บริษัท สร้างสุข By P'kung (Chapter 7)

     ตอนนี้ละครก็ใกล้จะออกอากาศแล้วนะคะ เหลืออีกไม่กี่วัน เมื่อทุกคนดูละครเรื่องนี้อาจจะรู้สึกว่าต่างจากละครทั่วไป แต่จะต่างอย่างไรนั้นคงต้องรอดูค่ะ และที่สำคัญการเล่าเรื่องของพี่กุ้งกับ "บริษัท สร้างสุข" ของพี่แทนนั้น คงต้องหยุดพักไว้ก่อนที่ตอนนี้ เนื่องจากช่วงนี้ใช้พลังงานเยอะมากกับบริษัทใหม่ของพี่แทน และขณะเดียวกันก็มี Project ใหม่ๆ ที่กำลังทำอยู่ ทำ ให้เวลาที่จะนั่งเขียนเรื่องเล่าก็ลดลง ทั้งๆ ที่มีเรื่องสนุกๆ ขำๆ มากมายในละครเรื่องนี้ แต่ละครเรื่องนี้จะพิเศษตรงที่เราจะนำเบื้องหลังมาให้ได้ชมก่อนที่ ละครจะออกอากาศ ดังนั้นใครที่อยากชมเบื้องหลังหรือการ เมาธ์กันของนักแสดงเรื่องนี้ ก็ติดตามชมวันที่ 25 ก.ค. 53 และยังสามารถติดตามข่าวของบริษัท สร้าง สุขได้ใน นสพ.daradaily และนิตยสาร daradaily tabloid

      อ้อ! ขอ เล่าเรื่องขำๆ ของช่างภาพประจำกองละครของเรากับน้องนาเดียหรือน้องลิซซี่หน่อยนะคะ  น้องนาเดียเค้าจะไม่ยอมให้ช่างภาพที่เป็นผู้ชายถ่ายภาพ จนช่างภาพชายของเรา ต้องเรียนแบบท่าทางของจีจี้ เพื่อบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงนะยะ แต่ น้องนาเดียลูกสาวพี่แทนก็ยังไม่ยอม แถมยังบอกว่าเป็นผู้หญิงก็ต้องใส่กระโปรงสิ ไปใส่กระโปรงมาก่อนถึงจะให้ถ่าย งานนี้ช่างภาพเราก็เลยเหวอไปหมดหนทางซะแล้ว ...

       ในแต่ละตอนแขกรับเชิญคนไหนจะมาให้บริษัท สร้างสุข แก้ปัญหายังไงบ้างก็คงต้องติดตามค่ะ แต่ที่แน่ๆ มีกิจกรรมดีๆ ให้ร่วมกันทำค่ะ บางครั้งวันที่เรายิ้มได้ก็เป็นเพราะการทำให้คนรอบๆ ตัวเรามีความสุข พี่กุ้งก็หวังว่าละครเรื่อง บริษัท สร้างสุข จะทำให้ผู้ชมมีความสุขกันถ้วนหน้า อยากให้เราทุกคนมีรอยยิ้มค่ะ ขอบคุณความเห็นทุกๆ ความเห็นที่ฝากไว้นะคะ และยินดีรับความเห็นเพิ่มเติม อยากแนะนำหรือติชมละครบริษัท สร้างสุขก็สามารถส่งตรงมาได้ที่  kung@daradaily.com ค่ะ หวัง ว่าทุกคนจะมีความสุขกับบริษัท สร้างสุขค่ะ

ขอฝากทิ้งท้ายไว้ในเดือน ก.ค. และ ส.ค. นี้ มีตอนที่ออกอากาศดังนี้นะคะ (ไม่ได้เรียงลำดับ)

• กำเนิดบริษัท
• สละโสด
• สุขที่เสียสละ
• แม่ครับ
• Shopaholic
• Social Network
• คนใกล้ตัว
• เซลส์แมนที่รัก
• จุดใต้ตำตอ
• ใจยังสู้

และนักแสดงรับเชิญมีดังนี้ค่ะ (ใครจะเล่นตอนไหนลองจับคู่ดูค่ะ)

                         

ศรราม เทพพิทักษ์                    น้องโจอี้ นางสาวไทยปี 52                             โจ - นินนาท

                   

 เอ๊ะ - ศศิกานต์                             อะตอม (ห้ามทิ้ง) GMM                               ต้อล AF4

                   

           อิชย์ AF6                                     บอย AF3                                     โบว์ลิ่ง GMM

 เชน Nice 2 Meet U RS

      ทีเซอร์ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ที่เป็นภาพจิ๊กซอว์ของแต่ละคนมาต่อเป็นแผนที่ประเทศ ไทย ถามว่าพี่กุ้งทำไมถึงใช้จิ๊กซอว์ในการสื่อความหมาย เรื่องมีอยู่ว่าพี่กุ้งเป็นคนชอบต่อจิ๊กซอว์มากสมัยเด็กๆ จนเรียนมหาวิทยาลัยก็มาเจอเพื่อนสนิทที่ชอบต่อจิ๊กซอว์เหมือนกัน บางครั้งเราก็แข่งกันต่อ บางครั้งเราก็ช่วยกันต่อภาพเดียวกัน ซึ่งเวลาช่วยกันต่อจะสนุกกว่าต่อคนเดียวมาก เพราะต่อคนเดียวมักจะเครียดเวลาต่อภาพยากๆ แต่เวลาช่วยกันต่อจะมีบทสนทนามาทำให้หายเครียด และเมื่อภาพสมบูรณ์ขึ้นมาแล้ว เวลาเรามองภาพที่ช่วยกันต่อมันจะมีเรื่องราวต่างๆ อยู่ในภาพนั้นด้วย นอกเหนือจากภาพที่สมบูรณ์ (เช่น อ่าน หนังสือสอบกันถึงเช้า แต่ก็ยังแว้บมาต่อจิ๊กซอว์) ซึ่งบริษัท สร้างสุข ก็เหมือนกัน เป็นภาพที่มาจากการร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของคนหลายๆ ฝ่าย ทำให้เกิดบริษัท สร้างสุข ขึ้นมา โดยทุกๆ คนมีเจตนาเดียวกันคือ อยากให้ผู้ชมมีความสุข ทุกๆ คนเปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งที่มาทำให้ภาพนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วซีซั่นนี้เราจะ ออกอากาศ 30 ตอน และถ้ามีโอกาสก็จะมีซีซั่น 2 ถามว่าจิ๊กซอว์ “บริษัท สร้างสุข” สมบูรณ์หรือยัง ในสายตาของพี่กุ้งตอบว่า “ยังค่ะ” ยังมีจิ๊กซอว์อีกหลายตัวที่พี่กุ้งและทีมงาน รวมถึงนักแสดง จะช่วยกันต่อภาพนี้ให้สมบูรณ์ แต่พี่กุ้งก็เรียนรู้ว่าภาพทุกภาพมีความงามอยู่ในตัวมันเอง ถึง แม้ว่าจะเป็นภาพที่ยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม หรือสุดท้ายอาจจะมีจิ๊กซอว์บางตัวที่หายไป ทำให้ภาพนั้นยังไงๆ ก็ไม่มีวันสมบูรณ์ได้ แต่จิ๊กซอว์ที่หายไป กลับทำให้ภาพนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้นในสายตาของผู้ชมภาพนั้น

      ลืมอีกเรื่องค่ะ มีหลายความเห็นอยากให้หานางเอกให้ตะวัน จริงๆ แล้วเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นเราก็ไม่ได้วางให้ตะวันมีคู่นะคะ ใน ซีซั่น 1 นี้ เพราะว่าจะมีหลายๆ ตอนที่มีนักแสดงรับเชิญที่เป็นผู้หญิงเข้ามา ให้ตะวันได้ใช้ความรู้ความสามารถในการเรียนนันทนาการให้เป็นประโยชน์ในการสร้างสุข ให้แขกรับเชิญผู้หญิง รวมถึงบริหารเสน่ห์กับสาวๆ แข่งกับนนและทอมอย่างเต็มที่ ถ้าตะวันมีนางเอกในดวงใจซะแล้ว ก็หมดมุกบริหารเสน่ห์กันพอดีค่ะ ดังนั้นเราก็ให้ตะวันเรียนรู้ ค้นหาไปเรื่อยๆ ก็แล้วกันค่ะ แล้วถ้าโชคดีมีซีซั่น 2 เราค่อยมานั่งคิดเรื่องนางเอกให้ตะวันกันอีกที  “เราอาจจะใช้เวลาไม่นานในการพบคนที่ “ใช่” สำหรับเรา แต่เราต้องใช้เวลาอย่าง แน่นอนในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และพัฒนาความสัมพันธ์นั้นให้ยั่งยืน ต่อไป” (คำพูดนี้จะอยู่ในตอน “สละโสด” นะคะ) “เวลา” เป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ ในทุกๆ เรื่องค่ะ และที่สำคัญ “เวลา” เป็นสิ่งที่เรียกคืนไม่ได้ ดังนั้นต้องใช้อย่างคุ้มค่าที่สุดค่ะ ความคุ้มค่าของการใช้เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขอเพียงแค่การใช้เวลานั้นมันทำให้เรารู้สึกดี มีความสุขก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วค่ะ บ่อยครั้งที่เรานั่งจิบชาอยู่คนเดียวแล้วมีความสุขกับสิ่งรอบๆ ตัว แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มแล้วค่ะ

 

      นอกเหนือจาก “เวลา” ที่เราเรียกคืนไม่ได้ยังมีอีก 2 เรื่องในความคิดของพี่กุ้งที่เรียกคืนไม่ได้นั่นก็คือ เรื่องของ “คำพูด” บ่อยครั้งที่เรามัก พูดโดยไม่คิด และสร้างความรู้สึกเสียใจให้คนรับฟังโดยที่เราไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็อาจสายไปเสียแล้ว เพราะ มันได้ทำลายความสัมพันธ์ที่ดีไปแล้ว ดังนั้นคิดให้ดีก่อนพูดนะคะ ถ้าในยุคสังคม Social Network เราคงต้องบอกว่าคิดก่อนโพสต์ลง Facebook หรือ Twitter ด้วยค่ะ เพราะเราคงเห็นตัวอย่างที่เป็นข่าวอยู่มากมาย ถึงผลเสียของการโพสต์โดยไม่ได้คิดให้ดี บางทีทำให้เพื่อนที่รักกันคบกันตั้งแต่อนุบาลถึงกับเลิกคบกันก็มี หรือแม้แต่ทำลายโอกาสที่ดีก็มีค่ะ อย่างที่เป็นข่าวหน้า 1 ให้ เราได้รับทราบกัน แต่สิ่งไหนที่ผิดไปแล้วก็ต้องปล่อยไปค่ะ เพราะเราแก้ไขเมื่อวานนี้ไม่ได้แล้ว แต่วันนี้ยังเริ่มใหม่ได้ค่ะ

      และอย่างสุดท้ายที่เมื่อผ่าน ไปแล้วเราก็ไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้เช่นกัน นั่นก็คือ “โอกาส” ค่ะ โอกาสที่ดีไม่ใช่ว่าจะมีมาหาเราบ่อยๆ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสที่ดีเข้ามาก็ใช้เวลาพิจารณาโอกาสนั้นอย่างถี่ถ้วนว่ามันคุ้มค่ากับการคว้าโอกาส นั้นไว้หรือไม่  ถ้าคิดว่า “คุ้ม” ก็อย่าปล่อยให้ “โอกาส” นั้นลอยผ่านไปค่ะ ฝากไว้ให้ “คิด” ทุกๆ วินาทีที่ผ่านไปคือโอกาสที่เราจะทำให้ตัวเองดีขึ้นในทุกๆ ด้าน “เมื่อวาน” ผ่านไปแล้ว และ “พรุ่งนี้” ยังมาไม่ถึง ทั้ง “เมื่อวาน” และ “พรุ่ง นี้” ล้วนไม่ได้อยู่ในมือเรา อย่าไปกังวลถึงมัน มีแต่ “วันนี้” เท่านั้นที่อยู่ในมือเรา ใช้ มันให้คุ้มในการกำหนดโชคชะตาของตัวเองค่ะ

     ในซีรีส์จบในตอน “บริษัท สร้างสุข” นี้ ทุกๆ ตอนจะแฝงข้อคิด คติ เตือนใจให้ผู้ชม ผ่านเรื่องราวและบล็อคของพิมในตอนท้ายเรื่อง พี่กุ้งอยากให้ทุกๆ คนได้มีโอกาสดูละครเรื่องนี้ เพราะภาพของ “บริษัท สร้างสุข” ไม่สามารถสมบูรณ์ได้ ถ้าขาด “ผู้ ชม” ดังนั้นถ้าอยากช่วยพี่กุ้งต่อจิ๊กซอว์ภาพนี้ให้สวยงามและสมบูรณ์แบบ อย่าลืมบอกเพื่อนๆ ทั้งที่ทำงาน หรือเพื่อนๆ สมัยเรียนหนังสือ หรือคนในครอบครัวให้ติดตามชมละครเรื่องนี้นะคะ

      อ้อ! ขอพูดอีกเรื่องในหัวข้อ “วันที่เรายิ้มได้” มีสุนัขหลงทางตัวหนึ่งมาอยู่ที่ออฟฟิศพี่กุ้ง สีดำน่ารักเป็นสุนัขพันธุ์ผสม พี่กุ้งเลยตั้งชื่อให้ว่า “ดีดี้” เพราะถือว่าเป็นสุนัขของ daradaily เจ้าดีดี้ เป็นสุนัขจอมซน แม้แต่ตี๋หรือตะวันของเรา ยังบอกว่าเจ้าดีดี้นี้มันขี้เล่นมาก ดีดี้จะชอบเลียชอบ กัดผู้คนในออฟฟิศและกระโดดโลดเต้นเรียกร้องความสนใจอยู่ตลอดเวลา อยู่มาวันหนึ่ง เจ้าของดีดี้ก็ได้ตามหาดีดี้จนเจอและนำกลับไป ทำให้พวกเราได้รู้ว่าจริงๆ แล้วดีดี้มีชื่อว่า “แพนเค้ก” และที่สำคัญได้สร้างความเศร้าเสียใจให้ กับพี่ไกด์และลุงยามของเราอย่างมาก เพราะเป็นคนที่คอย อาบน้ำ พาไปฉีดยา ดีดี้กลับไปอยู่บ้านเดิมได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ลุงยามของเราก็ไปตามหาจนเจอ (เรื่องมันยาว สรุปว่าหาเจอก็แล้วกันนะคะ) ลุงยามก็เลยบอกกับเจ้าของว่า ถ้าเปิดประตูแล้วมันตามผมมาขอผมเถอะนะ ปรากฏว่ามันตามลุงยามจริงๆ เจ้าของก็เลยปล่อยให้มา พี่กุ้งก็เลยให้คนไปจ่ายสตางค์ซื้อดีดี้มา จะได้เป็นสุนัขของออฟฟิศเราอย่างแท้จริง เพราะถ้าไม่ได้ดีดี้คืนกลับมา พี่กุ้งก็ตั้งใจซื้อสุนัขตัวใหม่ให้ลุงยามและพี่ไกด์อยู่แล้ว เพราะไม่ชอบเห็นน้ำตาหรือความเศร้าของใคร และตัวพี่กุ้งเองก็ดีใจมากเมื่อเห็นดีดี้กลับมา ตอนขับรถเข้ามาออฟฟิศรู้ว่าดีใจมากที่เห็นดีดี้ แถมมีแผลเพราะโดนรถชน และไม่สบายอีกด้วย ก็เลยให้พี่ไกด์พาไปหาหมอ วันนี้ดีดี้สุขภาพดีมาก และกลับมาร่าเริงขี้เล่นเหมือนเดิม ยกเว้นเวลาฝนตก เธอจะออกแนวเหงาๆ ซึมๆ เหมือนคนเรานี่แหละค่ะ

      ถ้าจะถามว่าทำไมพี่กุ้งถึงดีใจที่เห็นดีดี้กลับมา ถ้าจะให้พูดตามความจริงก็คือ พอดีดี้เข้ามาในออฟฟิศพี่กุ้งได้ไม่กี่วัน อสม ท ก็อนุมัติให้พี่กุ้งทำละครเรื่อง “บริษัท สร้างสุข” อย่างด่วน ซึ่งจริงๆ แล้วพี่กุ้งไม่ได้คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ และก็กังวลใจว่าทำทันออกอากาศหรือไม่ อีกทั้งจะขายโฆษณาทันหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าอย่างไรคงต้องทำ เพราะถือเป็น “โอกาสที่ดี” ที่ จะได้ทำ “เรื่องดีๆ” ปัญหาเรื่องทันไม่ ทันเดี๋ยวค่อยว่ากัน ดังนั้นพี่กุ้งจึงรู้สึกว่าดีดี้มาพร้อมกับ “เรื่องดีๆ” และดีใจมากที่ดี ดี้อยากอยู่ในออฟฟิศเรา ทำให้นึกถึงประโยคที่ว่า

       if you ever want something badly, let it go.

       if it comes back to you, then it’s yours forever.

       if it doesn’t, then it has never yours to begin with.

      จากเรื่อง Indecent Proposal เวลาที่เราอยากได้สิ่งไหนมากๆ จนเกือบจะเป็นบ้า ก็ให้ปล่อยมันไป สิ่งไหนที่เป็นของเราก็จะเป็นของเราอยู่วันยังค่ำ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ปล่อยมันไปค่ะ เพราะมันอาจไม่ได้เป็นของเราตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

      หวังว่า “บริษัท สร้างสุข” จะนำความสุขมาให้ทุกๆ คนนะคะ และขอให้ทุกๆ วันเป็นวันที่เราทุกคนยิ้มได้ค่ะ ถ้าไม่มีใครยิ้มให้เรา หรือเราไม่รู้จะยิ้มให้ใคร ก็ยิ้มให้กับตัวเองค่ะ แล้วพบกัน .......