“ฟิล์ม” น้ำตาคลอ เสียใจเจอ #แบนแม่หยัว เข้าใจถ้าผู้ชมไม่ดูอีก
จากกรณีดราม่าร้อนระอุจนเกิด #แบนแม่หยัว ขึ้นบนโลกออนไลน์ จากการนำสัตว์มาเข้าฉากหนึ่งในซีรีส์ โดยใช้การวางยาสลบแมว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามว่าฉากดังกล่าวได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ ไม่เพียงเท่านั้น เรื่องราวยังลุกลามไปถึงนักแสดงนำในซีรีส์ด้วย
อ่านข่าวต่อ : "ฟิล์ม ธนภัทร" น้ำตาซึมตอบปมดราม่าซีนแมวใน"แม่หยัว" ยกมือไหว้ขอบคุณทุกความห่วงใย
ล่าสุดพระเอกหนุ่ม “ฟิล์ม ธนภัทร” หนึ่งในนักแสดงนำจากซีรีส์ “แม่หยัว” ได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาคลอว่า....
“อย่างแรกรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น กระทบกับตัวเรา ก็อย่างที่ทุกคนได้เห็นตามแฮชแท็กก็ไม่มากก็น้อยในส่วนของผลงานของเรา ถ้าถามก็เยอะพอสมควร เราก็ได้ตามอ่านและผมรู้สึกว่าก็เข้าใจความรู้สึกของหลายๆ ฝ่ายด้วย อย่างดาวิกา คิดว่าเขาน่าจะได้รับผลกระทบทางจิตใจค่อนข้างหนัก
อย่างแรกต้องขอขอบคุณจริงๆ ที่เข้าใจผม เพราะทุกอย่างที่เข้ามากับผมก็ไม่ได้หนักหนามาก และหลายๆ คนก็เข้าใจ ก็มีที่เห็นเกิดแต่กับผม ในส่วนของผมก็เป็นนักแสดง เราก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะนักแสดง ถ่ายทอดตัวละครออกมาอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว มีโอกาสได้พูดคุย ในส่วนนั้นก็ขอให้เป็นทางผู้ใหญ่และทีมเป็นคนพูดดีกว่า เพราะจริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้รู้ดีเทลมากขนาดนั้น
แต่พี่ป้อน นิพนธ์ ออกมาบอกว่างานช่อง one หลายๆ เรื่องจะไม่ใช้กับสัตว์ ผมก็รู้สึกดีนะที่จะเป็นแบบนั้น เพราะเราจะได้เลิกเบียดเบียนสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นน้องแมว หรือน้องหมาใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย หรือทางจิตใจ อย่างที่รู้กันว่าถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดภาษาเดียวกับเรา แต่เขาก็มีความรู้สึกที่รับรู้ได้ และมีความเจ็บปวดทรมานไม่ต่างกับเรา ก็รู้สึกดีที่ได้ยินแบบนั้น ร้องไห้แล้วนะ (น้ำตาคลอ) มันถือว่าเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้แล้วกัน ตอนนี้ก็ดี เพราะผมว่ามันทำให้ทุกฝ่ายได้รับรู้ในส่วนนี้มากขึ้น
ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง อย่างที่ผมพูดไป ผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ ขอบคุณจริงๆ ที่ทุกคนรักและเห็นความตั้งใจของเราจริงๆ แต่ในส่วนอื่นๆ ที่เราควบ คุมไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ของเรา ก็เดี๋ยวผมไปมู ไปไหว้พระขอพรกับท่าน อาจจะดวงตก มันต้องมีสักเรื่องหรือสักปีแหละที่เป็นของเรา จริงๆ ต้องบอกว่าทำบุญเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว มีโอกาสก็เข้าวัดเข้าวานะครับเห็นแบบนี้ งานบุญก็ไปนะ มีโอกาสก็ไปทำเรื่อยๆ
มีผลกับเรตติ้งละครที่มันเหลือแค่ 4 อีพี มีไม่มากก็น้อย อย่างที่ทุกคนได้ทราบกัน มีหลายๆ คนที่รับไม่ได้ ก็เข้าใจได้ในส่วนนี้ว่าเขารับไม่ได้กับการกระทำ อันนี้ก็คือไม่ติดเลย อย่างที่ผมเคยพูดไปครั้งก่อนหน้านั้นว่าใครที่ไม่สะดวกใจที่จะดู เราก็เข้าใจ ไม่ตำหนิแล้วไม่ต่อว่ากัน ผมเคารพการตัดสินใจของคนดูมาก ถ้ารู้สึกว่าเรตติ้งมันตก แล้วรู้สึกว่ารับไม่ได้จริงๆ มันก็คือจิตใจของเขา ถามว่าเสียดายไหม ผมก็พูดตรงๆ ว่าผมก็รู้สึกเสียดาย ตัวเองตั้งใจทำ เต็มที่ที่สุดแล้วตั้งแต่เคยทำงานมาในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นการแสดงเองก็ตาม ในส่วนของการเปลี่ยนบอดี้ของตัวเองก็ตาม ลดน้ำหนักทุกอย่างก็ทำมาเพื่อในส่วนนี้ อยากให้ทุกคนได้เห็นผลงานดีๆ ออกไป ได้เห็นความตั้งใจของเรา และคิดว่ามันไม่ใช่เราคนเดียวหรอกที่ตั้งใจทำงานนี้ ต้องขอขอบคุณที่เข้าใจในพาร์ตการทำงานของนักแสดงจริงๆ แล้วขอบคุณที่เห็นความตั้งใจของพวกเรา มันไม่ใช่แค่ผมที่ตั้งใจทำงานนี้ เพราะผมได้เห็นนักแสดงคนอื่นๆ ที่เรียกว่าถวายตัวเพื่องานชิ้นนี้ไม่แพ้กัน ไม่ใช่แค่ผม ใครสบายใจก็ดู ถ้าผมพูดในมุมนักแสดง หรือคนทำงานจริงๆ ความเข้มข้นของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผมมันเป็น การเปลี่ยนบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตตัวเองครั้งแรก ส่วนใครที่ไม่สบายใจก็ไม่ดูก็ได้ เราเข้าใจความสบายใจของคนดู
ผมเชื่อว่าหลายๆ คน เราได้เห็นความตั้งใจของเขา เขาก็คงถวายตัวเพื่อเรื่องนี้จริงๆ และได้เห็นหลายๆ คนได้รับกระแสที่ค่อนข้างมีผลกระทบต่อจิตใจ ก็มีการพูดคุยกัน ให้กำลังใจกัน จริงๆ ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมานั่งร้องไห้อะไรกับเรื่องนี้ ผมแค่เสียดายความตั้งใจของตัวเองและของคนอื่นๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้นานมาก แต่มันเป็นละครที่เราทุ่มเทอะไรหลายๆ อย่างมาก แลกมาด้วยสภาวะจิตใจในการทำ งาน แลกมาด้วยร่างกายที่มันทรหดกว่าเรื่องอื่นมากๆ แค่อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าพวกเราตั้งใจแค่ไหนเท่านั้นเอง”