จัดงานเลี้ยงฉลองสมรส ไปเมื่อค่านนี้ (19 พค) ณ ที่ห้องจูปิเตอร์ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานนี โดยมี "ดู๋-สัญญา คุณากร" รับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินงาน ส่วนประธานในพิธีทางฝ่ายชายคือ "สันติ ภิรมย์ภักดี" และทางฝ่ายหญิงคือ "พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา" ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่วุ่นวาย ซึ่งงานนี้คู่จัดงานแบบกระชับขึ้นเสร็จสิ้นก่อน เวลา 20.00 น. ที่ทางรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว
โดยก่อนจะเริ่มพิธีการ เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ควงแขนกันออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ซึ่งเจ้าบ่าวเผยว่า ชีวิตตอนนี้มีความสุขมากๆ เคยคุยกันว่าชีวิตก่อนแต่งงานและหลังแต่งงานคงไม่เหมือนกัน การที่ได้แต่งงานกับนุ่น ก็ทำให้ชีวิตเติมเต็มส่วนที่ขาด ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ตนคิดถึงแต่ตัวเอง มาถึงวันนี้ต้องดูแลคนอื่น พร้อมรับว่ากังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ส่วนแขกที่พลาดมาร่วมงานวันนี้ ตนเข้าใจในสภาวการณ์บ้านเมืองตอนนี้ พร้อมทั้งขอบคุณกองทัพสื่อมวลชนที่มาร่วมทำข่าวในวันนี้ด้วย
"ผมเน้นการแต่งงานแบบเรียบง่าย มากกว่า แต่ก็ต้องมีความพิเศษเป็นธรรมดา ที่ต้องเน้นเพิ่มคือเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับแขกและสื่อมวลชน เพราะเข้าใจว่าแต่งงานในภาวะคับขัน คือวันนี้ผมต้องให้งานแต่งเสร็จเร็วก่อนสองทุ่มครึ่ง"
ด้านนุ่นเปิดใจว่า ชีวิตตอนนี้มีความสุขเช่นกัน ตื่นขึ้นมาก็มีต๊อดอยู่ข้างๆ ปกติต๊อดเป็นคนตื่นง่าย ก็ทำให้รู้สึกไม่คุ้นเคย แต่ตอนนี้คุ้นเคยกันดีแล้ว ส่วนของขวัญแต่งงานจากหนุ่มต๊อด เป็นเครื่องเพชร 1 ชุด รู้สึกประทับใจมาก แต่ไม่ได้ใส่ออกงาน เพราะว่าคุณแม่ของต๊อดเตรียมเครื่องเพชรสำหรับใส่ ในงานคืนนี้อีกชุดไว้ให้แล้ว ส่วนเรือนหอเป็นบ้านของหนุ่มต๊อด
“งานแต่งงานวันนี้ยังคงคอนเซ็ปต์ที่เป็นสีฟ้าสีครีม เพราะเราทั้งคู่ชอบสีฟ้า ตรงที่ถ่ายรูปก็ยังเป็นดอกไม้ของเราทั้งสองคน เป็นอะไรที่เป็นนุ่นกับต๊อดอยู่แล้วค่ะ ของชำร่วยเป็นเทียนค่ะ เป็นเทียนหอม แต่สิ่งที่เข้ามาเติมเต็มของเทียนคือรายละเอียดตัวอักษรที่อยู่ใน เทียนค่ะ"
ขณะที่ต๊อดกล่าวเสริมว่า "เพราะผมคิดว่ามันเป็นความหมาย คือเปลวไฟ เป็นการเริ่มต้นของชีวิตคู่"
ระหว่างการสัมภาษณ์ “นุ่น-ต๊อด” ได้โชว์หวานจูบกันต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชนที่มาร่วมทำข่าว นับร้อยชีวิต ก่อนที่จะบรรจงหอมแก้มกันและกันหลังสัมภาษณ์สร็จอีกด้วย ♦
ข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์