โดยเฉพาะข่าวการโยกย้ายเปลี่ยนค่าย เป็นเปลี่ยนช่อง เปลี่ยนตัวนักแสดง ทำเอาผู้บริโภคข่าวตามติดข่าวกันแทบไม่ทัน กระจอกข่าวก็รายงานข่าวกันหืดขึ้นคอแต่ก็ยังสู้ตาย และจากข่าวที่ทาง นสพ.ดาราเดลี่ ได้เปิดประเด็นไว้ว่า ช่อง 3 การวางแผนถีบนักแสดงที่ไม่ได้สังกัดกับทางช่องให้กระเด็นออกไป แล้วก็เอานักแสดงที่เซ็นสัญญากับช่องนั้นมาเสียบแทน อย่างนี้เรียกได้ว่าถ้าใครได้เซ็นสัญญากับทางช่อง 3 แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีงานรับรองเพราะการันตีได้ว่ามีงานและไม่ตกงานแน่นอน
ยกตัวอย่างเช่นการปรับเปลี่ยนรายการที่อยู่มานานถึง 18 ปี อย่าง “มาสเตอร์คีย์” ก็มีการปรับเปลี่ยนรายการใหม่ให้ดูวัยรุ่นโดยการเอาพิธีกรเด็กใหม่วัยรุ่นมาเพิ่มขึ้น แล้วก็ลดบทบาทของ “ป๋าเทพ-เทพ โพธิ์งาม” พิธีกรตลกอาวุโสที่อยู่คู่รายการมาตั้งแต่อ้อนแต่ออด ให้บทบาทน้อยลงนั่นก็คล้ายกับเป็นการบีบให้ออกทางอ้อม ส่วนสาเหตุที่ต้องบีบให้ป๋าเทพลาออกเองนั้น มีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่า อาจจะเป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ว่าป๋าเทพไม่ได้เซ็นสัญญากับทางช่อง 3 นั่นเอง สู้ใช้ทรัพยากรบุคคล จ้างเด็กในค่ายก็ต้องคุ้มกว่าอยู่แล้ว เพราะว่าจะได้ไม่ต้องไปจ้างนักแสดงนอกสังกัดให้เปลืองเงินอีกต่อหนึ่ง
อีกหนึ่งกรณีก็คือละครซิทคอมของ “หม่ำ จ๊กม๊ก” หรือ “เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา” เรื่อง “แฟคทอรี่ที่รัก” ที่ออนแอร์ได้ไม่ถึงปี นางเอกของเรื่องอย่าง “หนูจ๋า-อชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา” ก็ต้องโดนถอดออกจากบทนางเอก ตกงานอย่างไม่ทันตั้งตัว คาดว่าคงเป็นการต่อยอดของทางช่อง 3 อีกเหมือนกัน ที่คิดแทนเสร็จสับว่าต้องเอาสาวหน้าใสอย่างสาวหนูจ๋าออกเพราะเรียกเรตติ้งไม่ค่อยได้แถมยังไม่ได้เซ็นสัญญากับช่อง 3 อีก แล้วนำเอาสาว “นุ่น” นักแสดงสังกัดช่อง3 เข้ามาเสียบอย่างไม่แคร์เลยว่าที่จริงแล้วบทนางเอกของละครเรื่องนี้นั้นจะต้องพูดภาษาอีสานอย่างแตกฉาน ซึ่งก็คงเป็นไปไม่ได้ว่าสาวนุ่นนั้นจะพูดได้คล่องปรื๋อขนาดนั้น งานนี้เดือดร้อนผู้กำกับและทีมงานต้องวิ่งวุ่นแก้บทอย่างจ้าละวั่นอีกตามเคย
เท่านั้นยังไม่พอ อย่างดาราที่เกือบจะได้เซ็นสัญญากับช่อง 3 อย่างสาว “เนย-โชติกา วงศ์วิลาศ” เด็กในสังกัดนักปั้นมือทองอย่าง “เอ ศุภชัย” ที่ดูแล้วน่าจะถือเป็นโชคดีถ้ามีโอกาสได้มีชื่อเป็นพนักงานในช่อง 3 แต่แล้วความหวังก็ต้องล่มสลายเมื่อจู่ๆ ก็โดนคำสั่งประกาศิตออกมาบอกว่าไม่ให้เซ็นสัญญาซะงั้น ซึ่งงานนี้ทางว่าที่สังกัดที่กำลังจะให้เซ็นนั้นก็ให้ความเห็นชนิดที่เรียกว่าต้องหน้าหงายตึง เพราะเหตุผลที่ว่าก็คือ สาวเจ้ามีข่าวในด้านลบมากเกินไป ส่วนบทที่รับได้แม้ทางช่อง 3 จะยังปราณีให้เล่นละครของทางช่อง แต่บทที่ได้รับนั้นก็เป็นที่ชนิดที่เรียกว่าไม่สำคัญอะไร ออนแอร์ออกไปก็ไม่มีใครจำได้ ผิดกับเมื่อครั้งที่เกือบจะได้เซ็นสัญญาเพราะบทที่ป้อนให้นั้น เป็นบทที่ดีกว่านี้หลายต่อหลายยอด คือเรียกได้ว่ากลัวจะเสียภาพลักษณ์ทางสังกัด งานนี้สงสัยถ้าใครมีข่าวไม่ดีแม้เพียงเสี้ยวก็คงจะไม่มีโอกาสได้ย่ำกลายไปแวะเวียนช่อง 3 เลยกระมัง
งานนี้สงสัยในอนาคตอันใกล้ใครที่ไม่ใช่นักแสดงที่เซ็นสัญญากับทางช่อง 3 แล้วเล่นละคร หรือ เป็นพิธีกรรายการของช่อง 3 คงหนาวๆ ร้อนๆ ระวังตัวเพราะว่าในไม่ช้าคงต้องกระเด็นไปไกล เพราะทางช่อง 3 นั้นกำลังมีนโยบายใหม่คล้ายๆ กับ เที่ยวเมืองไทย กินของไทย ใช้ของไทยอะไรประมาณนั้น ♦