“บอย ปกรณ์” ตกลงกัน 3 พี่น้อง ยอมตัดเวลาส่วนตัว ดูแล “วันใหม่” เติมเต็มน้อง
เป็นอีกโมเมนต์ที่ชาวเน็ตเห็นแล้วน้ำตาซึม หลังพระเอกหนุ่ม “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ทำหน้าที่แทนคุณแม่งามทิพย์ พา “น้องวันใหม่” ไปดูคอนเสิร์ต และในคอนเสิร์ตยังมีโมเมนต์ฮีลใจเมื่อ “บอย โกสิยพงษ์” เดินเข้ามากอดปลอบตนและ “น้องวันใหม่” ระหว่างเล่นคอนเสิร์ต ล่าสุดเจอตัวบอยเจ้าตัวก็เผยว่า
อ่านข่าวต่อ: “บอย ปกรณ์” อวดภาพพา “เฟย์-น้องวันใหม่” ไปเที่ยว พร้อมแคปชั่นนี้ ทำเอา “หน่อง” รีบมาคอมเมนต์
พาน้องไปดูคอนเสิร์ต เราก็ต้องมาดูแลวันใหม่แทนที่ในส่วนของแม่ที่เคยดูแลน้อง ฉะนั้นแล้วเราก็มีการจัดระเบียบเวลาของเราใหม่ แต่ก่อนเรามีแม่คอยดูแลน้องอยู่แล้ว หน้าที่เราหลักๆ นอกจากดูแลคนในครอบครัว วันใหม่ เราเป็นเสาหลักในการหารายได้เข้าบ้าน เข้าครอบครัว แต่ตอนนี้มีหน้าที่ใหม่ที่เราต้องจัดการในเรื่องของบ้านต่างๆ คือในบ้านหลังเดียว มีเรื่องราวมากมายให้ทำเยอะแยะไปหมด ทั้งเรื่องการจัดการดูแลบ้าน ดูแลเรื่องบัญชี การเงิน ดูแลคน เช่น พี่เลี้ยง แม่บ้าน ไหนจะตึกที่ผมดูแล สตูฯ มีพนักงาน
ซึ่งก่อนหน้านี้แม่เขาชอบทำอะไรพวกนี้ แต่ตอนนี้พวกผมสามคน บอย-หน่อง-ภัทร์ ก็ต้องมารับหน้าที่ตรงนี้ ต้องแบ่งงานกัน แต่สำหรับส่วนที่เราสามคนให้ความสำคัญที่สุดคือหน้าที่ในการดูแลวันใหม่ เราต้องมาใช้คำว่าเราจะไม่ทำให้วันใหม่รู้สึกขาดอะไรไปเลย เราจะกลับมาเติมเต็ม และจะพยายามเติมให้ล้นด้วย ในสิ่งที่วันใหม่ต้องได้รับในเด็กวัยนี้ ว่าเขาต้องได้รับอะไรบ้าง ต้องได้รับทั้งเรื่องเวลา การดูแล ความอบอุ่นหรืออะไรก็ตาม นอกเหนือจากสิ่งที่เราเมเนทให้เขาได้อยู่แล้ว คือเรื่องการศึกษา การเรียน กิจกรรม ผมพูดง่ายๆ คือผมสานต่อสิ่งที่แม่ได้ทำไว้กับน้องดีกว่า แม่เคยทำอะไรไว้ให้น้องบ้าง ผมสานต่อหมดทุกอย่าง
ถามว่าเวลายากไหม ถ้าถามผม ก็ไม่ได้ขนาดนั้น ทุกวันนี้ผมก็ยังทำงานเยอะเหมือนเดิม แต่มีบางงานผมทำเบื้องหลังบ้าง ไม่ได้ทำงานเต็มวันเหมือนเมื่อก่อนที่ถ่ายละคร 7 วัน ตอนนี้ผมทำงานบางวัน 2-3 ชม.ก็จบแล้ว ผมเมเนทเวลาได้ อีกอย่างคือถ้าจะให้พูดจริงๆ ผม-หน่อง-ภัทร์ พูดกันเลยว่า ทุกคนต้องยอมตัดเวลาส่วนตัว ตัวเองออก แล้วยกตรงนี้มาให้วันใหม่ ซึ่งทุกคนก็โอเค มันก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำให้น้อง
อย่าเรียกว่าเสียสละเวลาของเราเลย เราแค่ลดความสุขของเราลงไปแค่นั้นเอง เอาเวลาที่บางทีเรานอนดูซีรีส์อยู่บนห้อง เราก็ลดเวลาดูลง หรือช่วงนี้ผมก็ไม่ดู ผมก็ลงมาอยู่กับน้อง อะไรที่เป็นกิจกรรมส่วนตัวที่เราทำ ปกติน้องเขาอยู่กับแม่บ้าง เล่นกับหมาบ้าง แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มีช่วงจังหวะได้อยู่กับคุณแม่แล้ว เราก็แค่มาเติมตรงนี้ แค่นั้นเอง แต่ก่อนวันใหม่นอนกับคุณแม่ ตอนนี้ก็เป็นผม แต่ก็สลับกันทั้งสามคน แต่ภัทร์อาจต้องตื่นเช้าไปร้านแว่น หน่องเป็นคนมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ หลับยาก ผมไม่มีปัญหา ผมก็นอนกับน้อง วันใหม่เขาจัดซุ้มนอนของเขา ผมก็นอนอยู่บนเตียงอีกมุมนึง แยกกัน
ตอนนี้พวกผมก็อยู่ในช่วงที่กำลังเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ อาจมีจังหวะที่โหวงๆ บ้าง แต่คนเราก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป ใช้ชีวิตให้เหมือนเป็นปกติ แต่โอเค ผมออกมาทำงานปกติ พอกลับบ้านไปก็เป็นอีกโมเมนต์นึงแล้ว เป็นความโหวง นั่งคุยกันพี่น้อง หรือคุยกับลูกแม่ ก็เป็นอีกความรู้สึกที่เราอยู่ที่บ้าน แต่ก็ขอบคุณมากๆ พวกเราสู้ต่อไปเต็มที่แน่นอน ผมในนามพี่คนโตครอบครัวฉัตรบริรักษ์ ขอขอบคุณทุกกำลังใจมากๆ