ย่านพระราม 4 พร้อมจุดไฟเผาจนเกิดเพลิงไหม้อย่างหนัก ทําให้ผู้บริหาร คนข่าวและพนักงาน อาทิ วิบูลย์ ลีรัตนขจร, สรยุทธ สุทัศนะจินดา, ธีระ ธัญญไพบูลย์, ไก่-มีสุข แจ้งมีสุข, แชมป์-พีรพล, ไก่-ภาษิต, บีม-ศรัณยู ประชากริช ฯลฯ ต้องหนีตายกันอลหม่าน เจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าไปช่วยชีวิตเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทําให้ช่อง 3 ต้องงดออกอากาศทันที
กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 21 พ.ค. ช่อง 3 ก็ได้กลับมาออกอากาศอีกครั้ง พร้อมกันนี้ทางผู้บริหารของสถานีนําโดย "นายประวิทย์ มาลีนนท์" ยังได้เชื้อเชิญสื่อมวลชนเข้าชมสภาพความเสียหายภายในอาคารมาลีนนท์
โดยมี นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อํานวยการสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ในฐานะนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์, นายวสันต์ ภัยหลีกลี้, นายเทพชัย หย่อง เดินทางมาร่วมให้กําลังใจในครั้งนี้ด้วย
ผู้บริหารของช่อง 3 ได้พากลุ่มสื่อมวลชนขึ้นไปยังห้องส่งออกอากาศที่อยู่ชั้น 9 ของอาคาร เพื่อชมการออกอากาศสดรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" จากนั้นก็ได้พาลงมายังห้องทํางานของทีมข่าว ที่อยู่ชั้น 6 ซึ่งมีสภาพความเสียหายไม่น้อย
โดยเฉพาะบริเวณโต๊ะทํางานของ "นายกิตติ สิงหาปัด" ผู้ประกาศข่าวและพิธีกรรายการ "ข่าว 3 มิติ" ที่นั่งติดริมกระจก มีร่องรอยของรูกระสุนจํานวน 5 รู ถูกยิงเจาะทะลุกระจกมา จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และคาดเดากันว่า มือปืนน่าจะยิงมาจากตึกกรีนทาวเวอร์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
โดย กิตติ สิงหาปัด เปิดใจว่า โชคดีที่ไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะ ในขณะที่มีลูกกระสุนถูกยิงมา เพราะได้วิ่งลงบันไดหนีออกไปด้านนอกตึกทันทีที่ทราบว่ามีกลุ่มนปช.บุกเข้ามา ซึ่งหลังจากเหตุการณ์สงบและได้กลับมาดูที่โต๊ะทํางานอีกครั้ง พอเห็นรอยกระสุนก็รู้สึกตกใจ ยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าหากยังคงนั่งอยู่จะเป็นอย่างไร
เมื่อดูจากลักษณะคาดว่าเป็นการซุ่มยิงมาจากอีกตึกหนึ่ง แต่ไม่เชื่อมือปืนจงใจเล็งเป้ายิงหมายเอาชีวิตตน คาดเป็นเหตุบังเอิญ เพราะโต๊ะทํางานติดกระจกซึ่งอยู่ฝั่งติดกับถนนพอดี และอีกฝ่ายคงไม่น่ารู้ว่าตนนั่งอยู่ตรงนี้ คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตํารวจมาตรวจสอบดูอีกที ทั้งนี้ผู้ประกาศข่าวคนดังยอมรับอีกว่า เดี๋ยวนี้จะไปไหนมาไหนต้องระวังตัว และสอดส่ายสายตามองมากขึ้น เพราะเหตุการณ์ได้ยกระดับความรุนแรงขึ้น
ส่วนนายคชาชาญ มงคลเจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายข่าว บริษัทบีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จํากัด (มหาชน) ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อแพร่ภาพทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวว่า "เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่หน้าสถานี จากนั้นมีคนนําตู้โทรศัพท์ขวางหน้าอาคารมาลีนนท์ กั้นไม่ให้รถดับเพลิงเข้าไประงับเพลิงได้ ส่งผลให้ไฟลุกไหม้ที่ลานจอดรถชั้นล่าง
กรณีเกิดเหตุจลาจลไม่ต้องการประเมินความเสียหาย แต่อยากให้มองไปข้างหน้าและต้องการเยียวยาสภาพจิตใจของพนักงานมากกว่า วันเกิดเหตุทุกคนติดอยู่ที่ชั้น 6 อาคารปฏิบัติการมากกว่า 100 คน แต่ละคนล้วนตกอยู่ในอาการหวาดกลัว แต่เมื่อผ่านตรงนั้นมาได้ เราไม่อยากพูดเรื่องความเสียหาย
สําหรับอาคารมาลีนนท์ เสียหายชั้นล่างเกือบทั้งหมด มีกระจกแตก เฟอร์นิเจอร์ และร้านค้าถูกทําลาย ธนาคารกรุงเทพเสียหายเกือบหมด แต่สําหรับอาคารปฏิบัติการนั้น เครื่องมือด้านเทคนิคสําหรับออกอากาศ ไม่เสียหาย นอกจากนั้นมีรถยนต์ 6 คันถูกเผา มีรถข่าวและรถของพนักงานชั้นล่างทั้งหมดถูกทําลาย
"เรื่องความเสียหายไม่อยากเน้นมาก ไม่ว่าเรื่องความเสียหายของอาคาร หรือเรื่องรายได้ พูดไปก็เท่านั้น อยากมองข้าม ผมมองเรื่องเสียหายทางใจมากกว่า เรารู้สึกตรงนั้นมากกว่า อยากเยียวยา ทุกคนขวัญดี พร้อมก็มาทํางานกันมากกว่า" ♦