ดีเอสไอ จ่อสแกนเเม่น้ำเจ้าพระยาจุด “แตงโม” ตกเรือยันไม่ใช่การรื้อฟื้นคดี ณวัฒน์ ปานเทพ รุดขอบคุณพร้อมมิสแกรนด์
วันที่ 24 ม.ค.68 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะผู้รับผิดชอบดำเนินการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ “น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์” หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง ออกมาเปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่
อ่านข่าวต่อ: “กรรชัย” แจงแล้วเหตุไม่เสนอข่าว “แตงโม”
วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรกของคณะพนักงานสืบสวน ที่ประชุมมีมติเตรียมเชิญผู้ร้องและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่ดีเอสไอจะลงพื้นที่เกิดเหตุเอง โดยจะใช้เครื่องมือเลเซอร์สแกน 3 มิติ เพื่อสแกนเเม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสายของบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งหมด และจะขอข้อมูล GPS เส้นทางการเดินเรือทั้งหมดด้วย เพื่อจะได้จำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วนำไปตรวจสอบร่วมกับข้อมูลที่ทางผู้ร้องนำมาให้เราต่อไป
นอกจากนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นมาเกือบ 3 ปีแล้ว เป็นไปได้ที่ข้อมูลหลักฐานต่างๆ อาจจะเลือนลางหายไปได้ ทางเราจึงต้องการให้ประชาชนทุกท่านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงเกิดเหตุ ร่วมเข้าแจ้งข้อมูล เพื่อที่เราจะได้นำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
“พ.ต.ต.ณฐพล” กล่าวอีกว่า ในช่วงสัปดาห์หน้า คณะพนักงานสืบสวนจะเชิญในส่วนของผู้ร้องเพื่อเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม และทราบว่าทางผู้ร้องอยู่ระหว่างการประสานพยานบุคคลอื่นๆ เพื่อเข้าให้ข้อมูลกับเรา รวมไปถึงพยานสำคัญ โดยเราจะมีมาตรการคุ้มครองพยาน เพื่อให้บุคคลกล้าเข้ามาให้ปากคำด้วย พร้อมยืนยันว่าเราจะดำเนินการสืบสวน โดยไม่ให้กระทบกับสำนวนคดีหลักที่อยู่ในระหว่างกระบวนการชั้นศาลแน่นอน เรียกว่าจะเป็นการสืบสวนนอกสำนวนคดีอาญาที่ดำเนินการอยู่แล้วทั้งหมด ย้ำว่าไม่ใช่การรื้อฟื้นคดี
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า การสืบสวนจำเป็นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนกระบวนการชั้นศาลในส่วนของคดีหลักหรือไม่นั้น กรณีการสืบสวนของดีเอสไอไม่เกี่ยวข้องกับคดีหลัก เพราะเรื่องนี้เป็นการสืบสวนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีเดิมทั้งสิ้น เป็นเรื่องใหม่ ตามที่ผู้ร้องได้ร้องว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมและขอให้เราตรวจสอบกลุ่มบุคคล ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเจ้าหน้าที่ แต่มีคนอื่นด้วยที่เขาร้องขอมาให้เราตรวจสอบได้อยู่ในกลุ่มที่มีการบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริงในคดี
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ในกรณีหากดำเนินการสืบสวนแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น ก็เป็นไปตามกรอบกฎหมาย ถ้ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องจะเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่ดำเนินการต่อไป แต่ในเบื้องต้นได้มีการร้องกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องมานี้ ทางคณะพนักงานสืบสวนต้องรอทางกลุ่มผู้ร้องว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างในเคสนี้จึงต้องขอเวลาทำการสืบสวนก่อน...
เมื่อถามว่าสามารถยุติการสืบสวนก่อนจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ หากสืบสวนแล้วพบว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า กรณีนี้เรารับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 หากการสืบสวนเป็นอย่างไรก็ต้องรอดูผลว่าเป็นไปในทิศทางใดต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
ทั้งนี้ การสืบสวนของดีเอสไอ หากพบว่าการกระทำผิดดังกล่าวอยู่ในบัญชีท้ายของ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ก็สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้โดยอัตโนมัติด้วยอำนาจของอธิบดีดีเอสไอ แต่ในกรณีนี้ไม่ได้อยู่ในบัญชีท้ายของ พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว ถ้าจะรับเป็นคดีพิเศษก็ต้องเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพราะการสืบสวนคือการแสวงหาพยานหลักฐานข้อเท็จจริงเท่านั้น เพื่อเสนอให้คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ อย่างไร
ต่อมานายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พ.อ. นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พร้อมด้วยผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025 เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อรับฟังความคืบหน้าหลังรับ คด
นายปานเทพ กล่าวว่า มาเพื่อแสดงความขอบคุณ และติดตามความคืบหน้าคดี และทางเรายินดีที่จะให้ความร่วมมือ เพราะจะมีการเรียกพยานไปให้ข้อมูลประเด็นสำคัญของคดีนี้คือพยานหลักฐานที่มีความยาก เนื่องจากคดีเกิดขึ้นมาแล้วหลายปี...