เปิดที่มาชุดราตรีของ “หมูแฮม โชตินภา” ปักและตัดเย็บด้วยมือมากกว่า 1,200 ชั่วโมง

เปิดที่มาชุดราตรีของ “หมูแฮม โชตินภา” ปักและตัดเย็บด้วยมือมากกว่า 1,200 ชั่วโมง

       โดดเด่นและสวยฉ่ำเวอร์สำหรับ “หมูแฮม โชตินภา” นางสาวไทยคนล่าสุดของไทยที่โชว์บนเวทีมิสคอสโม

อ่านข่าวต่อ: “หมูแฮม โชตินภา” สาวงามจากพระนครศรีอยุธยา คว้ามงกุฎนางสาวไทย 2568 คนที่ 56

โดยโซเชียลนางสาวไทยแชร์เรื่องราวที่มาของชุดราตรีสำหรับโชว์บนเวทีมิสคอสโมของ หมูแฮม ว่า “ชุดราตรีซีทรูปักมือทั้งชุดนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานศิลปะ The Birth of Venus โดยนำโครงสร้าง รูปทรง องค์ประกอบ และโทนสีจากภาพวาดมาตีความใหม่ในรูปแบบของงานออกแบบร่วมสมัย”

      “เส้นสายของชุดสะท้อนการเคลื่อนไหวของคลื่นทะเล ผสานกับงานปักมืออันประณีตที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะในยุคเรอเนซองส์ การไล่เฉดสีจากฟ้าน้ำทะเล สู่สีเงินนวล และตัดด้วยสีทอง ช่วยสร้างมิติของแสงและความระยิบระยับอย่างนุ่มนวล”

      “ซิลูเอตแบบซีทรูเผยความงามของเรือนร่างอย่างสง่างาม ถ่ายทอดความอ่อนโยนควบคู่กับพลังที่สงบนิ่ง ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบเพื่อเสริมการเคลื่อนไหว ทำให้ชุดดูโปร่งเบาและเปี่ยมเสน่ห์”

     ชุดนี้ใช้เวลาปักและตัดเย็บด้วยมือมากกว่า 1,200 ชั่วโมง ใช้วัสดุมากกว่า 30 รูปแบบ และ 5 เฉดสีหลัก ได้แก่ สีฟ้าเทอร์คอยส์ สีฟ้าเข้ม สีเงิน สีทอง และสีเหลืองอ่อน เพื่อสร้างมิติ ความลึก และความงามเหนือกาลเวลา

“เครื่องประดับไฟน์จิวเวลรีได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะในยุคเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด เครื่องประดับลวดลายดอกไม้ และงานแกะสลักเชิงประติมากรรม โดยเน้นโครงสร้างตัวเรือนชุบทองคำ 19K ที่ให้โทนสีทองอบอุ่นและสง่างาม ประดับด้วย เพชร CZ สีขาว และพลอยกรีนโทพาซ อัญมณีที่สื่อถึงพลัง ความสมดุล และความงามอันบริสุทธิ์”

เครื่องประดับถูกออกแบบให้มีทั้งแหวน ต่างหู กำไล และสนับมือ เพื่อเสริมให้ลุคโดยรวมดูสมบูรณ์แบบ สอดคล้องกับรายละเอียดของชุด และสะท้อนความประณีตของงานออกแบบในทุกมิติ

Inspired by The Birth of Venus, this sheer evening gown translates classical art into a contemporary couture expression. Drawing from the painting’s composition, silhouette, and symbolic details, the design reimagines feminine beauty through fluid form and light.

       The structure echoes the movement of ocean waves, while intricate hand embroidery reflects the ornate craftsmanship of Renaissance art. A soft gradient flows from oceanic turquoise blue into luminous silver, accented with gold, capturing the way light shimmers across water and skin.

       The sheer silhouette celebrates the natural form with elegance and restraint, balancing delicacy with quiet strength. Every detail is designed to enhance movement, creating a sense of weightlessness and refined sensuality.

       Crafted entirely by hand, the gown required over 1,200 hours of embroidery and tailoring. More than 30 materials were meticulously layered and embroidered in five tonal shades: turquoise blue, deep blue, silver, gold, and soft yellow, creating depth, dimension, and an ethereal glow.     

The accompanying fine jewelry collection is inspired by decorative arts from the same classical era, including floral motifs, carved ornaments, and sculptural detailing found in historical paintings and artifacts. Designed with gold-toned structures, each piece is adorned with white diamonds and green topaz, a gemstone symbolizing beauty, vitality, and inner strength.

       The jewelry set includes rings, earrings, bracelets, and hand adornments, completing the look with a refined and cohesive finish. Together, the gown and jewelry form a unified vision that brings art, craftsmanship, and femininity into perfect harmony.