“นนกุล” กลั้นน้ำตาไม่อยู่ กล่าวคำอาลัย “คุณแม่เพ็กแฮ” ไม่ต้องห่วง “นน” จะให้ทำได้แน่นอน
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาครอบครัว “สันตินธรกุล” ได้มีการจัดงานพิธีฌาปนกิจ “คุณแม่เพ็กแฮ สันตินธรกุล” คุณแม่ของนักแสดงหนุ่ม “นนกุล ชานน” ที่จากไปด้วยอาการป่วยมะเร็ง หลังป่วยมานาน 10 ปี โดยวันนี้ได้มีเพื่อนพี่น้องในวงการ รวมไปถึงคนสนิทที่เดินทางมาส่งคุณแม่มากมายที่วัดธาตุทอง โดยมีลูกๆ สามคน นนกุล-นุ่น-ลูกน้ำ ได้อ่านประวัติ และกล่าวความในใจถึงคุณแม่เพ็กแฮ ทั้งน้ำตา ซึ่งนนกุลได้พูดคำอาลัยกับคุณแม่ว่า
“จากลูกที่ไม่ได้เรื่องของคุณแม่ ในมุมมองของผม คุณแม่เป็นคนที่ขี้บ่นมาก จู้จี้จุกจิก บางทีเรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องเล็กๆ คุณแม่ก็ชอบทำให้เรื่องนั้นเป็นเรื่องใหญ่ แล้วผมก็จะเป็นคนที่ขี้รำคาญ เราก็เลยจะทะเลาะกันบ่อย ถ้าถามว่าใครดื้อที่สุดในบ้านทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าคือผม ตัวผมไม่เถียงในข้อนี้เลย หลายๆ ท่านอาจจะเป็นลูกที่ดีของคุณแม่ เมื่อหวนคิดถึงคุณแม่ของตัวเองก็อาจจะเห็นรอยยิ้ม แต่สำหรับผม ผมจะนึกถึงคำบ่นของคุณแม่ หลายคนอาจจะนึกถึงคำสอนของท่านแต่ผมจะนึกถึงเวลาที่คุณแม่จู้จี้จุกจิก ทำไมไม่เตรียมเสื้อผ้าตั้งแต่ตอนกลางคืน ตอนเช้าจะได้ไม่ต้องมาหา หลายคนอาจจะคิดถึงคุณแม่เวลาที่กอดท่าน แต่สำหรับผมเวลาที่ท่านมาปลุกผมตอนเช้าว่าสายแล้ว ทำไมไม่ตั้งปลุกไว้ตอน 6 โมง แต่ตอนนี้มันเพิ่งตี 5 ผมจะคิดถึงสิ่งเหล่านี้มากๆ เพราะเสียงของคุณแม่ตอนนั้นที่ผมแสนจะรำคาญ วันนี้ผมกลับคิดถึงและโหยหามันมากที่สุด
การบอกรักของครอบครัวของเราอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้ดีเท่าไหร่ การที่พวกเราลูกๆ ปากแข็งในการที่จะบอกรักคุณแม่ตรงๆ ก็เหมือนกับที่คุณแม่ปากแข็งไม่กล้าชมพวกเราตรงๆ ครับ ผมก็เพิ่งได้ยินสิ่งเหล่านี้เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำไป หลังจากที่แม่เสียได้ไม่นาน จากคุณหมอที่ดูแลครอบครัวเรามา 30 กว่าปี เราเพิ่งรู้ว่าคุณแม่บอกกับคุณหมอว่าแม่ดีใจมากๆ ที่คุณพ่อของเราพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหาทางออกให้กับโรคร้ายของคุณแม่มาโดยตลอด 19 ปีที่ผ่านมา จากเพื่อนๆ ของคุณแม่มากมายหลายคน บอกพวกเราว่าคุณแม่มักจะบอกกับเพื่อนๆ ตัวเองเสมอว่าภูมิใจในตัวลูกสาวทั้งสองคนที่ดำเนินชีวิตได้ดีโดยไม่ต้องทำให้ใครกังวล และจากพี่คนหนึ่งที่ผมได้ร่วมงานด้วยไม่นาน คุณแม่บอกกับพี่คนนั้นว่าประทับใจที่ผมเคยบ้าๆ บอๆ ที่ผมไปคุยกับสื่อว่าผมอยากเป็นนักแสดงที่ไปให้ไกลถึงระดับโลกโน่นนี่นั่น คุณแม่อยากจะให้ผมไปได้ไกลถึงตรงนั้นจังเลย แต่น่าเสียดายที่เป็นอีกข้อที่ผมยังทำให้คุณแม่ไม่ได้
ถ้าคุณแม่ยังเฝ้ามองผมอยู่ตอนนี้ ผมอยากจะบอกกับคุณแม่ผมว่าไม่ต้องเป็นห่วงเลย วันหนึ่งนนจะทำให้ได้แน่นอน แต่อาจจะขอเวลาสักหน่อย เพราะคนเก่งกว่าผมเยอะมากจริงๆ
สุดท้ายนี้ผมก็อยากจะบอกคุณแม่ว่าผมไม่ได้ขออโหสิกรรมอะไรให้หรอกนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดชาติหน้ามีจริง แม่จะได้อยู่จองเวรจองกรรมกับผมต่อ แต่ตอนนี้ปล่อยจอย ปล่อยใจ ให้สบายไม่ต้องกังวลทางนี้ พวกเราจะดูแลกันและกันอย่างดี เหมือนที่แม่ดูแลพวกเรา แต่ก็ใช้เวลาสักหน่อยแล้วกันให้ความเศร้าได้เบาลงไปบ้าง ความคิดถึงไม่หายไปไหนแน่นอน แต่เพราะตอนนี้อาจจะเป็นเพราะแม่ไม่อยู่ตรงนี้แล้ว ก็เลยไม่ค่อยเขินแล้วที่จะบอกว่า รักแม่มากๆ นะครับ ขอบคุณครับ”