แม่ร้องความเป็นธรรม ลูกชายถูกรถตู้หมอลำชื่อดังชนเสียชีวิต คู่กรณีไม่เยียวยา

แม่ร้องความเป็นธรรม ลูกชายถูกรถตู้หมอลำชื่อดังชนเสียชีวิต คู่กรณีไม่เยียวยา

        ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.ภิชญาดา อายุ 45 ปี แม่ของนายธนศักดิ์ อายุ 16 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถตู้เฉี่ยวชนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 บริเวณถนนรังสิต-นครนายก (ขาเข้า) หน้าหมู่บ้านสีวลี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

อ่านข่าวต่อ: ชีคัมแบ็ค..นางเอกหมอลำระเบียบวาทะศิลป์ลงชิงมงมิสยูนิเวิร์สลพบุรี2025

       น.ส.ภิชญาดา เปิดเผยว่า ลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงกระแทก สมองกระทบกระเทือน เลือดคั่งในสมอง และปอดอักเสบ ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 1 มีนาคม 2568 ขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยคู่กรณีเป็นรถตู้ของนักร้องหมอลำและยูทูบเบอร์ชื่อดังรายหนึ่ง ซึ่งปฏิเสธความรับผิดชอบ อ้างให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ และไม่ได้เข้ามาดูแลหรือเยียวยาใด ๆ มีเพียงเงินช่วยเหลือ 10,000 บาทที่โอนมาให้หลังจากญาติผู้เสียชีวิตติดตามทวงถาม

       เมื่อถึงวันฌาปนกิจตนได้มีการโทรไปแจ้ง ทีมงานเขาจึงเดินทางมาร่วมงาน และขอจุดธูปเพื่อไหว้ศพลูกชายตน โดยที่ตัวของนักร้องหมอลำไม่ได้มา ส่งเพียงตัวแทนกับคนขับรถมาเท่านั้น และไม่มีการรับผิดชอบอะไรใดๆ เพิ่มเติม

       แม่ผู้เสียชีวิตระบุว่า แม้ตำรวจจะลงความเห็นว่าฝ่ายรถตู้เป็นฝ่ายประมาท และลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมเซ็นรับผิด ทำให้ประกันภัยไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยได้ ส่งผลให้คดีไม่มีความคืบหน้าตลอดเวลากว่า 3 เดือน จนกระทั่งครบร้อยวันหลังการเสียชีวิตของลูกชาย

       น.ส.ภิชญาดาระบุว่า ตนเจรจาเรียกร้องค่าเสียหาย 4 ล้านบาท แต่คู่กรณีกลับบอกว่าเป็นจำนวนที่มากเกินไป โดยไม่เคยแสดงเจตนาต่อรองใด ๆ รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะสูญเสียลูกชายที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกคนนี้มาตั้งแต่เด็ก และตั้งใจว่าจะทวงความยุติธรรมให้ลูกให้ได้

       ด้าน ดร.แก้ว ระบุว่า หลังตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น พบว่าคดีมีความเป็นไปได้ว่าคู่กรณีเป็นฝ่ายประมาท และการดำเนินคดีของตำรวจยังไม่คืบหน้า จึงจะรับเรื่องไว้ และประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เพื่อผลักดันให้คดีเดินหน้า หากตำรวจไม่สามารถตัดสินได้ อาจต้องพิจารณานำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลต่อไป