื่อความสบายใจของคุณเท่านั้น..”
“คุณขอแลกเช็คใบใหม่ ขออะไรก็ให้ทุกอย่าง เช็คใบเก่าคุณก็ควรส่งคืนกลับมาแต่นี่ไม่เคยส่งคืนกลับมาเลยสักใบบอกลืม!!!แถมจงใจกลั่นแกล้งให้เสียชื่อเสียง เอาเช็คไปขึ้น เพื่อให้เช็คเด้ง และไปแจ้งความ...ความเป็นจริงตัวคุณเองรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ทำอะไร คิดอะไร รู้อยู่แก่ใจ”
“ยังกล้าออกมาพูดโกหก...ในชั้นสน. มีเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ย และเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามคุยให้ไกล่เกลี่ยกัน
แต่...ตัวคนเอง และหนายที่โวยวายบอกไม่ไกล่เกลี่ย ยังกล้า โกหกต่อนน้ำสื่อว่าทางดิฉันไม่ยอมไกล่เกลี่ย”
เธอโพสต์อีกว่า “ส่วนเรื่องเงินในบัญชี...ที่คุณชอบเผือก ดิฉันเป็นลูกค้าธนาคารกสิกรไทยและอีกหลายธนาคารมีหลายบัญชีทั้งออมทรัพย์ และกระแสรายวันคุณยังกล้าออกมาโกหกอีกนะ คุณรู้อยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ว่ามันคือเช็คค้ำประกันตามที่คุณขอเท่านั้น ดิฉันจึงไม่ฝากเงินเข้าบัญชีกระแสรายวันคุณรู้อย่างนี้แล้ว คุณจึงตั้งใจกลั่นแกล้ง เอาเช็คเข้า เพื่อให้เช็คเด้ง และแจ้งความ...ส่วนเรื่องคนขับรถของคุณ ดิฉันไม่เคยเจอเพราะคุณบอกว่าคุณไม่เคยมีคนขับรถอยู่ๆเอาคนขับรถมาเป็นพยาน ก็งงดีเหมือนกันและถ้าคนที่คุณกล่าวอ้างพูดโกหกหรือทำอะไรให้เสื่อมเสีย ดิฉันก็จะปรึกษาทนายความ และเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถเอาผิดอะไรได้หรือไม่อย่างไร เพราะดิฉันไม่เคยเจอและไม่เคยคุยกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว”