ยังหวงก้าง!"เก๋ ชลลดา"เจ็บจี๊ด"หนึ่ง"ปรึกษาเรื่องสาว เหน็บผู้หญิงจีบผู้ชายได้ด้วยเหรอ

ยังหวงก้าง!"เก๋ ชลลดา"เจ็บจี๊ด"หนึ่ง"ปรึกษาเรื่องสาว เหน็บผู้หญิงจีบผู้ชายได้ด้วยเหรอ

1

      ระหว่างหนุ่มทายาท ค่ายหนังยักษ์ใหญ่สหมงคลฟิล์ม "หนึ่ง-อัครพล เตชะรัตนะประเสริฐ" กับ สาวสวยหุ่นดี "เก๋-ชลดา เมฆราตรี"  ที่ถึงแม้ว่าจะประกาศว่าลดความสัมพันธ์กลายเป็นเพื่อน  แต่ทั้งคู่ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยกันอยู่เสมอ แถมดูท่าทางฝ่ายชายจะยังทำใจที่ต้องเลิกรากับสาวเจ้าไม่ค่อยได้เพราะยังคงเห็นหนุ่มหนึ่งนั้น ตามตื้อตามขอคืนดีอยู่ทุกวี่ทุกวัน แต่ยังไงสาวเก๋ก็ยังมั่นคงขอลดความสัมพันธ์ไปอย่างนี้เรื่อยๆ จนกว่าฝ่ายชายนั้นจะปรับตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

     แต่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวสวยรวยเสน่ห์แถมยังโสดเพราะเลิกรากับแฟนหนุ่มสดๆ หมาดๆ เลยทำให้เหล่าบรรดาหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ยกขบวนพากันตามตื้อตามจีบ อยู่อย่างที่เรียกได้ว่าหัวกระไดบ้านสาวเก๋ไม่เคยได้แห้งกับเค้าเลย แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของหนุ่มหนึ่งจะหมดหวังเพราะมีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบสาวเก๋เยอะแยะเหลือเกิน ทำเอาหนุ่มเจ้าถอยทัพออกมาตั้งหลักยอมเปิดใจให้กับสาวนอกวงการซะแล้ว และดูเหมือนว่าคนนี้หนุ่มเจ้าท่าทางจะเอาจริง เพราะเห็นสาวเก๋เหน็บๆ มาเหมือนกันว่าตรงสเป็คหนุ่มหนึ่งทุกระเบียบนิ้ว แล้วที่แรงกว่านั้นคือสาวคนนี้ที่หนุ่มหนึ่งกำลังกิ๊กกั๊กศึกษาแอนด์คุยด้วยอยู่นั้น  หนุ่มเจ้าก็เอามาเล่าให้สาวเก๋ฟังทุกเรื่องเรียกได้ว่าจะให้เป็นที่ปรึกษาพิเศษกันเลยทีเดียว

มีภาพกอดคอกับหนึ่งหลุดออกมา
     "อย่าพูดว่าหลุดสิมันดูไม่ดีเลย คำว่าหลุดเนี๊ย"

จริงๆ แล้วมันเป็นภาพเมื่อไหร่ ยังไงคะ
     "จริงแล้วต้องบอกว่าภาพนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ช่วงคริสมาสต์ ถ้าใช่เล่มที่หมายความนะคะ ถ้าใช่เล่มที่เจ้าของงานนี้จัดนะคะ  ปลาย ปีที่แล้วค่ะ ที่วันนั้นไปอัดรายการแถวสยาม แล้วเข้าไปทานข้าวที่ห้าง พารากอน มีเพื่อนๆ มาหาแล้วหนึ่งก็แวะมา ก็เดินไปส่งหนึ่งที่รถแค่นั้นเองค่ะ เค้ามาทักทายที่ร้านแล้วก็เลยไปส่งที่รถ มันไม่ได้กอดคอนะคะ อย่าเข้าใจอย่างนั้น เหมือนโอบไหล่มากกว่า คือวันนั้นเราคุยเรื่องอะไรกันไม่รู้ ก็เป็นเรื่องเครียดเหมือนกัน พอดีหนึ่งเค้าเครียดเรื่องงานแล้วเค้าก็ปรึกษาเรา แล้วเราก็ปลอบเค้าประมาณว่าอย่าคิดมาก"

ก็คือภาพนั้นก็ถ่ายก่อนเลิกกัน
     "ใช่ ก็เป็นภาพก่อนที่จะลดสถานะเป็นเพื่อนกัน ก่อนที่จะลดระดับความสัมพันธ์"

แต่ก็มีคนเห็นว่าล่าสุดไปเดินห้างด้วยกัน

     "ไม่ได้ไปเดินห้างค่ะ คือถ้าล่าสุดจริงๆ เลยคือ เก๋ไปทำงาน เป็นงานพิธีกร งานโปโล แล้วก็หนึ่งเค้ารู้จักเจ้าของงานเหมือนเดิมเลยก็เป็นงานคิงพาวเวอร์ก็ไปงานของคุณวิชัย งานของคุณอา แล้วหนึ่งเค้ารู้จักกับน้องลักษณ์ซึ่งเป็นลูกสาวคุณอา ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียนอังกฤษมาด้วยกัน เค้าก็มางานโปโลเท่านั้นเองค่ะ แล้วเค้าก็แวะเข้ามาทัก เหมือนปกติ เอางี้จริงๆ นะคะ คือคนเราเป็นเพื่อนกัน รู้จักกัน ต่อให้ยังไงก็ต้องทักกัน การพูดคุยกันระหว่างยืนรอ ตอนนั้นเก๋ยืนรอการเป็นพิธีกรวันนั้นเก๋เป็นพิธีกรเป็นรายการสด หนึ่งเค้าก็มายืนคุยด้วย แล้วก็มีนักข่าวน้องๆ เค้าแซวว่า อุ้ย! มาด้วยกันเหรอ แต่จริงๆ แล้วเก๋มาทำงานแล้วหนึ่งเค้าก็มางานนั้นพอดี ทักทายธรรมดามากๆ เลย เรารู้จักกันเหมือนตามประสาเราเจอพี่ๆ น้องๆ เราก็ทักกัน"

พอภาพออกมาอย่างนี้ทุกคนก็เลยลุ้นว่าจะรีเทิร์นมั้ย
     "ก็อย่างที่เก๋บอกนะคะว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องของเวลา เรื่องเวลา เรื่องความรู้สึกของเราทั้งสองคนด้วย ถ้าต่างคนต่างยังไม่มีใคร ถ้าเรายังรู้สึกเหมือนเดิมกันได้ เรายังรู้สึกพิเศษเหมือนเคยรู้สึกต่อกันได้ อันนั้นเป็นเรื่องของอนาคต แต่ ณ วันนี้ บอกเลยว่าจริงๆ เก๋กับหนึ่งเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะคะ คือจะคอยเป็นกำลังใจให้ เป็นห่วงเป็นหูเป็นตาให้ คอยให้คำปรึกษาเพราะตอนนี้หนึ่งเค้าก็กำลังทำธุรกิจใหม่กับเพื่อนๆ ก็ช่วยเค้าค่ะ แค่นั้นเองจริงๆ เป็นเพื่อนค่ะ"

อย่างมาเจอกันมันมีแปล๊บๆ มั้ย จี๊ดๆ มั้ย เหมือนว่าคิดถึงเรื่องเดิมๆ
     "ไอ้แปล๊บหรือจี๊ดคงไม่มี เพราะอย่างที่บอกเราเป็นเพื่อนกันนานมาก รู้จักกับหนึ่งมาก็ 6 ปีแล้ว ไอ้แปล๊บกับจี๊ดอย่างนั้นมันความรู้สึกเจ็บจี๊ดนะคะ ก็ไม่มีนะ อย่างที่บอกค่ะ เรายังมีทุกวันนี้ด้วยกันเสมอ มันก็เลยไม่มีความรู้สึกแปล๊บหรือจี๊ด หรือรู้สึกเสียใจ แต่ถามว่ารู้สึกนึกถึง คิดถึงบ้างมั้ย ก็มีนะคะ  จริงๆ คุยกันก็มีคิดถึงก็มีบ้างคนเราเคยคุยกัน เคยคุ้นเคยกัน พอห่างกันไปก็มีคิดถึงแหละค่ะ เหมือนแบบเคยเจอกัน เคยมาที่นี่ด้วยกัน คิดถึงค่ะ เค้าก็มีแซวนะ อย่างงานโปโล เค้าก็บอกว่า เมื่อปีก่อนลงรถมาด้วยกันเนอะ แต่ปีนี้ต่างคนต่างมา หนึ่งเค้าก็แซวค่ะ หนึ่งเค้าก็แซวตัวเค้าเองแหละค่ะ"

อย่างนี้ต่างคนต่างเปิดโอกาสให้กับคนที่เข้ามามั้ย
     "คือตัวเก๋เองกับตัวหนึ่งเราก็ตกลงคุยกันนะคะ ว่าเปิดโอกาส เก๋เชื่อนะคะว่ามันก็ต้องมีคนผ่านเข้ามาผ่านไปผ่านมาในชีวิต อย่างตอนนั้นหนึ่งเค้ายังมาเล่าให้เก๋ฟังเลยว่าเค้าก็มีสาวเข้ามาคุยกับเค้าแล้วนะอะไรอย่างเนี๊ย ยังเอาบีบีมาอวดเลย ว่าดูสิ มีผู้หญิงมาจีบเค้าด้วย"

มีตะงิดๆ ในใจมั้ย
     "ก็ขำๆ ก็หัวเราะ เค้าก็บอกว่าเป็นรุ่นเพื่อนรุ่นพี่ในกลุ่ม เก๋ก็บอกว่าเนี๊ยคุยได้นะไม่เป็นไร เก๋ก็บอกว่าเป็นคนในวงการรึเปล่า เค้าก็บอกว่าไม่ใช่ เก๋ก็บอกไม่เป็นไร เค้าก็บอกว่าเนี๊ยอ่านเมสเซสนี่สิผู้หญิงเมสเซสมาตอนเที่ยงคืนนี่แปลว่าอะไร เก๋ก็ยังบอกเลยว่าจริงๆ หนึ่งไม่น่าถามเก๋เลยเนอะว่าเมสเซสมาตอนเที่ยงคืนแปลว่าอะไร แล้วก็มีแบบดูสิอันต่อมาเค้ามีส่งมาตอน 6 โมงเช้า เก๋ก็บอกเค้าตื่นเช้าดีเนอะ"

เหมือนเค้าจะทำให้เราหึงรึเปล่า
     "ต้องถามคุณหนึ่งนะ แต่ว่าตอนเล่านี่หนึ่ง เค้าไม่ได้ดูเจตนาไม่ดีนะคะ คือหนึ่งเค้าเป็นคนหน้าตาแสดงออกแววตาโกหกไม่เป็นอยู่แล้ว"

แล้วตัวเรารู้สึกมั้ย
     "ก็ไม่ ถามว่ารู้สึกมั้ย เก๋แค่รู้สึกว่าแบบ อ๋อประเทศไทยเราเป็นวัฒนธรรมตะวันตกเนอะ เก๋ก็แบบแค่นิดนึงเองว่าแบบผู้หญิงสามารถจีบผู้ชายได้  จริงๆ เก๋ไม่ได้ปิดกั้นนะ ไม่ได้ว่า ว่าเป็นเรื่องเสียหาย แต่ว่าประมาณว่าหนึ่งเค้ามาเล่ามากกว่าว่าแบบเนี๊ยไปเจอที่งานไปกับเพื่อนแล้วเค้าก็ขอเบอร์บีบีหนึ่ง แล้วก็เลยมองหน้าเค้าแบบอ๋อเหรอเดี๋ยวนี้ผู้หญิงเค้าขอเบอร์บีบีผู้ชายแบบว่าบีบีมาหา ก็แซวเค้า แค่นั้นเองเลย จริงๆ"

อย่างนี้เก๋เคยเจอผู้หญิงคนนั้นรึยัง
     "ไม่เคยเจอเลยค่ะ ไม่รู้จัก คือหนึ่งก็อธิบาย รูปพรรณ สันฐาน หน้าตาเป็นอย่างนี้ เก๋ก็บอกจริงๆ เหรอ เอ้าก็เป็นสเป็คเลยสิอย่างเนี๊ย คือหนึ่งเค้าเป็นคนที่ชอบผู้หญิงน่ารัก คือต้องบอกจริงๆ ว่าเก๋เนี๊ยไม่ใช่สเป็คเค้า อันนี้หนึ่งเค้าบอกนะคะ คือหนึ่งเค้าชอบคนน่ารัก ผู้หญิงน่ารักเนี๊ยดูนานๆ แล้วจะได้ไม่ต้องกังวลใจ เค้าว่านะ คือผู้หญิงสวยๆ เนี๊ยอยู่ด้วยแล้วลำบาก จะต้องเหนื่อย เก๋ก็เลยบอก แสดงว่าเก๋อยู่ด้วยแล้วเหนื่อย ก็อย่างเนี๊ยแหละ แต่ก่อนก็ไม่เนอะแต่ว่าเดี๋ยวนี้อยู่ด้วยแล้วเหนื่อย อยู่กับคนสวยแล้วจะเหนื่อย อยู่กับผู้หญิงน่ารักแล้วไม่ต้องลำบาก"

ไม่เคืองใช่มั้ยที่เค้าพูดแบบนั้น
     "ไม่ ก็หัวเราะ ก็มองหน้าว่าอ๋อเหรอ ก็รับทราบน่ะค่ะ แล้วเค้าก็เอาเมสเซสมาให้ดู เอารูปมาให้ดู"

ดูเค้ากับผู้หญิงคนนี้น่าจะแบบลงเอยกันได้มั้ย

     "เก๋ก็ถามนะว่าแบบ พาไปเจอที่บ้านรึยัง เค้าก็บอกว่าอ๋อยังๆ คือแบบเค้าเพิ่งเริ่มโทรมาหา คือมันกลับกันน่ะค่ะ ก็เลยแบบก็ฟังก็เลยคิดว่าเป็นเรื่องน่ารัก สนุกๆก็ดีใจนะ ขอบคุณมากอุตส่าห์มาเล่าให้ฟัง ยังบอกเค้าเลยว่าจริงๆแล้วไม่ต้องมาเล่าให้เก๋ฟังก็ได้ เค้าบอกว่าไม่อยากให้เก๋ได้ยินจากคนอื่นเดี๋ยวเก๋จะรู้สึกไม่ดี เก๋ก็บอกไม่เป็นไรเลย ไม่ต้องเกรงใจ (เหน็บๆ)"

เหมือนเคืองๆ เล็กๆ นะเนี๊ย
     "ไม่ๆ คือวันนั้นแค่ขำเฉยๆ ว่าแบบ นึกถึงหน้าตอนที่เค้ามาอวด เรากำลังจะขึ้นเป็นพิธีกรกับพีเค เรากำลังท่องสคริปท์อยู่เป็นรายการสด ออกช่องทรูสปอร์ตเป็นรายการสด อยู่ๆ หนึ่งก็สะกิดๆ แล้วก็เอาโทรศัพท์ให้ดูแล้วเราก็งง ว่าให้อ่านอะไร คือข้อความบีบีมันจะติดกัน เก๋ก็แบบอะไรเหรอ เค้าก็บอกเนี๊ยผู้หญิงเมสเซสมาตอนเที่ยงคืนเค้าคิดอะไรใช่มั้ย"

สมมุติว่าเค้ามีใครใหม่เราโอเคมั้ย
     "จริงๆ เก๋ว่าหนึ่งเป็นคนฉลาด เก๋ว่าเค้าต้องเลือกผู้หญิงที่ดีแล้วก็เหมาะกับชีวิตของเค้าแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอนาคตก็ต้องเป็นเรื่องของเค้าสองคนแล้วว่าจะเป็นยังไง คือเราก็ได้แต่รับฟังเนอะ ไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจหรอก เพราะว่าของบางอย่าง คนบางคนดีกับเราแต่ไม่ดีกับคนอื่น บางคนดีกับคนอื่นทุกคนเลยแต่ไม่ดีกับเรา เพราะฉะนั้นเนี๊ยเค้าจะยังไงก็ตามถ้าเค้าดีกับหนึ่ง เก๋ก็ดีใจด้วยนะคะ ไม่รู้สึกอะไรเลย"

ถ้าเค้าจะมาปรึกษาอีกพี่เก๋โอเคมั้ย
     "คงงงๆ แล้วแหละเพราะว่าวันนั้นเค้าแซวมาก่อน ว่าที่ผ่านมาเค้าโทรมาชวนเก๋ทานข้าว แต่เก๋ไม่ได้ไปด้วย เก๋ไปนั่งปฏิบัติธรรม ไปนั่งสมาธิ วันคริสมาสต์ซะงั้น เค้าบอกว่าไปเข้าวัดซะงั้น แสดงว่าถ้าวาเลนไทน์ปีนี้ คือเค้าก็พูดขึ้นมา เก๋ก็เลยบอกว่า เอางี้แล้วกันก็ถ้าจะไปทานข้าวก็ไปทานไม่เป็นไรไม่ต้องบอกเลย เค้าบอก คงยังหรอก คงยัง ไปกินเป็นกลุ่มๆ ก่อน เก๋ก็เลยบอกว่า จริงๆถ้ าบอกล่วงหน้าขนาดนี้ก็เออ...นะ ก็ถือว่าก็ยังดีเค้าก็มาบอก เค้าบอกว่าจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิด ไม่เป็นไร เก๋ยังพูดกับเค้าเลยว่าต่อให้เป็นคนในวงการเก๋ก็ไม่ว่านะคะ เค้าก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัด มองหน้ากับใครไม่ติด มีบอกว่าเดี๋ยวถ้าเป็นคนในวงการเก๋จะรู้สึกลำบากใจ"

อย่างล่าสุดที่มีภาพหลุดพี่หนึ่งกับสาวออกมานี่ใช่มั้ย
     "อ๋อ "โอซา" ไม่ใช่ค่ะ โอซาเนี๊ยเป็นเพื่อนมากๆ โอซาเนี๊ยเค้าเป็นนักแสดงในสังกัดหนึ่งด้วย "โอซา แวง" ไม่ใช่เลย เป็นเพื่อนหนึ่ง แล้วรู้จักกันนานมากๆ แล้ว แล้วตัวเก๋เองก็รู้จักโอซาตั้งแต่ที่เค้าเล่น สวยลากไส้ แล้ว เก๋ยังเอาดอกไม้ไปยินดีด้วยเลย ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่ จะเป็นคนอื่นรึเปล่าอันนี้ต้องให้พี่ๆสื่อมวลชนคอยดูแล้วแหละ"

งั้นต้องถามถึงหนุ่มที่เคยมีข่าวว่าไปดินเนอร์บนเรือยอร์ทในแม่น้ำเจ้าพระยาหน่อย
     "สรุปเลยเรื่องข่าวเนี๊ย ไม่จริงมากๆ อันนี้ไม่จริงเลย คืออย่างที่บอก วันคริสมาสต์เก๋อยู่ที่วัด เก๋ไปนั่งสมาธิ 24-25-26 เนี๊ย อยู่ในวัด นั่งปฏิบัติธรรม เพราะฉะนั้นไม่มีทางไปล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาแน่นอน แล้วแบบนั่งเรือยอร์ทในแม่น้ำเจ้าพระยาเนี๊ยเป็นไปไม่ได้แน่นอน นี่ประเทศไทยนะคะแม่น้ำไม่ลึกขนาดเอาเรือยอร์ทเข้ามาได้"

แล้วหนุ่มคนนั้นมีตัวตนมั้ยเพราะเห็นว่ามีตามจีบอยู่
     "คนที่เข้ามาคุยกับเก๋มีนะคะ แต่ว่าหนุ่มที่เป็นเจ้าของกิจการเรือยอร์ทไม่มีตัวตน หรือไม่มีคนไหนขายเรือมาจีบเก๋เลย ไม่มีผู้ชายยิงเรือมาจีบเลย แล้วก็ไม่ได้ไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนวันคริสมาสต์ ไม่มี ไม่มีดินเนอร์กับหนุ่มคนนั้นเลย แต่มีเข้ามาคุยมั้ย มีนะ แต่ยังไม่ได้เริ่มเลย เดี๋ยวรอดูท่าทีลาดราวคุณหนึ่งก่อนแล้วกันนะ ให้เค้าล่วงหน้าไปก่อน"     ♦

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments