“แสตมป์ อภิวัชร์” เผยสาเหตุหายหน้าไป 2 ปี ภรรยาถูกคุกคาม ขึ้นศาลยังเจอนายพลขู่

“แสตมป์ อภิวัชร์” เผยสาเหตุหายหน้าไป 2 ปี ภรรยาถูกคุกคาม ขึ้นศาลยังเจอนายพลขู่

0

“แสตมป์ อภิวัชร์” เผยสาเหตุหายหน้าไป 2 ปี ภรรยาถูกคุกคาม ขึ้นศาลยังเจอนายพลขู่

           ทำเอาแฟนๆ ส่งกำลังใจให้กับนักร้องอารมณ์ดี “แสตมป์ อภิวัชร์” กันอย่างมากมายหลังเจ้าตัวได้ออกมาเผยสาเหตุที่หายหน้าหายตาไป ในช่วงหนึ่งของคอนเสิร์ต Wednesday Song ที่โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า  

แสตมป์ อภิวัชร์

แสตมป์ อภิวัชร์

            ขอบคุณทุกคนที่ยังจำผมได้อยู่นะครับ .ผมขอเล่าเรื่องบางเรื่อง ซึ่งมันจะปกป้องชีวิตคนในครอบครัวผมได้ แล้วผมเอามันออกมาสู่แสงสว่าง เพราะว่าภรรยาผมถูกโจมตีในที่มืดมานานเกินไปแล้ว  ผมหายไปเพื่อฟ้องร้องคน 2 คน ที่บุกมาถ่ายคลิปแบล็กเมลภรรยาผมหลังเวที ปี 2567 ฟ้องร้องกันมา


          มันเริ่มจากมีคนคนนึงสร้างสถานการณ์ ทำให้เกิดความเกลียดชัง สร้างความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับภรรยาผมในวงการเพลงและนอกวงการเพลง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่รู้จักส่วนตัวกับภรรยาผมมาก่อน แล้วก็มีคนเชื่อถึงขั้นมาโพสต์ด่าโจมตี บุกรุกมาหลังเวที จนผมทำงานไม่ได้ คนๆ นี้โผล่หน้ามาให้ภรรยาผมรำคาญใจมาเป็น 10 ปีแล้ว ทั้งที่ไม่รู้จักกันแต่เรื่องมันร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2565 มีตัวละครเพิ่มขึ้นมาซึ่งคือแฟนของเขา ซึ่งทำงานอยู่ในวงดนตรีวงหนึ่ง ทำให้มีป้ายให้คอที่จะบุกรุกเข้ามาหลังเวทีที่ไหนก็ได้

แสตมป์ อภิวัชร์

           ในช่วงปี 2565 ขณะที่ผมเล่นดนตรีบนเวที 2 คนนี้จะแวะมาโฉบผ่านหน้าภรรยาผม บางครั้งบางวันก็สร้างสถานการณ์มานั่งร้องไห้ใกล้ ๆ ภรรยาผม  โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ซึ่งภรรยาผมก็ไม่รู้มันคืออะไร แต่เธอก็ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากให้ผมเป็นข่าว เธอใช้วิธีการหลบเลี่ยงเอา ภรรยาผมบอกกับผู้จัดการว่า ขอไม่รับงานร่วมกับวงดนตรีวงนี้ไปก่อน คิดว่าจะจบได้โดยไม่มีการปะทะกัน จนในวันที่ 26 ก.พ.2566 มีงานที่ เดอะสตรีท รัชดา เราทราบไม่กินวันก่อนหน้าว่า เราต้องเล่นกับวงดนตรีวงนี้ เราแคนเซิลไม่ทัน เมื่อไปถึงก็พบว่ามีคนมาดูต้นทาง มีคนบอกว่าคู่กรณีทั้ง 2 คน มาดักหน้าห้องพักศิลปิน พอเห็นภรรยาผมทั้งสองพุ่งเข้ามาหาภรรยาผม พูดจากล่าวหา หาเรื่องและมีคนอัดคลิปวิดีโอไว้ แล้วไปบอกคนในวงการเพลงว่า บังเอิญเจอภรรยาผมหลังเวที แล้วหาว่าภรรยาผมไปคุกคามเขาโดยไม่มีสาเหตุ  แต่ภารรยาผมไม่เอาความ จากนั้นพวกเราเริ่มใช้การ์ด คอยลาดตระเวนก่อนคอนเสิร์ตว่ามี 2 คนนี้ไหม ผ่านไปไม่นานทั้ง 2 คนย้ายไปทำงานกับอีกวงดนตรีหนึ่ง พอเรารู้ ขอไม่รับงานร่วมกัน เพื่อความปลอดภัย

แสตมป์ อภิวัชร์

           มาถึงวันที่ 21 ต.ค. 2566 ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ก็ไปเจอกับคนนี้ที่รออยู่ ภรรยาเลยพาผมไปซ่อนในห้องพักศิลปิน จนถึงเวลาโชว์ ก็เปิดประตูมาเจอคนนี้ชูมือถือถ่ายอยู่หน้าห้อง สุดท้ายก็เกิดการปะทะกัน แล้วก็เช่นเดิมเขาไปโพสต์ว่าภรรยาผมไปคุกคามเขา

แสตมป์ อภิวัชร์

          28 ต.ค. 2566 สองคนนี้ไปนั่งดักรอเจ้าของค่ายเพลง ค่ายใหญ่ที่สุดค่ายหนึ่งในประเทศ ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แล้วไปร้องไห้ไปเล่าว่าถูกคุกคามโดยภรรยาผม ผู้ใหญ่ท่านนั้นรับฟังและให้คำปรึกษา ก่อนติดต่อมาหาผมเพื่อฟังความ  ในปีต่อมาผู้ใหญ่ท่านนั้น ยอมไปขึ้นศาลเพื่อเป็นพยานให้ว่า 2 คนนี้ทำลายชื่อเสียงภรรยาผม เหตุการณ์ครั้งนั้น ผมตัดสินใจโทรหานักร้องนำวงนี้ ที่เขาสังกัดอยู่ ขอโทษที่ร่วมงานกันไม่ได้ ตราบใดที่ 2 คนนั้นยังอยู่กับคุณ เราทำงานไม่ได้จริงๆ ตลอดการสนทนา ก็แน่ใจได้ว่านักร้องนำท่านนี้อัดเสียงผมอยู่ตลอด นั่นแปลว่า 2 คนนั้นไปบลัฟไว้ก่อนแล้ว ว่าภรรยาผมไปคุกคามเขาและเขาเชื่อ แต่ภรรยาผมจะไปคุกคามเขาก่อนได้อย่างไร เมื่อทุกครั้งที่เกิดเหตุ มันเกิดที่หน้าห้องพักศิลปินของผม ในเมื่อไม่ปลอดภัย และไม่มีใครช่วยเราได้ ผมจึงต้องไปพึ่งบารมีศาล ไม่เช่นนั้น 2 คนนี้จะไปวาดภาพว่าภรรยาผมเป็นอะไรก็ได้ 

 

            ปี 2567 เรื่องน่ากลัวที่สุดของครอบครัวผมก็เกิดขึ้น ระหว่างที่ไปศาลกัน พ่อของจำเลยท่านหนึ่ง เป็นทหารยศนายพลจากพิษณุโลก มาขึ้นศาลแทนลูกของเขา และขอให้ผมกับภรรยาถอนฟ้องลูกของเขาไม่เช่นนั้นผมจะโดนยัดคดีทางการเมือง นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นในศาล ส่วนที่นอกศาล นายพลท่านนี้เคยขับรถไปบ้านแม่ของผม บอกว่าเป็นแฟนคลับ เอาของมาให้ แล้วถ่ายรูปแม่ผมเก็บไว้ ส่วนภรรยาของนายพลเคยปะปนเข้าไปในกรุ๊ป Open Chat แฟนคลับ เพื่อถามว่าผมไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนแล้วแฝงตัวเข้าไปดูคอนเสิร์ต จนผมต้องตัดสินใจปิด Open Chat และไม่รับงานอีกเลย

แสตมป์ อภิวัชร์

           จำเลยคนต้นเรื่องก็ติดตามผม  ทั้งที่ปั๊มน้ำมันที่แวะ โรงแรมที่เราพัก  หนักที่สุดเคยมานั่งข้างๆ ผมบนเครื่องบิน ระหว่างที่ทำการฟ้องร้อง ผมลองตรวจสอบดู พบว่ามีการล็อกที่นั่งไว้จริงๆจากเพื่อนของเขาสมัยมหาวิทยาลัย ที่ทำงานสายการบินนั้น หลังจากนั้นผมขอไม่รับงานที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินอีกเลย และขอไม่รับงานอีกจนกว่าศาลจะคุ้มครองเรา กระทั่งวันที่ 30 พ.ค.2567 ภรรยาผมชนะคดีได้ ด้วยการที่จำเลยรับสารภาพเอง ตอนนั้นเขาจำนนต่อหลักฐานในชั้นสืบพยาน มีการยกมือไหว้ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมาและจะไม่ยุ่งกับภรรยาผมอีก แต่พอออกจากศาลผ่านมา 2 สัปดาห์ เขาก็มาโพสต์ด่าเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือคำขู่ของนายพลท่านนั้น ผมจึงขอใช้เวทีนี้ประกาศให้ทุกคนได้ยินเอาไว้ว่า  คนที่ปั่นเรื่องราวเข้าใจผิดสร้างความเกลียดชังกับภรรยาผม เขายอมแพ้ไปแล้วในศาล ดังนั้น คนที่จะโพสต์ด่าภรรยาผม จงทบทวนตัวเองให้ดีเพราะเราจะไม่เจรจาอีกแล้ว ต่อไปเราก็จะสู้กันด้วยศาลอย่างเดียว ..ผมฝากไปถึงท่านนายพล แทนที่ท่านจะรักลูกด้วยการมาขึ้นศาลแทนลูก แล้วให้ลูกรอในรถ บุกรุกไปบ้านแม่ผมแทนเขา ท่านรักลูกของท่านด้วยการดูแลเขาอยู่ในบ้าน แล้วคดีที่ท่านยื่นมาผมก็คงต้องสู้กันไป . ถึงวันนั้นผมคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องเปิดศึกในสื่อ แล้วทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นใคร 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“แสตมป์ อภิวัชร์” เผยสาเหตุหายหน้าไป 2 ปี ภรรยาถูกคุกคาม ขึ้นศาลยังเจอนายพลขู่

“แสตมป์ อภิวัชร์” เดือดสุด! ฟ้อง 1 ล้านเอาผิดคนกล่าวหาภรรยาว่าเป็นบ้า โรคจิต

“แสตมป์” โพสต์ฟาด วงดนตรีไม่มีคุณธรรม ซัพพอร์ตโจร! แห่ถามรัวๆ ใคร?!

 “แสตมป์-นิว” รัก18ปี...ไม่เคยปล่อยมือไปจากเรา ไม่ว่าเราจะอยู่ที่จุดไหนของชีวิต

คึกคัก! “ETC. - Stamp - Sara” รวมพลังส่งความสุข ในงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ สิงห์ปาร์ค เชียงราย

“มาย ภาคภูมิ” ทำแฟนคลับอยากเช็ดน้ำตาให้ MV เพลง “ขาด” เศร้าเกินใจจะไหว!

เปิดตัว “BE ON CLOUD MUSIC” ส่ง “มาย ภาคภูมิ” ลงพระเอก MV ดึง “แสตมป์” ถ่ายทอดเพลงเศร้า!

Comments