แต่คงต้องขอจบไว้แค่นั้น ด้วยว่ามี "ความงดงาม" ของหนังไทยซึ่งไปฉายโชนรัศมีอวดสายตาชาวโลกในเทศกาลหนังคานส์ ประจำปี 2010 (2553)
เทียบกับงานประกาศผลรางวัลยอดเยี่ยมระดับโลกของฮอลลีวู้ด อย่าง "ออสการ์" เชื่อว่าคนไทย คอหนังทั่วไป รวมทั้งคนในแวดวงหนังไทยมีความใกล้ชิดและแนบแน่นกับรางวัล และงาน "เทศกาลหนังเมืองคานส์" (Cannes Film Festival) ประเทศฝรั่งเศส มากกว่า
ไม่เพียงแต่จะเป็นตลาดหนังระดับโลก ที่บริษัทผู้สร้าง ผู้บริหารช่องทีวี ตลอดผู้จัดจำหน่ายชาวไทย เดินทางไปร่วมงาน เพื่อซื้อ และขายผลงานหนังจอใหญ่ ซีรีส์จากทั่วโลกอย่างคึกคัก
ยิ่งในเวลา 3-4 ปีมานี้ ชื่อของผู้กำกับชาวไทย และผลงานหนังไทย ได้ไปอวดโอ้ ประกาศตัวตน ในเทศกาลหนังระดับโลกนี้อยู่เนืองๆ
ยิ่งเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2010 นี้ คนไทยได้ติดตามข่าวคราวด้วยความคึกคักและฮึกเหิมเป็นอย่างมากเพราะในที่สุดผู้กำกับชาวไทยคนแรกก็ไปคว้ารางวัลสูงสุด "ปาล์มทองคำ" มาครอง และคงต้องขอใช้พื้นที่เล็กๆ ปีกซ้ายหน้า 13 นี้ เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับ "เจ้ย-อภิชาติพงศ์" ที่คว้ารางวัลสูงสุด "ปาล์มทองคํา" มาครองได้สําเร็จ
จากภาพยนตร์ภาษาอีสานเรื่อง "ลุงบุญมีระลึกชาติ" นับว่าเป็นการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ของหนังจากทวีปเอเชีย หลังจากที่ผู้กำกับชาวญี่ปุ่น เคยสร้างชื่อชาวเอเชีย โดยคว้าปาล์มทองคําเมื่อปี 1997 จากเรื่อง "The Eel"
"เจ้ย-อภิชาติพงศ์" พาหนังเรื่อง สุดเสน่หา (Blissfully Yours) คว้ารางวัล Un Certain Regard ในปี พ.ศ. 2545 และถูกจัดเป็นหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดที่คานส์โดยนิตยสาร Le Cahiers du Cinema
ปี 2547 หนังเรื่อง สัตว์ประหลาด! (Tropical Malady) ซึ่งร่วมกับบริษัทหนังในฝรั่งเศส ได้รับรางวัล Jury Prize และเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ได้รับเข้าเลือกในสายประกวดหลักของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
การคว้ารางวัลสูงสุดในเทศกาลหนังระดับโลกครั้งนี้ คงจะทำให้ ผู้ใหญ่ในรัฐบาล ได้หันกลับมามองหนังไทยอย่างจริงจังอีกครั้ง!! ♦