“วิว” ลั่นไม่ใช่คอนเทนต์ทำคลิปร้องไห้โปรโมทสินค้า รับเหนื่อยหมดไปหลานล้านแต่ไม่โตตามเป้า
ทำเอาแฟนๆ แห่เป็นห่วงนางเอกสาว “วิว วรรณรท” ที่ก่อนหน้านี้ออกมาโพสต์ระบายว่าเหนื่อย พร้อมกับลงคลิปปล่อยโฮ ถึงธุรกิจที่จะถูกถอดออกจาก 7-11 งานนี้มีโอกาสเจอตัวสาววิว เจ้าตัวก็เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
อ่านขา่วต่อ: เกิดอะไรขึ้น? “วิว วรรณรท” โพสต์ “เหนื่อย” แฟนๆรวมพลังส่งกำลังใจ
จริงๆ คือวิวทำธุรกิจมานานแล้ว ตอนนั้นเหมือนว่าเราก็ทำธุรกิจ พร้อมกับถ่ายละครไปด้วย จริงๆ แล้วมันเป็นปัญหาตั้งแต่ตอนโควิด ที่เครื่องสำอางมันขายได้น้อยลง เพราะว่าคนก็ไม่ได้แต่งหน้าเท่าไหร่ พอเผลอแป๊บเดียว มันก็คือเข้าปีที่ 7-8 ที่วิวขายเครื่องสำอางมา แล้วไลน์พวกเครื่องสำอางที่ขายในเซเว่นมันเยอะมากๆ ก็เข้าใจเลย ว่าคนไปก็อาจจะไม่ค่อยเห็นของเราอยู่แล้วแล้วตัวสินค้าของวิวเคยโดนถอดแล้ว เพราะว่าตอนโควิดขายไม่ดี ซึ่งเครื่องสำอางมันก็จะมีวันหมดอายุ ถ้าขายไม่ดี มันก็ต้องเอาออก ก็เหลือกองเป็นภูเขาเลยบางคนก็ถามว่าทำไมไม่เอามาขายต่อ
คือมันไม่สามารถ เพราะว่ามันหมดอายุ มันก็จะเสื่อมสภาพไป ตอนนี้ก็ยังอีก 3 ตัว ที่อยู่ในเซเว่นคือ ที่เขียนคิ้ว ลิป แล้วก็อายไลเนอร์ ส่วนมาสคาร่าเป็นตัวที่มีคนถามหาเยอะมากๆ เพราะว่ามันหายไป วิวก็เลยคิดกันว่า ลองทำใหม่อีกรอบไหม เขามีให้ทดลองขายภายใน 3 เดือน ถ้ามันไม่ดีอีก ก็จะขอถอดออก คือตอนนั้นวิวเล่าเป็นภาพคลิปให้ดู เพราะว่าตอนที่เกิดเรื่องต่างๆ เราไม่ได้ตั้งกล้องถ่ายไว้ เราก็เลยเหมือนเล่นละครสั้นให้ดู จริงๆ ปัญหาในตอนนั้น มันไม่ได้ร้องไห้แค่รอบเดียว มันคงแก้ปัญหาไป ทำไป
.jpg "วิว วรรณรท")
ตอนช่วงโควิด เราทำงานในวงการบันเทิงมาสักพัก มันก็มีเงินเก็บ เราก็ใช้เงินตรงนั้น ตอนนั้นก็กระทบ แต่ก็ยังมีตัวอื่นๆ ที่ยังขายอยู่ มันก็ยังไม่ได้สาหัสมาก แต่มันก็เรียกว่าเราเสียเงินไป แต่พอหลังจากโควิดเสร็จ งานมันก็น้อยลงด้วย งานในวงการต่าง ๆ มันก็กระทบลงไปด้วย แล้วเราหลังๆ มาก็ตามวัย บทต่างๆ ที่เลือกได้ มันก็ไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่จะเป็นนางเอกตลอด
ละครก็ทำน้อยลง เราดูบท ก็รับบทน้อยลง การหาเงินมันเลยต้องพุ่งไปที่ธุรกิจ ส่วนที่บอกว่าต้องดูแลคนในบ้าน 7 คน ก็รวมวิวด้วย ซึ่งบางทีก็ไม่ได้ออกมาบอก คือในที่นี้ไม่ได้เป็นภาระ เหมือนที่ทุกคนพูดว่าเป็น เดอะแบก คือไม่ใช่เลย แต่แค่บอกว่า สมมติถ้าเรามีแค่คุณพ่อคุณแม่ เราก็อาจจะสบายๆ ชิลๆ ทำธุรกิจมีผลกระทบ เราก็เลี้ยงดูตัวเอง แต่ตอนนี้ที่บ้านก็จะมีคุณพ่อ คุณแม่ คุณตา คุณยาย น้า น้องสาว ก็เรียกว่าเป็นผู้ใหญ่ซะเยอะ ก็ไม่ได้ทำงานอะไรกันแล้ว เราก็เป็นคนที่ทำงาน แล้วก็น้องสาวที่ทำงานอีกคน เพราะฉะนั้นค่าอยู่ค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ในแต่ละเดือนมันก็เยอะ รวมถึงค่าครองชีพ มันก็เลยเป็นสิ่งที่เราอยากจะดูแลให้ดี พร้อมยืนยันไม่ใช่คอนเทนต์โปรโมทสินค้า ด้านแฟนหนุ่มก็คอยช่วยซัพพอร์ต
