"เจเอสแอล"ได้เวลาโกอินเตอร์

"เจเอสแอล"ได้เวลาโกอินเตอร์

1

       ถนัดแต่การทํารายการโทรทัศน์ ตอนนี้หันมาเป็นผู้จัดละคร และผลิตละครฟอร์มยักษ์ "ไฟอมตะ" ที่เตรียมงานและดําเนินการถ่ายทําอย่างพิถีพิถันกว่าปี ใช้นักแสดงระดับแถวหน้าของเมืองไทยหลายสิบชีวิตร่วมถ่ายทอดเรื่องราวเข้มข้นของละคร พร้อมด้วยการถ่ายทําระบบ ไฮเดฟฟินิชั่น (High Definition หรือ HD) เพื่อเป้าหมาย ในการส่งขายต่างประเทศ โดยลงจอให้คนไทยทั้งประเทศได้ชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.40-21.40 น.

รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณจํานรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี ประธานกรรมการบริหาร เจ เอส แอลฯ เปิดเผยความเป็นมาว่า "บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จํากัด ได้รับมอบหมายดําเนินงานโครงการพ.ศ.พอเพียง เมื่อปี 2550 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปสู่กลุ่มประชาชนให้มีความเข้าใจเรื่อง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข คือ พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน มีความรู้และคุณธรรม

โดยตลอดระยะเวลาดําเนินโครงการ คณะทํางานได้จ้างบริษัททําการประเมินสัมฤทธิผลของโครงการ ซึ่งผลประเมินออกมาเป็นที่น่าพอใจ ประชาชนรับรู้และมีความเข้าใจในหลักเศรษฐกิจพอเพียงมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีข้อเสนอแนะว่า โครงการเช่นนี้ควรทําอย่างต่อเนื่อง และหากต้องการให้เข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง ควรทําในรูปแบบของการสอดแทรกเนื้อหาในละคร เพราะละครมีอิทธิพลกับประชาชนอย่างยิ่ง จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายว่า ทําละครอย่างไรให้ผู้ชมได้ทั้งความบันเทิงและสาระไปพร้อมกัน"

คุณจํานรรค์ เปิดเผยต่อว่า หลังจากที่ได้อ่านบทประพันธ์ "ผมจะเป็นคนดี" ของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ซึ่งเรียบเรียงโดย คุณประภัสสร เสวิกุล ทําให้รู้ว่าคุณวิกรมมีเรื่องเล่าในชีวิตครบทั้ง 3 ช่วง คือ มีเรื่องชีวิตในวัยเยาว์ มีความรักในวัยหนุ่ม และช่วงที่ชีวิตมีความมั่นคงประสบความสําเร็จ และเมื่อได้พูดคุยทําให้รู้ว่าคุณวิกรมเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น  มีวิริยะ อุตสาหะ กล้าจะตีแผ่เรื่องราวในด้านมืดของตัวเองเพื่อเป็นอุทาหรณ์ จึงรู้สึกประทับใจในแนวคิดนี้ 

เมื่อได้พบกับคุณวิกรมจึงเล่าให้ฟังว่า เจ เอส แอลฯ สนใจประวัติชีวิต เพราะมีแง่มุมที่สามารถสอดแทรกความพอเพียงในการใช้ชีวิตและการดําเนินธุรกิจ คุณวิกรมจึงอนุญาตให้นําบทประพันธ์ "ผมจะเป็นคนดี" มาดัดแปลงเป็นละครได้ จึงมอบหมายให้ พิไลวรรณ บุญล้น ผู้บริหาร ไทเกอร์ แท็ค ทีม บริษัทในเครือของ เจ เอส แอลฯ นําละครเรื่องนี้ไปผลิต เพราะเห็นว่าคุณพิไลวรรณทําละครมาพอสมควร และก็เป็นงานที่มีความงาม เป็นคนที่เฟ้นเรื่องภาพแล้วอารมณ์ได้เหมาะกับละครเรื่องนี้มาก

ละครเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างกว่า 60 ล้าน คือรวมทั้งค่าเวลาด้วย รวมๆ แล้วก็ประมาณ 60 ล้าน ถือว่าเป็นการทําละครที่ทุนสูงมากๆ และเราจะไปฉายในต่างประเทศด้วย ตอนนี้ก็มีประเทศจีนเขาติดต่อกันมาแล้วก็มีเซ็นสัญญา กันไปแล้วว่าเขาขอจัดจําหน่ายในประเทศจีน แล้วเราก็กําลังจะไปคุยกับทางเวียดนามก็คุยแล้วนะคะ แล้วจากนั้นก็จะไปทางเกาหลี ญี่ปุ่น

ส่วนหนึ่งโดยชื่อเสียงของเจ เอส แอล เขาอาจจะไม่ค่อยได้รู้จักว่า เจ เอส แอลทําละคร เพราะว่าเราไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านละคร แต่โดยชื่อเสียงของคุณวิกรม คนก็รู้จักกันดีเพราะเขาไม่ได้เป็นแค่นักธุรกิจที่มีชื่ออยู่ภายในประเทศไทย แต่เป็นคนที่ค่อนข้างโกลบอลเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคนก็สนใจอยู่แล้ว แล้วยิ่งการถ่ายทําโปรดักชั่นนี้ออกมาแล้วมันน่าสนใจเลยทีเดียว แล้วทางเขาก็ตอบรับดี

อย่างทางประเทศจีนเขาเป็นประเทศใหญ่เดี่ยวก็มีการจัดจําหน่ายกันออกไปทั่วทั้งประเทศจีน รวมทั้งไต้หวันด้วย เพราะเขาก็คงซื้ออยู่แล้ว"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments