“กอล์ฟ พิชญะ” รับจิตตกติดเชื้อจนต้องผ่าตัดด่วน

“กอล์ฟ พิชญะ” รับจิตตกติดเชื้อจนต้องผ่าตัดด่วน 

          ทำเอาแฟนๆ ต่างส่งกำลังใจให้กับนักร้องหนุ่ม “กอล์ฟ พิชญะ” หลังออกมาแชร์คลิปที่ตัวเองป่วยหนักจนต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนที่บริเวณลำคอ และต้องได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลถึง 7 วัน ล่าสุด “กอล์ฟ พิชญะ” ก็ได้ออกมาเปิดใจพร้อมอัปเดตอาการป่วยว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ทำงานหนักเลย กอล์ฟค่อนข้างเป็นเคสที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ขออธิบายว่ามันคือการติดเชื้อในกระดูกคอ จุดเริ่มต้นก็คือเราจะไปเที่ยวญี่ปุ่น และเราวางแผนว่าเราจะไปตั้งแต่ 12 - 18 กุมภาพันธ์ และวางแผนว่าอยากไปสโนว์บอร์ดหนึ่งวัน แต่เหตุมันเกิดเมื่อประมาณวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เริ่มรู้สึกว่าแหงนคอไปข้างหลังแล้วเหมือนนอนตกหมอน

          แรกๆ ก็ไปหาหมอทำกายภาพ วันต่อมาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับมีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บกล้ามเนื้อคอ จะแตกต่างกับการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอแบบไอ มันจะเป็นแบบเอานิ้วจิ้มก็เจ็บ เดินอยู่กระแทกแล้วก็เจ็บ ก็เลยรู้สึกว่ามันแปลกแล้ว ก่อนที่เราจะบินไปญี่ปุ่นเราก็เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลหาหมอ แล้วมีโอกาสได้ทำ MRI ช่วง 5 โมงเย็นก็ผ่าตัดวันนั้นเลย หมอเดินเข้ามาแล้วพูดคำแรกว่าเรียกญาติมาให้หมด ถามว่าช็อกไหม ก็ช็อก ตอนแรกเราก็แบบว่าทำไมต้องเรียกญาติให้หมด คือเราเป็นอะไรหรือเปล่า เราเป็นมะเร็งเหรอ หรือเราเป็นโรคร้าย สุดท้ายเหมือนหมออยากให้มารับรู้พร้อม ๆ กันต้องผ่าตัดวันนี้ ซึ่งจะขอไปผ่าตัดอีกวันเพื่อขอเวลาทำใจก่อนก็ไม่ได้ เพราะว่ามันติดเชื้อยาวอยู่ที่เคยเล่าไป อีกนิดหนึ่งก็คือจะลงปอด ลงหัวใจ ถ้าปล่อยไว้ไม่ได้ผ่าตัดแค่คอ คือจะเป็นผ่าตัดใหญ่กว่านี้คือแหวกอก ระยะเวลาที่เจ็บจนถึงวันผ่าตัดก็เป็นเวลาประมาณ 3-4 วัน แต่จริง ๆ มันน่าจะเพาะเชื้อมาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่อาการมันเพิ่งมาออกตอนนั้น มันจะเป็นเหมือนการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บ และเหมือนตกหมอน

           ส่วนสาเหตุ ณ ตอนนี้ยังรอผลชิ้นเนื้อที่ส่งไปตรวจอยู่มันค่อนข้างใช้เวลา เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ซับซ้อนมาก เราไม่เคยคลุกคลีกับสิ่งนี้มาก่อน ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีคำตอบให้ชัดๆ ว่ามันคืออะไร วันแรก ๆ มีการติดเชื้อ แต่เขาบอกว่าคนติดเชื้อในกระแสเลือดค่าหลักร้อยแต่ของกอล์ฟหลักสิบ โชคดีว่ากอล์ฟไปโรงพยาบาลในขณะที่มันไม่ได้มาก เจอทัน ต้องขอบคุณความวิตกจริต ความขี้กลัว ทำให้เอาตัวเองไป MRI ให้มันเห็นผล คิดว่าของเหลวนี้น่าจะมาก่อนวัคซีน และมีเวลาสะสมมา เพราะมันยาวอยู่นะ กลับมาใช้ชีวิตได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องกินยานอนหลับช่วยเพราะนอนไม่ได้ ใช้ชีวิตเฮลท์ตี้ขึ้น  

            หลังผ่าตัดตอนรู้สึกตัวครั้งแรกหลังผ่าตัด มันยังไม่โล่ง เพราะยังไม่รู้ว่าคืออะไร ต้องรอหมอมาบอก เราคิดถึงหมอมาก เมื่อไหร่หมอจะเข้ามา อยากรู้อยากได้คำตอบ มันก็หนักอยู่ พอผ่าตัดมันก็โล่ง แต่เอฟเฟกต์ที่ตามมาคือหูเราอื้อ เอฟเฟกต์จากผ่าตัดทำให้หูเราพังหรือเปล่า เขาบอกเสียงจะเปลี่ยนนะ หลายอย่าง กลืนน้ำลายก็ไม่ลง ปวดคออีก มีหลายอย่างที่มีคำถามเกิดขึ้น เราได้แค่รออยู่ในห้อง รอหมอมาบอกว่าดีขึ้นไหม ก็หนักอยู่ พอย้อนกลับไป เรารอดคำว่าตายมา ทุกวันนี้แค่ตื่นมาแล้วไม่ปวดคอ ก็เป็นอะไรที่ดีมาก