“หนุ่ม กรรชัย” สู้สุดซอย! หลัง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” แจ้งความหมิ่นประมาท
ตกเป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเชียล สำหรับพิธีกรดัง “หนุ่ม กรรชัย” ที่ก่อนหน้านี้ถูกนักร้องหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” เข้าแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาท หลังเคยเปิดคลิปเสียงที่หนุ่มถูกแอบอ้างเรื่องเรียกเงิน 20 ล้านบาทแล้ว ล่าสุด “หนุ่ม” ได้ออกมาเผยถึงกรณีนี้ว่า...
อ่านข่าวต่อ : “หนุ่ม กรรชัย” แนะ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ควรกลับไปคิดให้ดีๆ ลั่นคนไทยไม่ได้โง่
“เรื่องของคุณฟิล์ม เรื่องนี้ผมให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องของคุณปู ผมว่าเรื่องของคุณปูขี้ผง ผมไม่ได้สนใจ แต่เรื่องคุณฟิล์มผมสนใจ เพราะว่าจริงๆ แล้วผมอยากให้คุณฟิล์มลองกลับไปคิดทบทวนให้มันดีๆ เพราะว่าทุกๆ คนในประเทศไทยยังจำกันได้ ผมเปิดคลิปๆ หนึ่งขึ้นมา ในนั้นมีชื่อของหนุ่ม กรรชัย ปรากฏอยู่ ก็คือรายการโหนกระแส จะเอาทางฝั่งของบอสพอลมาออกรายการ คุณกฤษอนงค์ก็บอกว่าจะหาทางลงให้สวยๆ เลย แล้วมีเสียงผู้ชายคนหนึ่ง บอกว่าตอนนี้พี่หนุ่มยังคุยไม่ได้หรอก เพราะทางนู้นอยากจะคุยกับพี่หนุ่ม ผู้ชายคนนั้นเลยบอกว่าเดี๋ยวผมจัดการให้ แล้วสุดท้ายมีการบอกด้วยว่า 20 ล้าน คือคนไทยไม่ได้โง่นะ คนไทยกินข้าว แล้วผมมั่นใจว่าสิ่งที่ทุกคนได้ยินมันหมายถึงอะไร แล้วในนั้นมันคือผม ผมถามย้อนกลับไปว่าวันนั้นทำไมผมถึงเปิดคลิปนี้ ผมมีเหตุผล วันนั้นกำลังดำเนินราย การเรื่องดิไอคอน ผมถามว่าถ้าคลิปนี้ตกอยู่ในมือคู่กรณีของผม หรือคนที่ต้องการจะทำร้ายผม เขาเปิดมาแล้วบอก อ้าว หนุ่ม กรรชัย กับนักร้องดังร่วมมือกัน แล้วไปเรียกเงินเขาเนี่ย ผมเสียไหม ลูกผมจะมองหน้าเพื่อน มองหน้าพ่อแม่เพื่อนของเขายังไง มันกลายเป็นพ่อเขาไปเรียกรับเงินจากชาวบ้าน มันไม่เป็นธรรม ผมในฐานะที่มีส่วนได้เสีย ผมก็จำเป็นที่จะเปิดคลิปนั้นขึ้นมา แล้ววันนั้นไม่ได้เอ่ยชื่อด้วยว่าเป็นใคร แต่สุดท้ายวันนั้นพอเปิดคลิปนั้นไป ไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง คุณฟิล์มเองวิ่งไปที่ช่อง 8 เอง แล้วไปขอสัมภาษณ์ที่ช่อง 8 กับ อ.ยิ่งศักดิ์ แล้วออกมาแถลงข่าว คุณได้ยินใช่ไหมว่าคุณฟิล์มพูดว่าอะไร คุณฟิล์มบอกว่าผมต้องขอโทษพี่หนุ่มด้วย ที่เอาชื่อพี่หนุ่มไปพูด
ผมถามว่าถ้าคุณไม่ผิดแล้วคุณจะขอโทษผมทำไม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คุณไปตบทรัพย์หรือคุณจะบอกว่าเป็นงานอีเวนต์ คุณมีสิทธิ์อะไรที่เอาชื่อผมไปบอกคนอื่นว่า กรรชัยเรียก 20 ล้าน และคุณขอ โทษผมด้วยเรื่องนี้ คล้อยหลังไป 2 เดือนกว่า คุณไปแจ้งความผมที่ห้วยขวาง ผมยังไม่เห็นหรอกว่าคุณแจ้งอะไรผมบ้าง แต่คุณก็ออกข่าวว่าไปแจ้งความผม ว่าทำให้คุณเสื่อมเสียชื่อเสียง ผมถามว่า ในวันนั้นคุณขอโทษผมแล้ว แล้วคุณจะแจ้งความผมทำไม คุณต้องการอะไร คุณมีเจตนาอะไร แต่คุณกลับไปดูเรื่องของข้อกฎหมาย คุณไปดูมาตรา 173, 174 ว่ามันเข้ากับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่หรือเปล่า ผมไม่รู้หรอกว่า ทนายความหรือใครก็ตามแต่ว่าให้คุณทำแบบนี้ ผมพูดเหมือนเรื่องคุณปูเลย เวลามีเรื่องทนายไม่ได้ติดคุกนะ คนที่จะติดคุกคือคุณ ถ้าผมเอาเรื่องคุณ แต่เรื่องนี้ผมบอกเลยว่าผมก็สุดซอยเหมือนกัน
ผมพูดแรงตรงไหน ไอ้การที่คุณเอาชื่อผมไปบอกคนอื่นว่าเรียกเงิน 20 ล้าน ไม่แรงเหรอ เป็นพี่น้องกับผมยังไง ในเมื่อไม่ได้เป็นน้องผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมก็ประกาศชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ใช่น้องผม ส่ายหงส่ายหัว เลอะเทอะ ผมไม่ได้มีน้องคนนี้อยู่แล้ว เป็นแค่คนรู้จักคนนึง เคยร่วมงานและแยกย้ายกันไป เขาเรียกผมพี่ ผมก็เออ ฟิล์ม แต่วันนี้มีเรื่องแบบนี้ก็ไม่ต้องเรียกพี่เท่านั้นเอง เรียกไอ้ก็ได้
ตอนนี้หมายยังไม่ถึง รออยู่ คือจริงๆ ไม่จำเป็นต้องรอหมายมาถึงบ้าน วันไหนผมว่าง ผมจะเดินทางไปที่ สน.ห้วยขวาง ผมจะไปขอพนักงานสอบสวนดูว่ามีการแจ้งความผมยังไงหรือเปล่า ถ้าเกิดมีการแจ้งความผมหรือยังไงก็แล้วแต่ ผมก็สวนเหมือนกัน และก็อีกเรื่องนึง ผมยกมือไหว้เลย ขออนุญาตครับ อ.ประมาณ ผมในฐานะที่รู้จัก อ.ประมาณ พอสมควร แล้วก็เคารพท่าน ผมมีเรื่องอยากจะถามนิดนึง เห็นอาจารย์พูดคำว่าจัญไร ขออนุญาตถามอาจารย์ผ่านทางนี้นะครับว่า นักกฎหมายพูดคำนี้ไม่ผิดเหรอครับ หรือว่าเป็นทนายความแล้วด่าคู่ความว่าจัญไรได้ ถ้าหากว่าสามารถจะด่าแบบนั้นได้ จะได้เป็นบรรทัดฐาน ที่ทำให้นักกฎหมายออกมาแล้วใช้คำพูดแบบนี้ได้ อันนี้อยากเรียนถามจริงๆ ด้วยความโง่เขลาของผม ผมอยากทราบ เพราะผมไม่ใช่นักกฎหมายเลยอยากรู้ ฝากเรียนถามท่านด้วย เพราะเป็นถึงนักกฎหมายอาวุโสน่าจะรู้ครับ ให้ข้อมูลสักนิดนึง
ไม่มีอะไรอยากบอกหรอก ผมเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำ เขารู้อยู่แก่ใจ แล้วก็มีคนฝากมาบอกด้วยนะ ไม่ต้องพยายามโทรไปหาเขา เพื่อดึงเขามาดิสเครดิตผม แต่คนนั้นเขาบอกว่าไม่ต้องโทรไปหาเขาแล้ว เพราะเขารำคาญ แล้วพยายามจะไปดึงเรื่องโน่นนี่นั่นมา ซึ่งผมดูแล้วมันเลอะเทอะ แล้วผมก็ให้ปากคำไปแล้ว แจ้งความทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่ได้ทำให้ใครไปเกลียดใคร ผมแค่ปกป้องสิทธิ์ของผม ผมไม่สามารถไปห้ามประชาชนทั้งประเทศเขามองคุณว่าเป็นแบบไหนได้ อย่ามาโทษผม คุณต้องกลับไปดูพฤติกรรมในสิ่งที่มันเกิดขึ้น
ทุกคนมีเรื่องกับผมได้หมด เพียงแต่ว่าต้องดูบริบทข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นคืออะไร แล้วก็ผมว้าวมากๆ กับสิ่งที่คุณไปแจ้งความผม โดยคุณเองก็เคยออกมาขอโทษผมแล้ว ถามว่าจะมีว้าวกว่านี้มั้ย ว้าวๆๆๆ ห่วงความปลอดภัยผมว่าคนเหล่านี้เขาคงไม่เล่นนอกเกม ผมเชื่อว่ามีสามัญสำนึกมากพอ มีอะไรก็ไปสู้ในกระบวนการกฎหมาย ถ้าคิดว่าผมผิดก็ไปแจ้งความ ไปฟ้องศาลเอา ผมคิดว่าผมไม่ผิดก็ยื่นข้อเท็จจริงเสนอไป แล้วผมก็แจ้งความกลับ ฟ้องกลับก็จบ”