“ฮาน่า” เชื่อสามีไม่ให้เพื่อนยืมเงิน อ้างเงินอยู่กับสามีหมด
ออกมาเปิดใจสำหรับสาว “ฮาน่า ทัศนาวลัย” หลังจับมือทำธุรกิจร่วมกับ “หนิง ปณิตา” ล่าสุดเจอตัวก็เผยสาเหตุที่ลงทุนทำธุรกิจด้วยกันว่า โชคดีที่ฮาน่าทำธุรกิจทุกอย่างที่ผ่านมายังไม่เคยเจ๊ง ขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไป เราดูแล้วว่าศักยภาพเราไปถึงไหม เราทำได้ไหมธุรกิจจะเกิดขึ้นไหม มีเป็นรูปเป็นร่างให้เห็นไหม คนชวนทำธุรกิจก็มีตลอด แต่ก็เลือก ปกติไม่อยากทำกับใครเลย อยากทำคนเดียว แต่กับหนิงเนี่ย เหมือนเราคุยกันถูกคอ เราก็รู้สึกว่าเรามาช่วยเขา เราเห็นเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เขาก็ต้องทำมาหากินเราก็มีเชฟด้วยที่คอยคิดสูตร คอยหาเมนูใหม่ๆ ธุรกิจอาหารถ้าเราไม่ได้เป็นแม่ครัวเอง เราต้องหาเชฟหรือแม่ครัวที่เขาทำได้ดีจริงๆ พาร์ตนี้ควรเป็นพาร์ตที่ควรมีพาร์ตเนอร์
อ่านข่าวต่อ: “ฮาน่า ทัศนาวลัย” โพสต์ร่ายยาว สั่งของหวังช่วยกลับโดนมิจฉาชีพโกง


ส่วนคนไม่อยากทำธุรกิจกับเพื่อน อันนี้จริง เห็นด้วยเลย เพราะถ้าความคิดเห็นไม่ตรงกัน ทะเลาะกันแน่นอน ฮาน่าถึงไม่อยากทำกับเพื่อน อันนี้เป็นรายได้เสริม เป็นค่าขนมให้ลูกเรา ให้ลูกชายเรา ลูกสาวเรา ให้น้องณิริน มองว่าอันนี้เป็นค่าขนม ไม่ได้เป็นกอบเป็นกำเยอะแยะมากมาย ทำเอาสนุก ทำให้มันมีรายได้ ให้รู้สึกว่าเรายังมีคุณค่าอยู่ ฮาน่าบอกตัวเองตลอดเวลาว่าห้ามหยุดทำงาน เราจะมีคุณค่าต่อเมื่อเรายังหาเงินทำงานได้อยู่ วันนึงอย่างที่บอกตราบใดแผ่นดินไม่กลบหน้าอย่ามั่นหน้าว่าสาจะรัก วันนี้สารักสาก็ให้ทุกอย่าง วันไหนสาไม่รักก็ต้องมีเงินของเราเอง กระเป๋าเราเอง หากินเอง จ่ายเอง ช้อปปิ้งเราก็ต้องซื้อของเราเอง เพราะสามีเขาประหยัดเหลือเกิน จะให้เงินสามีช้อปปิ้งก็กระไรอยู่
ฉะนั้นเราใช้เงินเราช้อปปิ้ง วิธีปฏิเสธคนชวนลงทุน ก็เอาสามีมาอ้างสิ เราจิตอ่อนอยู่แล้ว หน้าเราใครมาเราก็ให้เขายืมหมด เราก็อ้างเลยเงินอยู่กับสา เงินที่มีเราช้อปปิ้งหมดแล้ว ไม่เหลือเงินทำอะไรแล้ว ก็ได้ผลมาเรื่อยๆ อย่างบางคนขอยืม 3 หมื่น เราไม่อยากเสียเพื่อน เราให้ไปเลย 5 พัน ถ้ารักมากสนิทมาก อยากช่วย 5 พัน หมื่นนึงเอาไปเลย ไม่อยากทวง เพราะที่ผ่านมาขอยืมเงินไม่เคยได้คืนเลย


อันนี้คือตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงๆ นะ สิบปีผ่านมาจะใช้เทคนิคนี้ตลอด เพราะเชื่อว่าแต่ละเศรษฐกิจทุกคนมีปัญหา ทุกคนแย่ ถ้าเรามีความสนิทสนมมากพอ รักเขา อยากช่วยเขา อยากช่วยด้วยใจก็ให้ไปเลย แต่ให้ในจำนวนที่เราให้ได้ เงินไม่เข้าใครออกใครจริงๆเคยให้ยืมแล้วเหนื่อยทวง แล้วเขียนทวงก็ไม่ได้ผิดอีก ถือว่าเป็นการประจานอะไรก็ไม่รู้ เราก็เลยตัดปัญหา ไม่ให้ใครยืมนะ
.jpg)

กรุณาอย่ามายืม ยิ่งถ้าไม่สนิทกันไม่ต้องมาหานะสนิทกันยังให้ได้นิดๆ หน่อยๆ ดีใจเชื่อสามี ให้ยืมเงินเหมือนตัดเพื่อนออกจากชีวิต ถ้าวันนึงเขาไม่คืน เราก็รู้สึกไม่ดีต่อกันก็เหมือนเราตัดเพื่อนออกจากชีวิต เลยเอาสามีมาอ้างกับทุกคนเลย เวลายืมเงิน ให้ได้เท่าไหร่ก็ให้ไป มีคนชวนลงทุน แต่อย่างที่บอกจะอ้างเลยแฮริทซ์ ก็ทำคนเดียว รวยคนเดียว เจ็บคนเดียว ได้คนเดียว สุขคนเดียว ทุกข์คนเดียว จบ










