"ออย ศรุตา"ปลื้มรีเทิร์นวงการประเดิม"ผู้หญิง5บาป2" เมินโดนเซ็นเซอร์ยันไม่หวือเหมือนภาคเดิม

"ออย ศรุตา"ปลื้มรีเทิร์นวงการประเดิม"ผู้หญิง5บาป2" เมินโดนเซ็นเซอร์ยันไม่หวือเหมือนภาคเดิม

1

     กับสาว "ออย-ศรุตา เรืองวิริยะ" ที่ห่างหายจากวงการไปถึง 1 ปีครึ่ง และพอกล้บมาก็มาพร้อมความเซ็กซี่ทำเอาทุกคนถึงกับจ้องแล้วจ้องอีกว่าใช่หรือเปล่า เพราะชีหน้าเปลี่ยนไปซะขนาดนี้ แต่สาวเจ้าก็ยังไม่หวั่น ไม่แคร์คำด่าว่ากับการทำศัลยกรรมของเธอ แถมปลาบปลื้มใจด้วยซ้ำที่ตอนนี้ตนเองได้รับเลือกให้เล่นภาพยนตร์เรื่องใหญ่ที่กลับมาคราวนี้ต้องเพิ่มภาคเป็นภาคที่ 2  คือเรื่อง "ผู้หญิง5บาป2" แต่สาวออยก็ยืนยันว่ารับรองได้ว่าภาคนี้ไม่มีเซ็นเซอร์แน่นอน ส่วนเรื่องที่สาวเจ้าหายไปไหนนั้นชีก็ได้ให้คำตอบว่าที่หายไปก็เพราะกลับไปตั้งใจเรียนให้จบ เพราะไม่อยากอายเพื่อนและตอนนี้อีก 1 ปีตนก็จะ
สำเร็จกาจศึกษาในระดับปริญญาตรีแล้ว

ด้วยความที่พักหลังๆนี้หน้าเราเปลี่ยนคนก็เลยเม้าท์ไปต่างๆนาๆ รู้สึกยังไงบ้าง
     "ก็ถ้าคอมเม้นว่าสวยขึ้นก็ดีใจนะ ก็คนเราก็ต้องมีอะไรปรับเปลี่ยนอะไรกันบ้างแบบว่าด้วยตามแฟชั่นหรือตามกระแส ก็เราก็ควรดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมด้วย เพราะทำงานมานาน ด้วยอายุ ต้องเสริมเติมแต่งบ้างแหละ อาจจะมีการเข้าสปาบ่อยขึ้น หรืออาจจะมีการบำรุงอะไรมากขึ้น ก็คือเราอยู่วงการมา 15ปี แล้วนะก็คิดว่ามันก็ไม่แปลก แต่คนบางคนอาจจะไม่ถูกใจเค้า หรือบางคนก็ว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ก็คือแบบพูดให้เราเสียเซลฟ์น่ะ เราก็แบบเฮ้ยมันขนาดนั้นเลยเหรอ ก็จะพยายามถามคนข้างๆว่ามันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ"

แสดงว่ามันก็ทำให้เรารู้สึกบ้างแหละ
     "มันรู้สึกอยู่แล้วค่ะ คือเหมือนมีคนมาว่าเราไม่สวย มีบางครั้งเราถ่ายแบบก็ประมาณว่าทำไมหน้าเปลี่ยนไปเลย จำไม่ได้เลย อันเก่าดีกว่านะ เราก็เข้าใจว่ามันก็เลยแต่คนจะมองยังไง ถามว่าคิดมัย้มันก็มีคิดบ้างแหละ"

เสียความมั่นใจไปเลยมั้ย
     "นิดนึงแต่ว่าก็เชื่อคนข้างๆ มากกว่า คนข้างๆ ที่มองเราว่าเป็นยังไง มันไม่ได้แบบแย่ถึงขนาดแบบทำงานไม่ได้หรือว่าเค้าเลิกจ้างแล้ว"

ด้วยความที่เราอยู่ในวงการมานาน 15ปี ก็เลยอาจจะมีคนเห็นการเปลี่ยนแปลงเยอะรึเปล่า
     "อาจจะมีส่วน อย่างออยเนียเป็นคนที่แบบอ้วนง่ายผอมง่าย ตอนนี้คือออยลดน้ำหนักคือเอาผอมเลย ถ้าจำได้นะ ประมาณปีที่แล้วมาออกงานเหมือนกับไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ เพราะเรียนหนังสือก็จะกินเยอะไง แล้วมันก็จะอ้วนก็จะอวบ ก็ตอนนี้คือทำงานถ่ายหนังอยู่ ก็ต้องเฟิร์มร่างกาย คือมันค่อนข้างต้องโชว์สัดส่วน ออยก็แบบเพื่องานเราก็ต้องอดทน"

ตอนนี้ลดไปกี่โลแล้ว
       "จากเดิมมาก็น่าจะประมาณ 5 โลได้นะ ตอนนี้ประมาณ45"

พอใจรึยัง
     "ยังค่ะ ขอผอมอีกนิดนึง เพราะว่าหนังเนี๊ยมันค่อนข้างโคลสอัพมาก คือคิดว่ามันเป็นหนังเรื่องแรกในชีวิต แล้วก็อยากทำออกมาให้ดีที่สุด อยากให้มันสวยและก็สมบูรณ์แบบในเรื่องหุ่นรูปร่างเราด้วย เหมือนแผลเป็นอะไรอย่างเนี๊ย ออยก็ไปเลเซอร์ตลอดเลยนะ ยอมรับว่าใช้พวกเลเซอร์ของคลีนิค เพราะว่าออยก็เป็นไม่เชิงพรีเซ็นเตอร์แต่เป็นที่ออยไปรักษาประจำ คืออยเป็นคนล้มง่าย มันก็เป็นรอย ก็เลยต้องกำกับหมอเลยว่าต้องดูแล แล้วก็เลยต้องไปเลเซอร์บ้างค่ะ"

หมดไปเยอะมั้ยกับเรื่องความสวยงาน
     "ก็เยอะนะ มันก็ไม่ถึงกับขนหน้าแข้งร่วง แต่ว่าคือทุกอย่างมันต้องมีการลงทุนแล้วจะได้รับผลตอบกลับมา"

แล้วถ่ายเซ็กซี่ปีนี้มีติดต่อมาบ้างรึยัง
     "อาจจะยัง เพราะเพิ่งลดเองอาจจะยังไม่เห็นความชัดเจนเท่าไหร่ ก็น่าจะสักพักก็น่าจะมีแล้ว ก็มีติดต่อมาเหมือนกันแต่ว่ายังไม่พร้อม รู้สึกว่าตัวเองยังไม่เฟิร์ม อย่างถ่ายแบบที่ผ่านมาก็โดนด่าว่าอ้วน เพราะว่ามันอ้วนจริงๆ เราก็ยอมรับเพราะว่าติดต่อมาปุ๊บก็ถ่ายเลย ไม่มีเวลาเตรียมตัวเลยไม่ว่าจะเป็น FHM หรือ Zoo คือประมาณว่าอีก 5 นาทีถ่ายนะแล้วแบบรีทัสก็ไม่ได้เนียนขนาดของจริงไง เนื้อก็จะปลิ้นไปหมดแล้วแบบดูแล้วอายตัวเองน่ะ นึกออกมั้ยคือคนดูมันทั้งประเทศน่ะ แล้วคือรู้สึกว่าเราขายบอดี้แล้วคนคาดหวังที่จะเห็นแล้วแบบผิดหวังแล้วเราก็อายก็เสียเซลฟ์น่ะ ก็เลยคิดว่าเราต้องพร้อมก่อน ถ้าเราคุณภาพดีออยก็เชื่อว่าคนก็ต้องจ้างเรา"

แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมแก้ตัวถ่ายให้แฟนๆ ได้เห็น
     "ก็รอหนังจบเนี๊ยค่ะ แล้วก็เรียนหนักมาก ถ่ายหนักมาก คือที่บอกว่าหายไปเรียนน่ะ คือคนเรียนหนังสือก็น่าจะรู้ว่าทำงานด้วยไม่ได้จริงๆ แต่คนอื่นที่เค้าทำได้เนี๊ยเรายอมรับไง แล้วเนี๊ยมีสอบอีกวันนี้ก็เลือกที่จะมาทำงานก่อน คือแบบด้วยอายุด้วยว่าอยากจะจบปริญญาตรีเร็วๆ ถ้าจบก็จะเชิญพี่ๆ ด้วยนะอีกปีนึง ก็อยากจะทำให้พ่อให้แม่ด้วย เรื่องอาชีพที่ตนเองประสบความสำเร็จมันก็เป็นอีกจุดหนึ่งแต่เรื่องการศึกษาสำหรับออยมันสำคัญมาก เพราะว่าเรามองถึงอนาคตของลูก คือว่าไม่ใช่ว่าแม่ไม่มีความรู้นะ คือเราต้องครบไงต้องสวยแล้วก็มีการศึกษา เพราะเดี๋ยวถ้าจบตรีปุ๊บก็กะว่าจะต่อโทเลย"

รู้สึกเสียดายมั้ยเพราะว่าตอนนี้ที่เราเข้ามามันก็ประจวบเหมาะกับเราต้องเร่งเรียนด้วย
     "ก็เนี๊ยก็เลือกไปแล้วไง คือออยเข้าวงการตั้งแต่เด็กๆ คือตอนนั้นเรียนอยู่ปี 1เพิ่งจบ ม.6 ก็ไม่เรียนหนังสือเลย คือเรียนแหละแต่ว่าไม่จบ ต้องดร็อบไป ก็เนี๊ยเลือกทำงานมาก่อนแล้วไง 10 กว่าปีที่ผ่านมา แล้วพอตอนนี้เพื่อนทุกคนจบโทหมดแล้ว คือมันเป็นการเข้าสังคมของออยอีกสังคมคือเพื่อนที่แบบจบโทแล้ว แต่ฉันยังไม่จบตรีเลยแต่ฉันมีประสบการณ์มากกว่าพวกคุณ คือเราก็อยากให้มันดูเท่าเทียมกันทั้งเรื่องประสบการณ์ทั้งเรื่องวุฒิด้วย ก็เลยขอเบรกไปเรียนหนังสือแล้วก็ตอนนี้ก็กลับมาเหมือนเดิม เพราะว่าอีกปีนึงแล้ว เรียนมาปีครึ่งแล้วไงก็ห่างหายจากวงการแค่ปีครึ่งเองนะ แต่ด้วยความที่คนมันมาเยอะไงมันก็เลยเหมือนกับว่าทำให้ลืมๆ กันไป บางคนก็ทักออยผิดนะ เป็นนานาอะไรอย่างเนี๊ย ก็แบบที่ด้วยความที่คนเค้าลืมเราไปแล้ว เหมือนว่านานาเค้าอยู่ในกระแสอยู่แล้วเราเฟตไปแล้วพอมาเจอเราก็ทักเราเป็นคนอื่น"

กลัวคนลืมไปเลยมั้ย
     "กลัวมั้ย ก็กลัวเหมือนกันนะ เพราะว่าพี่ๆ นักข่าวหลายๆ คนก็จำไม่ได้ เหมือนวันนั้นไปงานทีวีพูล ไม่มีใครถ่ายรูปออยเลย เพราะเค้าจำไม่ได้ เหมือนแบบทุกคนเฉยๆ เราก็คิดว่าเฮ้ยมันขนาดนั้นเลยเหรอ คือเค้าจำไม่ได้ แต่พอเค้าก็เริ่มๆ นึกก็โอเค"

เรียนรัฐศาสตร์อย่างนี้จบมาแล้วจะพลิกผันตัวเองมั้ย
     "ก็ไม่แน่นะ ถ้ามันได้อาจจะผันอะไรไปบ้าง แบบอาจจะถึงจุด ๆนึง อาจจะแบบเป็นเหมือนพี่แบมรึเปล่า เป็นส.ส. แต่ก็ไม่ได้ชอบนะ แต่คิดว่าโอกาส ถ้ามีคนชักจูงหรืออะไร ก็ไม่ปฏิเสธโอกาสดีๆ แต่ก็ไม่ได้เร่งรีบหรือไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นนะ เชื่อว่าถ้าได้เป็นมันก็ได้เป็นแหละ"

ถ้าให้เลือกงานทางด้านบันเทิงกับสิ่งที่ตัวเองเรียนมาจะเลือกอะไร
     "คงเลือกสิ่งที่เราเป็นอยู่ ก็คือนักแสดงก่อน แต่ที่เรียนมาอาจจะเป็นอาชีพเสริม เพราะว่าออยเชื่อว่าเราอยู่ตรงนี้มันให้อะไรเราเยอะ เพราะฉะนั้นต่อไปมันก็คือการต่อยอดแล้วแต่ว่ายังไงคงไม่ทิ้งงานแสดงแน่นอน ถ้ายังมีคนจ้างอยู่นะ"

เสียใจมั้ยกลับมาครั้งนี้งานเราน้อยลง
     "คือเล่นละครมาเยอะแล้วค่ะ เล่นละครมาหลายปีแล้ว ก็ที่ตัดสินใจรับหนังเรื่องนี้เพราะว่าไม่เคยเล่น เวลาอยู่วงการมานานแล้วมันเหมือนอยากทำอะไรที่เราไม่เคยทำ อย่างหนังถือว่าเป็นอย่างแรกในชีวิตเลยที่อยากจะทำ เพราะว่ารู้สึกว่าอยากให้คนซื้อเข้าไปดูเรา ดูกับผลงานของเรา ไม่ใช่เปิดทีวีแล้วดู มันก็เลยต่างกันตรงนี้ ก็เลยมีความรู้สึกว่ามันดูมีอะไรมากกว่า แล้วกลับมามันเหมือนต้องเคาะสนิมสุดๆน่ะ ปีครึ่งที่ไม่ได้เล่นละครแล้วก็หนังนี่คือถือว่าโหดมาก ออยต้องทำการบ้านเยอะมาก เพราะแบบจอใหญ่ขนาดนี้ กับละครแค่จอเล็กๆ เหมือน 10 กว่าปีที่ผ่านมามันก็เป็นเหมือนอย่างนึ่ง ที่จะบอกว่าออยมีคุณภาพมั้ย ซึ่งพี่ๆ จะเชื่อมั้ยว่าออยเล่นแล้วเป็นตัวนั้นจริงๆ คนประชาชนทั้งประเทศจะตัดมั้ยว่าออยทำได้จริงๆ ที่ไม่ได้สวยเซ็กซี่ไปวันๆ แล้วหนังเนียเป็นอะไรที่ต้องทำการบ้านเยอะมาก ไดอะล็อกต้องเป๊ะ ต้องเก็บรายละเอียดด้วยกล้องมันกล้องเดียว เหนื่อยมากถ่ายมาแล้ว 2 คิว"

บทมันแรงมั้ย
      "ไม่ คือในเรื่องเนี๊ย พูดถึงอาชีพ 5 อาชีพในวงการบันเทิงแต่ขอไม่ตอบว่าเป็นอาชีพอะไร ออยก็เป็นหนึ่งในอาชีพหนึ่ง อาจจะเป็นอาชีพของพวกพี่ก็ได้ หรืออาจจะเป็นอาชีพใครก็ได้ ออยก็เป็นหนึ่งในอาชีพ 5 อาชีพนี้ แล้วสื่อเป็นการสื่อให้เห็นเรื่องจริง เหมือนแฉ คือผู้หญิง 5 บาป ภาค2 มีการแฉให้รู้ว่ากว่าคุณจะได้ขึ้นมาเนี๊ย ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ผ่านขั้นตอนหรือว่าผ่านการขอสปอนเซอร์ หรือว่าการที่เราจะเป็นซุปเปอร์สตาร์เนี๊ย เหมือนผู้กำกับเค้าต้องการสื่อให้เห็นว่าเบื้องหลังของอาชีพพวกนี้ที่ทุกคนอยากจะเป็นเนี๊ย กว่าที่เค้าจะมายืนได้เนี๊ยต้องแลกกับอะไนบ้าง แล้วมันก็มีบาปเข้ามาเกี่ยวข้อง บางครั้งที่เราทำทุกอย่างในโลกนี้มันก็จะพูดถึงบาป คือตอนนี้คุณทำคุณไม่คิดว่ามันเป็นบาปแต่นั่นแหละคือบาปที่สุดที่ทำให้พวกคุณต้องตกมาอยู่ในสภาพแบบนี้"

งั้นก็ออกแนวเซ็กซี่อีกแล้ว
     "เซ็กซี่ด้วยเรื่องของแอ็กติ้ง อาจจะแบบว่าออยเน๊ยน้อยสุด ก็มีเลิฟซีน แต่เลิฟซีนของออยเป็นแบบติดตลกฮาๆ คือเหมือนภาคแรกมันแรง ออยรู้ว่ามันแรงมาก แต่นี่คือ 7 ปีที่แล้วพอเอามาเวอร์ชั่นใหม่เนี๊ยมันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เราถ่ายไปเรารู้ ผู้กำกับ
น่ารักมากคือ เค้าจะให้ดูสตอรี่บอร์ดก่อนถ่ายด้วย แล้วก็ถามเราก่อนว่าอบบนี้ได้มั้ยไม่ได้ก็ไม่เป็นไรก็ใช้สแตรนอิน คือออยไม่จำเป็นต้องเปลืองตัวขนาดนั้นน่ะ อาจจะมีแบบใส่ชุดเซ็กซี่บ้าง เพราะด้วยหนังแล้วมันต้องเป็นอย่างนั้น มันเป็นเรื่องของเสื้อผ้ามากกว่า"

แค่ชื่อเรื่องก็แรงแล้วถ้าหนังออกมาแล้งกระแสมันออกมาแรงโดนคนวิจารณ์จะทำให้ยอมรับได้มั้ย
      "เราทำงานอยู่น่ะ เราถ่ายอยู่เรารู้ว่ามันไม่ใช่ เพราะว่ามันก็ไม่ได้มีการบังคับนะ คือมันก็แล้วแต่นักแสดง แล้วออยก็มีลิมิตแล้วก็มีกฏของเราว่าได้แค่ไหน ในมุมของออยมันเป็นออกตลก แต่คนอื่นอาจจะแรงกว่าของเราน่ะ คือเลิฟซีนส่วนของออยมันไม่เยอะมากค่ะ ก็แรงแหละแต่ก็ไม่ได้เห็นอะไรขนาดนั้น ก็ขอให้เป็นด้านที่ดีแล้วกัน ไม่ได้เตรียมใจอะไรเพราะว่าไม่รู้ว่ามันจะเป็นกระแสยังไง คือตอนนี้ถ่ายอยู่ก็ยังไม่รู้สึกว่ามันแรงอะไร แต่พอตัดต่อภาพออกมาเนี๊ยคนดูก็จะต้องตัดสินว่าแรงไม่แรง แต่ว่าเราทำงานมันเซฟให้เราทุกอย่างอยู่แล้ว ออยเลยไม่รู้สึกว่าแรง แต่ถ้ามันออกมาแรงเราก็ต้องยอมรับแหละ ก็เราตัดสินใจไปแล้ว ดีไม่ดีมันก็ขึ้นอยู่กับดวงอยู่กับภาพกับองค์ประกอบแล้วแหละ"

พอมีผลงานก็ออกมาแนวเซ็กซี่ๆ ตลอด กลัวคนเบื่อมั้ย
      "ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ก็เค้าจ้างแต่แบบนี้เราก็ไม่รู้จะทำไง คือเราก็อยากถ่ายอยากพูดกับผู้จัดการเลยว่าอยากถ่ายดูใสๆ บ้างน่ะเราดูเองเรายังเอียนเลยเซ็กซี่ แต่คนเค้าก็ไม่เชื่อไง ที่แบบพอเห็นออยแล้วก็ต้องเซ็กซี่ มาพร้อมกับเสื้อผ้า เหมือนออกงานอย่างเนี๊ยถ้าใส่เสื้อปิดคิมาคนเค้าก็ไม่สนใจ คือลุคเรามันเป็นเหมือนคนคาดหวังไปแล้วว่าต้องเซ็กซี่ เหมือนเห็นอั้ม-พัชราภา ถ้าเค้าใส่เสื้อปิดคอแต่เค้าก็ยังโชว์เซ็กซี่อย่างอื่น มันเป็นภาพไปแล้วค่ะ มาแล้วแบบเรียบร้อยคนก็แบบเฉยๆ เหมือนเค้าก็จ้างเรามาเค้าเสียเงินก็เพื่ออยากจะมาเห็นความเซ็กซี่ของเราก็ต้องให้กับเรื่องงาน แต่ถ้าชุดจริงๆ ออยก็ไม่ได้แต่งเซ็กซี่อยู่แล้วน่ะ แล้วแต่อารมณ์ เสื้อยืด กางเกงยีนขาสั้น"

หนังถ่ายไปเยอะรึยัง
      "ถ่ายแค่ 2 คิวเองค่ะ เหลืออีก 4 คิว ก็ถ่ายจบก็ประมาณสิ้นเดือนมีนาคม แล้วก็ออนแอร์มิถุนาแล้ว"

คิดว่าจะโดนกระแสเซ็นเซอร์เหมือนหนังเรื่องอื่นๆมั้ย
      "ส่วนของออยในเรื่องของออยเนี๊ย ไม่น่าโดนนะ แต่ว่าไม่รู้ว่า แต่ผู้กำกับเค้าก็ต้องดูเซฟที่สุดแหละ อย่างภาคที่แล้วยังให้ออกได้เลยแต่มันก็มีบางอันที่มันออกไม่ได้ อันนี้เป็นของภาคการตัดต่อแล้วแหละ แต่ในส่วนของเราที่เป็นนักแสดงเราคิดว่าไม่มีอะไรที่แบบโอเวอร์เกินเลย เพราะว่าเราอ่านบทก่อนที่จะรับอยู่แล้วค่ะ"   ♦

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments