“อิงฟ้า – ชาล็อต” เคยโดนผู้ใหญ่เรียก เหตุไม่คุยกัน รับตอนนี้เข้าใจ รักกันดี
ออกมายอมรับก่อนหน้านี้เคยมีช่วงที่ทะเลาะถึงขั้นไม่มองหน้ากัน ทำบรรยากาศมาคุ ถูกผู้ใหญ่เรียกเคลียร์ต่อหน้า คู่จิ้นสุดฮอต “อิงฟ้า วราหะ” และ “ชาล็อต ออสติน” แต่ตอนนี้ทั้งคู่บอกเข้าใจกันมากขึ้น รักกันดีแล้ว จะใช้เวลาที่เหลือด้วยกันอย่างมืออาชีพ
อ่านข่าวต่อ : “อิงฟ้า – ชาล็อต” แฮปปี้แฟนมีตทัวร์ยุโรป ยิ้มแฟนๆ ให้การตอบรับดี รับอยากไปตีตลาดจีน
อิงฟ้า : “ก็จริง หมายถึงว่าอาจจะเป็นจุดขายที่ทำให้แฟนคลับเห็นถึงความเรียล อย่างเวลาปกติอยู่หน้ากล้องอาจจะต้องคุยกัน แต่บางทีถ้าสมมติมันมีจุดที่เรายังไม่พร้อมที่จะคุยก็ยังไม่คุย”
ชาล็อต : “พี่ๆ ก็เห็นว่าเราก็ตีกันหน้าสื่อไปเลย หนูว่ามันเป็นปกติของมนุษย์ผู้หญิงที่เราก็ไม่ได้โตมาด้วยกัน ไม่ได้ถูกซึมซับมาด้วยกัน เรามาจากการแข่งขันนางงาม มันก็จะมีบ้างที่ไม่ถูกใจ ลิ้นกับฟันตีกันบ้าง แต่สุดท้ายเราก็คุยกัน รักกัน ไม่ได้ถึงขั้นว่าฉันจะไม่ยุ่ง ทุกวันนี้ก็รักกันดี ก็มีการเคลียร์กันตลอด มีบ่อย”
อิงฟ้า : “ก็บ่อย ก่อนหน้านี้ก็บ่อย มีการคุยกันบ้างว่าจุดไหนที่ไม่เข้าใจ แต่หลังๆ ก็ต้องยอมรับว่าเวลามันกระชับมากขึ้นที่จะมีโอกาสทำงานด้วยกัน ได้อยู่ด้วยกัน เราก็ใช้เวลาที่เหลือให้เต็มที่กับสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมืออาชีพหรือการอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่พอใจเรื่องอะไรก็คุยกันเลย จะได้ไม่ต้องให้มีโมเมนต์ก่อนหน้านี้ที่เคยเกิดขึ้น ก็ได้คุยกันเยอะ”
ชาล็อต : “หนูว่าปรับจูนด้วยกันไม่ได้บ่อย แต่การทลายกำแพงของแต่ละคนที่มันทำไปเองโดยไม่รู้ตัว มันเลยได้อิงล็อตในเวอร์ชั่น 2025 ที่ทุกคนได้เห็นกันแบบนี้ มันก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป ตอนนี้หนูกล้าเล่นกับเขามากขึ้นโดยที่หนูไม่ห่วงว่าเขาจะรำคาญหรืออะไรเราไหม บางทีเราก็ไปเกาะแกะเขา ซึ่งเมื่อก่อนเราก็จะไม่กล้า อยากจะกอดก็ไม่กล้า กลัวว่าเขาจะหาว่าเราไม่ให้เกียรติไหม แต่ตอนนี้อยากกอดก็กอด เขาชอบไหมหนูไม่รู้ แต่มันคือสิ่งที่เราอยากทำ มันเหมือนพี่น้องกอดกัน”
อิงฟ้า : “ก็ชอบที่เขาโตขึ้น มีสติมากขึ้น ไม่คิดเยอะในการที่จะต้องทำอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งบางทีมันเกิดจากการคิดมาก คิดไปเอง ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเราอยากให้เขาเป็นเหมือนน้องๆ ทั่วไปที่เข้ามาเล่น เข้ามาคุยกันได้ ถ้าคิดเยอะเราจะเข้าไม่ถึงว่าคิดอะไรอยู่ บางทีเราอาจจะไม่ได้มีเวลามากที่จะมานั่งเคลียร์กัน บางทีคิวไม่ตรงกัน ก็อยากให้เขาไม่ต้องคิดเยอะและพอเขาเริ่มโตขึ้นก็จะเริ่มคิดได้เองว่าเวลาอยู่ด้วยกัน หรือเวลาอยู่ภาพรวมมันจะสดใสขึ้น หรือสนุกมากขึ้น ก็คิดว่าทุกคนก็น่าจะสัมผัสได้ตรงนี้ บอสอาจจะไม่ได้เรียกโดยตรง แต่จะเป็นทางกรรมการบริษัทที่เรียกเราเข้าไป หมายถึงมันเคยมีครั้งนึงที่ไม่มองหน้ากันเลย มาคุเลยล่ะ ก็ได้มีการเรียกเข้าไปว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร ก็เลยได้มีโอกาสพูดความคิดของแต่ละคน แชร์กัน พอผ่านตรงนั้นมันเหมือนต้องยอมลดกันคนละ 50-50 และรับฟังกันมากขึ้น แฟนคลับก็มีผล อย่างบางทีอาจจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่เราไม่อยากเข้าใกล้กัน”
ชาล็อต : “ส่วนตัวยอมรับเลยว่าเป็นคนคิดเยอะ กลัวว่าจะไม่พอใจ กลัวจะไม่ถูกใจ จนมันอาจจะทำให้บรรยากาศมาคุ ไม่น่าสนใจ แต่หลังๆ ก็เริ่มดีขึ้น แฟนคลับก็ยังอยู่ด้วยกันนี่แหละ ไม่มีล็อตก็มีอิง ไม่มีอิงก็มีล็อต ยังมีผลงานกันอยู่ ยังไม่ได้ไปไหน ชีวิตจริงมันดีแล้วอะไรแบบนี้ ก็จะแซวๆ เขาไป”