“เมย์ วาสนา” ยัน! ทางออกเดียว “ขอของคืน” แจงสัมพันธ์ “ดิว” ไม่แค้นเคือง
หลังจากที่นักธุรกิจสาว “เมย์ วาสนา” มาออกรายการ “โหนกระแส” กรณีที่นางร้ายสาว “ดิว อริสรา” ยืมของ 62 ล้านบาท เพื่อไปแก้ ไขปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้น และมีกำหนดคืนชัดเจน พร้อมทั้งบอกว่าให้เอาไปเป็นของเพื่อประกันเท่านั้น ห้ามจำนำและซื้อขายเด็ดขาด แต่สุดท้ายจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ของคืน ล่าสุด “เมย์” ได้เผยว่า...
อ่านข่าวต่อ : "เมย์ วาสนา" ตอบเสียงสั่น! ลั่นแค่อยากได้ของคืน รับที่ผ่านมาตนเห็นใจ “ดิว อริสรา” มาตลอด
.jpg "ดิว อริสรา")
“ตนเองได้พูดทั้งหมดไปในรายการโหนกระแสแล้ว และที่ได้คุย กับดิว อริศราในรายการโหนกระแส และตนเองก็ได้ฟังเจตนารมณ์ทั้ง หมดของดิว อริศราไปหมดแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิตของตนเอง และฟางเส้นสุดท้ายของตนคือ ตนเองให้ดิว อริศรา ยืมของด้วยมิตรภาพที่ดีต่อกัน ด้วยความรู้สึกของเพื่อน พี่น้อง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา เป็นโกหก ตรงนี้เลยเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ตนรู้สึกว่าต้องออกมาปกป้องตัวเอง และแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้น
ทางออกเดียวของตนเอง คือได้ของคืน เมย์ไม่ดำเนินคดีก็ได้ ไม่โกรธไม่อาฆาตอะไรเลย แต่ถ้าไม่ได้แล้วต้องสู้ และสู้ให้ดีที่สุด เป้าหมายคือต้องการของคืน จากการคุยในรายการดิวก็ให้ทางออกที่ดีมาก แล้วก็เห็นใจเขา ทุกครั้งที่ไม่ออกมาพูดอะไรเลยเพราะฟังเรื่องนี้มาตลอด และเห็นใจมาตลอด เมื่อถามว่าพอใจกับคำตอบของดิวในรายการหรือไม่ ไม่ได้บอกว่าพึงพอใจหรือไม่พึงพอใจ แต่ถ้าได้ของคืนแล้ว ไม่ต้องมานั่งจ่ายตังค์ อันนี้เราโอเค แต่ถ้าอย่างอื่นไม่โอเค
.jpg "ดิว อริสรา")
สำหรับความสัมพันธ์หลังจากนี้กับดิวนั้นคือไม่โกรธแค้น ไม่เคือง แต่ก็กลัวแล้วเข็ดแล้ว หลังจากนี้จะต้องมีการติดต่อกับรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ก็ให้เป็นเรื่องของกฎหมาย ดิวก็พูดมากลางรายการว่าจะให้ข้อมูล ก็เชื่อว่าเราน่าจะได้ข้อมูลนี้ว่าอยู่ที่ไหน ส่วนของที่รู้นั้นแน่ชัดหนึ่งรายการ ส่วนอีกหนึ่งรายการ ไม่แน่ชัด อย่างที่ทนายพูดไปในราย การเมื่อถามว่าของที่อยู่ที่รัฐมนตรี หรือนักการเมือง มันยังการันตีสิ่งนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคำพูดที่ได้ข้อมูลมาซึ่งทนายได้ข้อมูลมา
ตอนนี้ไม่ติดใจใครเลย แค่อยากได้ของคืน ไม่ต้องมาให้ดอก เบี้ยให้อะไรเลย เอาของมาคืนทุกอย่างจบ ไม่ดำเนินคดีก็ได้ แต่ถ้าต้องสู้ก็ต้องสู้จนถึงที่สุด ส่วนเส้นตายที่กำหนดไว้นั้นต้องเร็วที่สุด ทนายบอกว่าเส้นตายของเราคือทุกวัน เมย์ฟังเรื่องแบบนี้มาเจ็ดเดือนเท่านี้เลย”
