ทนายสาครชี้โทษ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน คุก 10ปี ปรับเป็นล้าน
จากกรณี พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4.บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม “นานา ไรบีนา” ตามหมายจับข้อหาฉ้อโกง และ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประขาชน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักย่านพระโขนง หลังมีกลุ่มผู้เสียหายหลายรายแจ้งความ กก.4.บก.ปอศ.ให้ดำเนินคดี
อ่านข่าวต่อ: ย้อนดู “ข้าวโพด สมิทธินันท์” เล่าหมดเปลือก“นานา”
(1).jpg)

สำหรับโทษในเคสดังกล่าว โดย “ทนาย สาคร ศิริชัย” เผยว่า “กรณีตามดาราชื่อดังที่เป็นข่าว หากเป็นกรณีการกู้ยืมเงินบุคคลอื่นโดยการโฆษณาหรือประกาศต่อประชาชนหรือกระทำการใดใดให้ปรากฏแก่บุคคลตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ว่าในการกู้ยืมเงินจะมีการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนหรือดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของสถาบันการเงิน หรือรู้อยู่แล้วว่าจะนำเงินกู้ยืมเงินจากผู้ให้กู้ยืมรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้ผู้ให้กู้ยืมรายอื่น”
“ โดยรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถประกอบกิจการโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนเพียงพอที่จะนำมาจ่ายในอัตราที่ตกลงกันนั้นได้ การกระทำดังกล่าวก็จะเป็นความผิดตามพระราชกำหนดกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2527 มาตรา 4 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปีและปรับตั้งแต่ 500,000 บาทถึงหนึ่งล้านบาทและปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาทตลอดเวลาที่ที่ยังฝ่าฝืนกฎหมายนั้นอยู่”

.jpg)
นอกจากนี้การกระทำดังกล่าวหากมีการหลอกลวงว่าจะเอาเงินไปลงทุนโดยไม่มีการลงทุนจริงๆ แล้วได้เงินไป ก็จะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปีไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากมีการฉ้อโกงเงินหลายครั้งก็จะเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระก็ถูกลงโทษเรียงตามจำนวนครั้งที่ฉ้อโกง และการกระทำเดียวกันอาจเป็นความผิดต่อกฎหมายและบทซึ่งศาลจะลงโทษบทที่หนักที่สุดในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นการกระทำความผิดจริง เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง”
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)










