อวดโอ้เอาไว้ว่า การประกาศผลมอบรางวัล "นาฏราช" ครั้งที่ 1 จะเป็นการยกมาตรฐานการมอบรางวัลเชิดชูคนบันเทิงผู้สร้างสรรค์ผลงานยอดเยี่ยมในประเทศไทย ให้ยิ่งใหญ่เทียบเคียงกับงานมอบรางวัลระดับโลกเยี่ยง "ออสการ์" หรือ "ลูกโลกทองคำ"
ก็ต้องยอมรับว่า ถึงแม้จะยังดูขาดๆ เกินๆ แต่บรรยากาศของงานนาฏราชครั้งแรก ที่จัดขึ้นกลางหว่างความขัดแย้งนี้ ก็สร้างความขลัง อลังการ และพอได้กลิ่นอายของงานออสการ์กรุ่นๆ
ไม่นับรวมการพาเหรดเข้างานของเหล่าคนบันเทิงบนเรดคาร์เป็ต-พรมแดง ซึ่งถูกนำมาใช้เมื่อหลายปีก่อน
รูปแบบงานซึ่งเป็นดินเนอร์ปาร์ตี้ ที่ไม่อนุญาตให้ช่างภาพและสื่อมวลชน ได้เข้าไปถ่ายรูประหว่างการประกาศรางวัล
นั่นก็เป็นขนบเดียวกันกับงานมอบรางวัลระดับโลก ทั้งออสการ์ และลูกโลกทองคำ แม้กระทั่ง เอ็มมี่อวอร์ด
อีกทั้งสถานที่จัดงาน ซึ่งผู้จัดเลือกเอา "ห้องเจ้าพระยา" ภายในอาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หอประชุมกองทัพเรือ "แชนเดอร์เลียร์" โคมไฟระย้าขนาดใหญ่ยักษ์กลางห้อง ที่กล้องโทรทัศน์ จับเป็นภาพหลักก่อนการประกาศในแต่ละรางวัลก็ดูอลังการ
ดนตรีซึ่งขับคลอสร้างและเสริมบรรยากาศของงาน ผู้จัดก็ใช้การบรรเลงสดโดยวงออเคสตร้า ขณะที่ผู้ได้ขึ้นรับรางวัลเดินขึ้น รับการประกาศความยอดเยี่ยม โดยเป็นเพลงนำของละครเรื่องนั้น ก็เป็นวัตรปฏิบัติของงานมอบรางวัลระดับโลก
การยกขบวนของทีมงาน ผู้สร้าง-ผู้กำกับฯ และดารานักแสดงในผลงานที่ได้รับรางวัลใหญ่ที่เห็นชินตาบนเวทีออสการ์
ในงานครั้งนี้ ทีมงานพร้อมด้วยดารานักแสดงของละครเรื่อง "ชิงชัง" นำโดยคุณบอย-ถกลเกียรติ และ นิพนธ์ ผิวเณร ก็ขึ้นรับรางวัลละครยอดเยี่ยมอย่างพร้อมเพรียง! (อ่านต่อสัปดาห์หน้า) ♦