“เขื่อน ภัทรดนัย” เผยอดีตรักที่เจ็บปวดในการหย่าร้าง แนะคนมีแฟน Toxic ออกมาไม่ได้ต้องทำยังไง!?

“เขื่อน ภัทรดนัย” เผยอดีตรักที่เจ็บปวดในการหย่าร้าง แนะคนมีแฟน Toxic ออกมาไม่ได้ต้องทำยังไง!?

0

“เขื่อน ภัทรดนัย” เผยอดีตรักที่เจ็บปวดในการหย่าร้าง แนะคนมีแฟน Toxic ออกมาไม่ได้ต้องทำยังไง!?


         จากไอดอลสู่ผู้เยียวยาจิตใจ รายการ Prime Cast  เปิดใจ “เขื่อน ภัทรดนัย” อดีตสมาชิกวง K-OTIC  จากไอดอลสู่ผู้เยียวยาจิตใจ ที่กลายเป็นเสียงสำคัญเรื่องสุขภาพจิตและความเป็นตัวของตัวเอง ที่เผชิญกับความเจ็บปวดในชีวิตรัก การหย่าร้าง และการเติบโตทางจิตใจ เขื่อนเลือกใช้ชีวิตอย่างซื่อตรงกับตัวเอง ปัจจุบันเป็นนักจิตบำบัดเต็มเวลา พร้อมกับสร้างโปรเจค “จุดพักใจ” ที่เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้คนได้พูดคุยและปรึกษาปัญหาชีวิต

เขื่อน ภัทรดนัย

เขื่อน ภัทรดนัย

 

ให้คำจำกัดความคำว่านักจิตบำบัด

เขื่อน ภัทรดนัย : สมมุติเราหิวข้าว เราอยากกินอะไรเราก็เข้าร้านสะดวกซื้อ ปวดฟันเราก็ไปหาหมอฟัน นักจิตบำบัดก็เหมือนกันถ้าจิตใจเราไม่สบายใจ มูฟออนไม่ไหวเป็นภาวะ หรือว่าแบบไม่สบายทางจิตใจ นักจิตบำบัดก็จะเป็นคนหนึ่งที่แบบเปิดพื้นที่ปลอดภัย ให้คนสามารถมาเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น เป็น Psychotherapist คือผู้เชี่ยวชาญที่ให้การบำบัดทางจิตใจและอารมณ์

 

ความสัมพันธ์กับแม่ตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นยังไงบ้าง

เขื่อน ภัทรดนัย : ความสัมพันธ์กับคุณแม่คือเป็นแม่ลูกที่ค่อนข้างสนิทกัน เหมือนเพื่อนที่เล่นสนุกเอนจอย เคยไปนั่ง deep talk กับคุณแม่ตอนในวัย 31 ถามแม่ว่าที่เขื่อนแต่งหญิง แต่งงาน หย่า เปลี่ยนสายอาชีพ ทำไมแม่ถึงเข้าใจและเชื่อใจ คุณแม่ก็อธิบายมาว่าสุดท้ายแล้วมันไม่ได้เกิดจากแม่เข้าใจว่า LGBTQ คืออะไร แต่เกิดจากที่คุณแม่รู้สึกว่าไว้ใจเรา ไว้ใจในสิ่งที่เราทำไปมันน่าจะดี ถ้าเกิดวันหนึ่งทำมาแล้วมันไม่ดี เขาก็รู้สึกว่าเราจะรับผิดชอบตัวเองได้ คุณแม่เคารพในการตัดสินใจของกันและกัน  กับคุณแม่เป็นความสัมพันธ์วันไหนที่เราดิ่งคุณแม่ก็พร้อมอุ้มเราขึ้นมา วันไหนที่คุณแม่ดิ่งเพราะคุณแม่เขื่อนก็มีภาวะไบโพลาร์ เขาก็จะมีภาวะอารมณ์ดีหรือคึกคักผิดปกติ อารมณ์ปรับเปลี่ยนแรงมากเร็วมากกับช่วงเวลาที่ซึมเศร้าที่ดิ่ง พอเขาดิ่งเราก็ดูแลเขาเหมือนเป็นความสัมพันธ์ที่ตั้งแต่เด็กจนโตเราดูแลกันและกันมาเรื่อย ๆ รู้สึกว่าเวลาทำอะไร เราเป็นคนที่มีกลไกป้องกันตัวค่อนข้างสูง คิดหน้าคิดหลังเยอะ ถ้าวันนี้อาชีพนี้ไม่เวิร์คทำอะไรต่อ ถ้าอันนี้เฟลทำอะไรต่อ อีก 3 ปีทำอะไร เป็นคนแบบค่อนข้างคิดเยอะ โจทย์เดียวที่ทุกวันนี้คิดไม่ได้คิดแล้วต้องเอาออกไปจากความคิด เมื่อคุณแม่ไม่อยู่เราจะอยู่ต่อยังไง เป็นสิ่งเดียวที่ไม่สามารถก้าวผ่านแล้วก็ยังไม่พร้อมที่จะมานั่งทำความเข้าใจ นึกไม่ออกเลยว่าถ้าวันหนึ่งตื่นมาแล้วคนที่เป็นแม่เราเขาไม่อยู่แล้ว สุดท้ายแล้วชีวิตเราจะแปลว่ายังไง แล้วไปยังไงต่อ

เขื่อน ภัทรดนัย

 

จุดไหนที่รู้สึกว่าเราเป็นคนที่พยายามเพื่อคนอื่นจนละเลยตัวเอง

เขื่อน ภัทรดนัย : ตอนหย่า เขื่อนรู้สึกบ้านเขื่อนน่ะอบอุ่น คำว่าอบอุ่นเป็นเรื่องปัจเจก บางบ้านอบอุ่นโดยการไม่กอดกัน บางบ้านอบอุ่นในการบอกรักกัน ในการดูแลกัน คำว่าอบอุ่นไม่เหมือนกัน เขื่อนโตมาในบ้านที่ค่อนข้างเป็นพื้นที่ปลอดภัยกันและกัน ครอบครัวรับได้ไม่ว่าจะแต่งตัวยังไง เรารู้สึกว่าโลกเราสวยดี แต่พอเข้าวงการบันเทิงอายุ 13 ปี ได้เข้ากามิกาเซ่แล้วเป็นวง K-Otic พอออกเพลงแรก เราเข้าใจเลยว่าโลกไม่สวยคืออะไร คนคุกคามเราผ่านอินเทอร์เน็ต หน้าตาไม่เห็นดีเลย เป็นตุ๊ดหรือเปล่า ก็รู้สึกว่าเราโตมาแล้ว อยู่ที่บ้านเรารู้สึกว่าทุกอย่างมันปลอดภัย พออยู่ดี ๆ มาอยู่ในโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มาอยู่ในโลกความจริงว่าโลกเราไม่ได้เป็นสีชมพู ทำให้โตเร็ว เพราะว่ามีความเป็น LGBTQ เข้ามา พอเราเป็น LGBTQ ก็เหมือนโดนอีกกระทง

 

ตอนนั้นรู้ตัวตั้งแต่อายุเท่าไหร่

เขื่อน ภัทรดนัย : รู้ตั้งแต่เด็ก เราไม่เหมือนเพื่อน รู้สึกว่ามีบางอย่างที่แตกต่างไปจากคนอื่น รู้สึกว่าไม่ดีพอ ไม่ค่อยรักตัวเอง เราเป็นคนที่คอยดูแลผู้อื่น เอาปัจเจกภายนอกมาถมตัวเอง ต้องไม่เหนื่อย ต้องดูแลที่บ้าน ต้องรีบเรียน รีบแต่งงาน ต้องรีบทำทุกอย่างให้เสร็จ จนเราอายุ 27-28ปี หลอกตัวเองก็มีความสุขเพราะแบบทุกอย่างมันดีไปหมด จนมานั่งคุยกับตัวเองว่า เราทำไปเพื่อตัวเองหรือทำไปเพื่อคนที่บ้าน ซึ่งมารู้ตัวอีกทีว่าสุดท้ายแล้วคนที่เขาไม่ได้ชอบเรา สุดท้ายให้เราดีแค่ไหน เขาก็ไม่ชอบเราอยู่ ชีวิตที่เราพยายามทำมาเหมือนพังลง ที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำให้คนที่เขามาพิมพ์ว่าเราหรือไม่เข้าใจทำให้เรารู้สึกดีพอที่จะไปยืนข้างเขาได้ ก็เลยเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ประกอบร่างตัวเองขึ้นมาอีกที พอเราโตมามันจะมีคำว่าเกลียดมาเกลียดกลับ เราไม่รู้เราจะป้องกันตัวเองยังไง เป็นอีกสิ่งที่เคยมาเรียนรู้ตอนโตว่ามันคือกลไกป้องกันตัว เกลียดมาเกลียดกลับ เราบอกให้คนไม่ทำไม่ได้ เพราะถ้าเกิดมันทำได้มันทำไปแล้วสิ่งหนึ่งที่บอกได้เลยก็คือการเกลียดคนกลับมันเหนื่อย การที่เราเกลียดคนหนึ่งกลับนะมันใช้พลังงานเยอะมาก แทนที่จะมานั่งพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่น เอามาพัฒนาตัวเองให้ไปมีความสุขดีกว่า แล้วพอคิดได้ ใครไม่ชอบเขื่อนหรือใครไม่ชอบคนที่เขื่อนรักเฉย ๆ มาก เพราะรู้สึกว่าเราไม่รู้จักกัน

เขื่อน ภัทรดนัย

 

 

ความสัมพันธ์ในอดีตการแต่งงาน

เขื่อน ภัทรดนัย : อดีตสามี คนงงเยอะมาก สรุปแต่งงานแล้ว หย่าแล้วเหรอหรืออะไร เพราะว่าสุดท้ายแล้วมีแฟนกี่คน หน้าคล้ายกันหมด คนที่เคยแต่งงานด้วยคบกันประมาณ 3 ปีแล้วก็ตัดสินใจแบบแต่งงาน พอแต่งไปแล้วเราก็รู้สึกว่าดีอีกมุมหนึ่งอยากพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็นว่าเราดีพอ แต่พอแต่งแล้วเราเริ่มไม่รักตัวเอง เป็นตัวเองน้อยลง เราเอาความรู้สึกทุกอย่างมาก่อนยกเว้นตัวเอง แล้วให้ตัวเองเล็กลงเพื่อที่จะมีค่าพอที่จะอยู่ตรงนั้น จำได้ว่าวันที่บอกเลิกทุกอย่างมันฉุกละหุกมาก ไม่ใช่การทะเลาะกันแต่เหมือนเป็นไฟเย็น นิ่ง ๆ รู้สึกว่าคนนี้ที่เราแต่งงานด้วย ไม่ใช่คนที่เรา say  yes ด้วยที่เราเข้าพิธีแต่งงานด้วย ก็เลยบอกเขาว่าเลิกกันเถอะนะ ตอนนั้นสมองมันคิดเร็ว ถ้าเลิกกับแฟนเราต้องเอาอะไรออกจากบ้าน เพราะเราอยู่บ้านเช่าด้วยกันด้วยความแบบจริตกะเทย เราบอกว่าไอเลิกกับยูนะ หันไปหยิบมอยเจอไรเซอร์ 1 กระปุกไม่หยิบอย่างอื่นเลย แล้วก็เดินออกมา แล้วไม่เคยกลับไปบ้านอีกเลย กว่าจะเจอกันอีกก็ 4-6 เดือนที่กว่าเขาจะมาคุย แผลมันสะสมมาเรื่อย ๆ คือเด็กทั้งคู่แล้วกว่าจะมาตกตะกอนได้ ทั้งคู่ว่าวันนั้นเราน่าจะคุยกันอีกแบบหนึ่งหรือว่าอะไรผิดไปก็ผ่านมา 1ปีแล้ว เราไม่ได้อยู่บ้าน อยู่ที่อังกฤษ ไม่มีคนที่จะพักพิงได้ขนาดนั้น วันที่หย่าเพิ่งเริ่มเรียนปริญญาเอกแล้วก็เป็นนักจิตบำบัดฝึกหัดด้วยแล้วแผนกที่ต้องไปฝึกงานแผนกจากลา การสูญเสียคนรัก เพราะฉะนั้นคนไข้ที่เข้ามาคุยกับเราจะคุยเรื่องความรัก ตอนนั้นก็นั่งเกร็ง ชีวิตเราผ่านมาเยอะ แต่การหย่ากับสามี เพิ่งเคยเข้าใจว่าเราตื่นมาทุกวันแล้วมีคำถามตัวเองว่าฝันหรือเรื่องจริง ชีวิตที่มีความสุขขนาดนั้น ทำไมเราถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ โทรไปหาคุณแม่บอกว่าตัดสินใจแล้วว่าจะหย่า ปกติคุณแม่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น คุณแม่พูดคำเดียวว่ากลับบ้านลูก เหมือนเราสามารถกู้ทุกร่างที่แหลกของเราขึ้นมา รู้สึกว่าชีวิตเฮงซวย ชีวิตยากแต่มีคนที่รักเราอยู่ที่บ้าน ลุยต่อไปได้จนถึงวันนี้

 

ทุกวันนี้ยังมีเรื่องอะไรที่คาใจอยู่ไหม กับเรื่องที่เลิกกันในอดีต ถ้าย้อนกลับไปได้อยากถามอะไรตัวเอง

เขื่อน ภัทรดนัย : ไม่อยากถามเขา เพราะรู้สึกว่าในฐานะแฟน ในฐานะอดีตคนที่แต่งงานกัน เราทำหน้าที่สามีที่ดีที่สุดแล้ว แต่อยากกลับไปบอกตัวเองว่ารักคนอื่นรักได้ เป็นคนเชิดชูความรักมาก รักคนอื่นได้แต่ต้องไม่ลืมรักตัวเอง อยากกลับไปคุยกับตัวเองแล้วตบหลังว่าจะบ้าผู้ชายจะรักใครแต่อย่าลืมรักตัวเองด้วย ถ้าคนอื่นเขาให้ความรักเราได้ เขาก็เอาคืนไปได้เช่นกัน วันที่เขาไม่ได้อยากได้สิ่งที่เขาอยากได้ คล้าย ๆ เอาความรักที่เขาให้เราคืนไป แล้วเราก็จะพยายามหาอะไรไปแลกเพื่อได้ความรักนั้นคืนมา เรียกทฤษฎีนี้ว่า Self-love  30-70 ถ้าเราเป็นคนที่รักตัวเองได้แค่ 30% เราต้องหาอย่างอื่นมาถมให้รู้สึกเป็น 100% ต้องมีแฟน ต้องปังในโซเชียล แล้วจะรู้สึกคอมพลีท ถ้าเกิดเรารักตัวเองได้แบบ 100% หรือ 90% อะไรดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิตนะมันคือ กำไรล้วน ๆ

 

เรื่องรักที่บางคนเจอความรักที่เป็นแพทเทิร์นคนเดิม ๆ จะก้าวผ่านยังไง

เขื่อน ภัทรดนัย : เราชอบบอกว่าทำไมเราถึงดึงดูดแพทเทิร์นคนเดิม ๆ เราไม่ได้ดึงดูดเขา แต่วิ่งหาอะไรที่มาเติมเต็มเราที่รู้สึกว่ามาเป็นความรักให้เรารู้สึกคอมพลีทได้ ต้องมองมุมกลับ เราชอบโทษว่าแบบมีแต่คนแบบนี้เข้ามาหาเรา จริง ๆ คนเข้ามาหาหลายแบบแต่เราอาจจะเปิดประตูให้คนรูปแบบนี้

 

ความสัมพันธ์ที่ Healthy ในนิยามของเขื่อนคืออะไร

เขื่อน ภัทรดนัย :  ณ วันนี้ในวัยนี้คืออยากให้เขารักทุกพาร์ทของเขื่อน ไม่ใช่แค่ว่าชอบเราเพราะเห็นว่าทำงานเก่ง เขาต้องรักในมุมที่ไม่ดีของเรา รักทุกพาร์ทที่เป็นเรา

 

ตอนนี้ความรักที่มีอยู่เป็นแบบนี้หรือเปล่า

เขื่อน ภัทรดนัย :  แฮปปี้มาก พอหย่า พอมีแฟนแล้วจะกลายเป็นออกซิเจนน่ะ Hopeless  Romantic สุด ๆ เราเชิดชูมาก แต่กลายเป็นพอหย่ากับอดีตสามี เราทำงานกับตัวเองเยอะมาก กลายเป็นคนที่มีกำแพงสูงมาก ก่อนที่มาเจอแฟนคนปัจจุบัน ต่อให้มีคนที่ดีเข้ามาเราก็จะหาอะไรที่ไม่ดีจนเจอ เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่านสุดท้ายความรักมันก็ต้องไม่รอดอยู่ดี กลายเป็น 4 ปี ที่แบบกำแพงเราสูงมากเราปกป้องตัวเองจนกลายเป็นเราป้องกันตัวเองจากสิ่งดี ๆ ด้วยเราไม่ให้สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต จนมาเจอลุงแมทหรือแฟนปัจจุบัน ก็คือเข้ามาแบบงง ๆ ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ชื่อตั้มกับโดม คืนนั้นไม่อยากออกด้วยคิดในใจว่าอยากทำงานเหนื่อยอยากนอน ไหน ๆ ก็ออกมาแล้วเอ็นเตอร์เทนเพื่อนสาว เห็นเขายืนอยู่ เราไปชมเขาว่าตาสวย แล้วก็วิ่งหนีเขาไปอีกวันนึงก็ไปงานที่เชียงรายแล้วก็ผ่านวัดสีน้ำเงิน มีคนบอกว่าวัดนี้ศักดิ์สิทธิ์นะ ถ้าอยากขออะไรลองขอ เขื่อนเป็นผู้ที่ไม่เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ รู้สึกเฉย ๆ ก็พูดว่าถ้าเกิดแน่จริงก็ให้พี่เขามาจีบสิ พอหลังจากนั้นเขา dm มาไปกินข้าวกันไหม หลังจากวันนั้นที่ไปกินข้าวกัน ไม่เคยห่างกันอีกเลย ในอนาคตจะเป็นยังไงเราว่ากัน แต่ในวันนี้รู้สึกว่ามันดี รู้สึกว่าไม่ต้องพยายามมากกับความรัก

 

การที่เรามีความรักที่ไม่ดี มันส่งผลกับชีวิตเรายังไงบ้าง

เขื่อน ภัทรดนัย : สุด ๆ เรากินอะไรเราก็เป็นแบบนั้น อยู่กับใครก็เป็นคนแบบนั้น แล้วคนรักคืออยู่ใกล้กันเลย อยู่ข้างเรา ถ้าคนรักเราท็อกซิกแล้วเขาไม่ซัพพอร์ตเราก็จะรู้สึกตัวเล็ก เราก็จะกลายเป็นคนท็อกซิก แล้วก็จะเป็นคนที่เป็นแสงสว่างที่ค่อย ๆ มืดลงเรื่อย ๆ แต่ถ้าความรักมันดีแล้ว คนข้าง ๆ ซัพพอร์ต  จะตื่นมาแล้วอย่างน้อยก็มีคนนี้อยู่ข้าง ๆ เรา ชีวิตมันบวก มีความสุข

 

คนที่รู้ว่ามีแฟน Toxic แต่ออกมาไม่ได้ แนะนำเขายังไง

เขื่อน ภัทรดนัย : จะไม่บอกว่าให้เลิกเพราะถ้าเขาออกได้ ออกไปแล้ว คนที่มีแฟนท็อกซิก เขารู้ว่าแฟนเขาท็อกซิก แต่ตัวเขาออกไม่ได้ ก็จะอธิบายให้ฟังว่ากลไกของการมีแฟนท็อกซิกคืออะไร คนที่มีแฟนท็อกซิกเหมือนกับเราเสพติดอะไรบางอย่าง เพราะเวลาดีมันก็ดี มันดิ่งแบบติดลบ วันที่เขาดีกับเราเพราะเขาต้องการอะไรจากเรา เขาก็แค่พูดดีกับเราหน่อย ก็แค่ดูแลเราดีขึ้นมานิดหนึ่ง เราไปเสพติดเข้าใจว่าความรักที่ดีคือต้องขึ้นสุดลงสุดเลยออกไม่ได้ พอจะออกก็รู้สึกว่าแล้วถ้าออกไปจะมีคนให้เราได้แบบนี้อีกไหม คนที่เสพติดท็อกซิก พอไปนาน ๆ เราก็จะดึงดูดคนท็อกซิกเข้ามาเรื่อย ๆ พอเจอใครที่ Healthy จะรู้สึกว่าเขาไม่ได้รักเรา รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ทุกคนอยากถูกรัก อยากคู่ควรกับความรักดี ๆ แต่บางทีมันยังไม่โคจรมาให้เจอกัน เพราะฉะนั้นในวันที่เป็นคนที่ไม่ใช่ เราก็อย่าลืมรักตัวเอง

เขื่อน ภัทรดนัย

เขื่อน ภัทรดนัย

เขื่อน ภัทรดนัย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คลั่งรัก! “พิม พิมประภา” เที่ยวเกาะสมุย อวดความหวาน“ไฮโซแทม” จัดเต็ม จนน้องสาวต้องแซว

“เขื่อน ภัทรดนัย” เผยอดีตรักที่เจ็บปวดในการหย่าร้าง แนะคนมีแฟน Toxic ออกมาไม่ได้ต้องทำยังไง!?

หวานซึ้ง! “เนเน่” ร้องไห้ในอ้อมกอด “ไบร์ท” กำลังใจที่สำคัญจากแฟนหนุ่ม

“อินทนนท์” ประกาศโสดจริงๆไม่มีเรื่องมโนใดใด ลั่นไม่อยากถ่ายกับมือตัวเองแล้ว แต่ละคอมเมนต์สุดฮา

“พิกเล็ท-วิคเตอร์” ตัดสินใจลดสถานะจากแฟนเป็นแค่เพื่อน!

ลุ้นรักครั้งใหม่?! “ปั้นจั่น ปรมะ” เปิดตัวหวานใจ สาวสวยหน้าเก๋

จะรักหนูคนเดียว! “ไฮโซกี้” ควงคู่ “มินนี่” ดินเนอร์ในวันพิเศษครบรอบแฟนกัน 3 ปี 

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments