“มิ้วกี้ ไปรยา” ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังโดนขโมยแหวน อึ้ง! ผู้เสียหาย 10 รายที่โดนหลอก
ก่อนหน้านี้ยูทูบเบอร์ชื่อดัง “มิ้วกี้ ไปรยา” ได้ออกมาโพสต์เตือนภัย โดนเพื่อนใหม่ชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นนายแบบและอินฟลูเอ็นเซอร์ อักษรย่อ พ.จ. แอบขโมยแหวนเพชรแบรนด์หรู 3 วง หลังจากที่ไปเที่ยวด้วยกัน อีกทั้ง “มิ้วกี้” เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในข้อหาลักทรัพย์ไปเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดเจ้าตัวอัปเดตความคืบหน้าของคดีความว่า…
อ่านข่าวต่อ : เสียใจมาก “มิ้วกี้ ไปรยา” อึ้ง! คนใกล้ตัวทำแสบขโมยแหวนไป
“คดีความตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการทางกฎหมาย ก็เดี๋ยวเราเข้าไปสอบสวนอีก 1 รอบแล้วเดี๋ยวก็ขึ้นศาลคู่กรณีไม่มีเข้ามาคุยเขาก็ยังลงรูปใช้ชีวิตแบบปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางเราก็คิดว่า ถ้าเกิดว่ามีการมาพูดคุยก็อาจจะคุยกันได้ แต่ทางเขาก็ไม่มี และยังใช้ชีวิตแบบไม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆ ต้องบอกอย่างนี้ว่าวันที่เราไลฟ์ คู่กรณีโทรเข้ามาเยอะมาก โดนเคสที่คล้ายๆ กันเยอะมากประมาณ 10 กว่าเคส ซึ่งเรามีหลักฐานและเราก็มีเบอร์ทุกคนที่โทรเข้ามาเล่าให้เราฟัง ว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้ๆ หลายๆ คนก็ไม่กล้าที่จะเอาเรื่องอะไร
ความเสียหายนี้ประมาณ 2 แสนกว่า ต้องบอกก่อนเพราะหลายคนนึกว่าเป็นแฟน ไม่ได้เป็นแฟน ไม่มีสถานะ ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย เป็นคนรู้จักกัน อันนี้บอกตามตรงว่าเราก็อาจจะไว้ใจคนมากไปหน่อย ก็ไม่รู้เลยว่าหยิบไปตอนไหนสมมุติว่าเหมือนเราไปเที่ยวกับเพื่อน เราวางของไว้แล้วก็ไม่คิดว่าใครจะหยิบไป แล้วก็เอาจริงๆ ตอนที่ของหายในหัวเราภาวนาขอให้อย่าเป็นเขาด้วยซ้ำ เพราะว่าเขาเป็นคนใหม่ในกลุ่มที่เพิ่งจะเข้ามาแล้วเราภาวนาขอให้อย่าใช่เขา เพราะมันจะเสียความรู้สึกมากๆ ขอให้มันเป็นของหายแบบหาไม่เจอดีกว่า เขาตัดแหวนทิ้ง 1 อันคือจากการสันนิษฐานแล้วเป็นการตัดแหวนเพื่อที่จะขยายให้ใส่ได้ แล้วอีกวงหนึ่งก็เหมือนเป็นการตีขยายเพื่อให้วงมันใหญ่ขึ้น ซึ่งมิ้วกี้เป็นคนนิ้วเล็กมากๆ ซึ่งแหวน 3 วงก็กลับมาในสภาพก็คือถูกขยายมาหมด ตำรวจต้องขอเบอร์ทุกคนที่อยู่ในคืนวันนั้น แล้วจะต้องโทรหาแต่ละคน แล้วพอโทรไปปุ๊บเขาก็ยอมรับเลยว่าแหวนอยู่ที่เขา เขาบอกแหวนอยู่ที่ผม แต่ผมไม่ได้ขโมย
ตอนนี้ก็คือต้องระวังตัวมากจริงๆ ก็แบบว่าไม่กล้าใส่เครื่องประดับอะไรเลยเวลาไปเที่ยวข้างนอกก็ระวังตัวมากขึ้นมากๆ เลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คือใส่โดยที่เราไม่คิดอะไร เราก็โลกสวย เราก็พูดตรงๆ เพราะเราเกิดมาก็ไม่เคยขโมยของใคร เราก็ไม่คิดว่าเราจะต้องมาถูกขโมยของ จริงๆอยากเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนนะ เพราะว่าเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ อันนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างอันตราย
บางคอมเมนต์ก็บอกว่าเป็นความประมาทของเราเอง เพราะเราถอดทิ้งไว้พูดอย่างนั้นได้ไหมก็พูดได้ แต่มันสมควรไหมที่เราวางไว้แล้วจะมาหยิบของเราไป มันใช่หน้าที่ของโจรไหมที่จะมาหยิบ คุณจะพูดแบบเห็นแก่ตัวไม่ได้ว่าคุณวางเอาไว้เอง ให้คนมาหยิบ คุณจะหยิบของคนอื่นไม่ได้ อ้างใครอ้างอะไรก็ได้
แจ้งความข้อหาลักทรัพย์ อยากบอกอะไรกับคู่กรณีแกก็อย่าใช้ชีวิตให้มันง่ายเกิน แกก็สำนึกนิดนึง แกก็อย่าทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ ถามว่าหนูต้องการอะไรหนูอยากให้เขาติดต่อมา เช่นโทรหาผู้จัดการหนูก็ได้ เพื่อขอตกลงเจรจาพูดคุยว่าเราจะหาทางออกยังไงกันดี แต่เขาก็ยังยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ขโมย มันติดตรงที่ไม่ได้ขโมยแล้วแหวนไปอยู่ที่เธอได้ยังไง แล้วแหวนถูกตัดได้ยังไงมันติดในใจตรงนี้ จริงๆ เรื่องมันอาจจะไม่ได้ใหญ่ก็ได้ ถ้าคุณยอมรับตั้งแต่แรก แล้วบอกขอโทษนะ มันอาจจะเป็นความประมาทหรือพลาดพลั้งของเราไป โดยที่เราไม่ได้คิด หรืออาจจะคิดน้อยไปหน่อย อาจจะมีความเคลียร์กันได้ หลายคนก็บอกว่าเพื่อนกันรู้จักกัน ต้องอย่างนี้เลยหรอ เราก็คิดว่าก็เขาไม่สำนึก คนเราผิดให้อภัยได้ แต่ว่าคนผิดก็ต้องรู้จักสำนึกผิดด้วย ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นก็ต้องมีเคสต่อไป คือหนูจะต้องบอกแบบนี้ว่าจริงๆ มีหลายเคสที่โดน แต่เขาไม่กล้าที่จะออกมาแจ้งความเพราะ 1.อาย 2.กลัวโดนด่าแบบที่หนูโดนด่าว่าเธอประมาทเอง เธอนั่นนู่นนี่เอง เขาก็กลัวไง
ผู้เสียหายที่เขาโดนหลอกมาคุย 10 กว่าคนเลย แต่ละเคสมูลค่าความเสียหายก็เยอะอยู่ แต่ละเคสมันเป็นเคสที่ไม่คาดฝันดีกว่า เหตุการณ์คล้ายๆ กัน แต่ก็ไม่มีใครเอาเรื่องเขา หนูคิดว่าน่าจะเป็นที่นิสัยแล้วแหละ เขายังไม่กลับ เขาปักหลักอยู่ที่นี่อยู่แล้ว เขาพูดไทยชัดแจ๋ว เขาเป็นต่างชาติแท้แต่พูดไทยชัดแจ๋ว เอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่ยอมความเด็ดขาด”