“แอนนี่” ยันไม่ตรวจ “DNA” พร้อมรับ ทั้งรักทั้งชัง “ฟิล์ม”

“แอนนี่” ยันไม่ตรวจ “DNA” พร้อมรับ ทั้งรักทั้งชัง “ฟิล์ม”

1

      และดูเหมือนว่าเรื่องราวฉาวของซุปเปอร์สตาร์ “ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” และ “แอนนี่ บรู้ค” จะไม่จบลงเสียที ล่าสุดวานนี้เวลา เกือบ 4 ทุ่มกองทัพสื่อมวลชนได้ไปตามสัมภาษณ์สาวแอนนี่ บรู้ค ที่จะมาเปิดใจกลาง “รายการตีสิบ” อีกครั้ง งานนี้แอนนี่ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ขอตรวจ DNA

     ซึ่งก่อนแอนนี่จะเข้ารายการ นักข่าวได้ถามพิธีกร “คุณวิทวัส ” ถึงเหตุผลการที่เชิญแอนนี่มาออกรายการครั้งนี้ โดยเจ้าตัวตอบสั้นๆว่า

      “แอนนี่เค้าอยากจะออกรายกายตีสิบอยู่แล้ว ถามเค้าเค้าก็บอกเป็นความฝันของเค้า ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงิน แอนนี่ไม่ได้ถามถึงเรื่องเงิน เราไม่ได้ทุ่มเงินเลยครับ เราติดต่อไปครับ โดยส่วนใหญ่เราก็เชิญอยู่แล้ว” และพอแอนนี่มาถึงเธอก็เริ่มตอบคำถามว่า

      “ยืนยันคำเดิมค่ะว่ายังไงก็ไม่ตรวจแน่นอน ฟิล์มเค้าติดต่อครั้งเดียวแค่ 1 มิสคอลเท่านั้นค่ะ เรื่องเคลียร์มันเลยจุดนั้นมาแล้วค่ะ ชีวิตต้องเดินหน้าต่อค่ะ หนูมีคนที่หนูต้องดูแล วันนี้หนูจะพูดแค่ครั้ง เดียวครั้งสุดท้าย หากเราได้เจอกันอีกหนูขอพูดเรื่องอนาคตกันเน้อ หนูจะกลับมาใช้ชีวิตปกติกลับมาดูแลน้อง ถ้าเค้าจะร้องต่อศาลให้ตรวจ หนูคงต้องปรึกษามูลนิธิเพื่อนหญิงให้เค้าช่วยตัดสินใจกับหนูค่ะ หนูไม่ได้ติดต่อแต่พี่ๆ ที่นั้นเค้าก็เป็นห่วงเราและก็น้อง เค้าก็ถามว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็ยินดีและเต็มใจจะช่วยเหลือ หนูคิดว่ามาถึงวันนี้แล้วจริงๆ แล้วถ้าเกิดต้องทำกันถึงขึ้นโรงขึ้นศาลเนี้ยหนูว่ามันค่อนข้างเยอะไปสำหรับผู้หญิงคนเดียวหรือเปล่า ถามว่าถ้าฟิล์มต้องการจะตรวจ เพื่อ... เพื่ออะไร กรณีข่าวกับจุ้น (กิติคุณ) อ้างว่ามีความสัมพันธ์กับแอนนี่ จริงหรือค่ะหนูยังไม่รู้จักเค้า ไม่สนิทสนม 4-5 ถ้าพวกพี่รู้จักหนูติดตามหนูแอนนี่ บรู๊ค ไม่เคยทำอะไรเสียหายเลย ตั้งแต่เป็นตลกหญิงหนูทิ้งภาพเซ็กซี่สตาร์นั้น ในกมลสันดาลหนูไม่ได้อยากจะเป็นอย่างนั้นเลย แต่หนูจำเป็นต้องทำหาเลี้ยงชีพตัวเองเพราะหนูไม่ใช่คนสวย หนูเลือกไม่ได้ มั่นใจว่าที่ผ่านมาคบกับฟิล์มคนเดียว กับจุ้นเค้าเป็นดาราใช่ไหมค่ะ รู้แต่ว่าเค้าเป็นดาราคนหนึ่ง เคยเห็นตอนที่เค้ามานั่งเล่นที่ชลลัมพีครั้งหนึ่ง หนูไปทำงานให้ที่นั้น คนมองว่าเราคบผู้ชายหลายคนและเด็กอาจจะไม่ใช่ลูกฟิล์ม เมื่อวานก็คืออดีตไหมค่ะพี่ หนูไม่ได้ยอมรับว่าเคยเป็น หนูคบใครบ้าง ถ้าเป็นข่าวแค่ซุบซิบกัน งั้นคนทั้งบ้านทั้งเมืองก็คงมีแฟนกันเยอะมากไม่ใช่แค่หนูคนเดียว

      มีกระแสว่าที่ไม่ตรวจเพราะมีผลเท่ากัน ณ วันนี้เนี้ย วันหนึ่งที่หนูอ่อนแอที่สุดไม่มีใคร วันนี้หนูเข้มแข็งแล้วหนูไม่ต้องการค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเงินทองความรับผิดชอบ คือหนูแข็งแรงที่พร้อมจะยืนบนขาของตัวเองได้ ผลมันจะออกมาเป็นยังไงค่ามันก็เท่ากัน ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ลำบากกว่าเดิมหนูยังติดคุกที่เรียกว่าบ้านนะค่ะ ออกตีสิบวันนี้หนูต้องการให้สังคมให้เข้าใจหนูบ้าง ให้หนูได้ออกมาจากคุกที่เรียกว่าบ้านบ้าง อยากพาลูกออกไปสูดอากาศที่ไม่ใช่พัดลมบ้าง ที่เวิร์คพ้อยก็น่ารักเหมือนเดิมค่ะ ไม่ได้เอาใจเป็นพิเศษใดๆ ทั้งสิ้นรักกันมายังไงก็ยังเหมือนเดิม ตอนนี้กลับไปทำงานแล้วเพราะที่ผ่านมาหนูไม่มีรายได้เข้ามาเลยหนูกินเงินเก็บกับละคร 2 เรื่องที่ผ่านมาค่ะ ตอนนี้หนูต้องทำงานได้แล้ว สองอาทิตย์ที่ผ่านมายังไม่มีใครติดต่องานเข้าแล้วหนูยังไม่ได้รับเงินจากใครซักสลึงแดงเดียวเลยค่ะ อาร์เอสไม่ได้ติดต่อมาค่ะ ขอโอกาสหนูออกไปข้างนอกบ้าง สูดอากาศบริสุทธิ์ กินอะไรที่หนูอยากกินบ้าง ถ้าทำงานคงต้องให้ที่บ้านมาช่วยเลี้ยงลูกค่ะ คุณแม่เครียดมาก อย่างหนูเป็นแม่หนูรู้ ลูกสาวท้องไม่มีพ่อแค่นี้ก็เครียดจะแย่อยู่แล้ว แล้วชีวิตคนธรรมดาโดนตามสะขนาดนั้นนะ จะอยู่ยังไงจะกินยังไง มีคนว่าลูกสาวตัวเองไม่ดีอย่างงั้นอย่างนี้ ทั้งที่ตัวแกเองก็รู้ว่าลูกสาวเป็นยังไง กินไม่ได้นอนไม่หลับร่างกายก็ไม่แข็งแรง อยู่ สิ่งที่กลัวที่สุดคือหลานจะอยู่ยังไง หนูก็ต้องทำงานเลี้ยงแม่ หนูก็ต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว หนูดูแลแม่ตั้งแต่อายุเท่าไหร่เอง ต้องดูแลทั้งลูกทั้งแม่ค่ะ

      ใจร้ายเกินไปสำหรับฟิล์มไหม งานก็งดหมด อย่างที่หนูบอกว่าจริงๆ ที่ผ่านมา 1ปีน่าจะพิสูจน์อะไรได้ไม่มากก็น้อยว่าการที่หนูออกมาพูดไม่ได้ต้องการจะทำร้าย ที่หนูพูดมันคือความจริง ความจริงจะทำร้ายเราเอง ชีวิตหนูหนูจะต้องปิดตลอดชีวิต เพราะหนูสัญญากับเค้าไว้หนูคงจะไม่มีวันพาลูกหนูไปโรงเรียน หนูคงจะไม่มีวันได้พาลูกหนูไปสวนสัตว์ หนูคงไม่มีวันพาลูกไปกินไอติมเมื่อไหร่หนูก็ไม่รู้ ณ วันนี้หนูก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเรื่องมันถึงยาวถึงขนาดนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ดี อยากบอกพี่ๆสื่อมวลชนและเฮียด้วยว่าให้โอกาสฟิล์มด้วยเพราะฟิล์มก็เป็นคนดีเค้าก็เลี้ยงครอบครัวเหมือนกับหนู เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะคนสองคนที่ไม่สามารถอยู่กันได้และรักกันได้ มันเลยจุดความรับผิดชอบมาแล้ว หนูก็ยืนยันได้และแข็มแข็งได้หนูก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้ หนูเคยคิดว่าถ้าเรื่องแดงขึ้นมาจะบอกว่าใครไม่รู้เป็นพ่อ แต่ถ้าพี่ๆ ไปรู้อะไรขึ้นมา แล้วหนูไม่ตายหรอกหรอ เท่ากับว่าหนูโกหกสื่อมวลชนโกหกพี่ๆ มันน่าจะเคลียร์กันตั้งนานแล้ว มันไกลแล้วนะพี่หนูรอเค้ามานานแล้ว เฝ้าแต่รอหวังว่าซักวันเค้าจะดีกับเราเค้าจะรักเ บางคนก็บอกว่าหนูโง่ ผู้หญิงนะไม่มีวันรู้หรอกว่าเค้ารักเราหรือเปล่า หนูก็เฝ้าแต่รอจนเรื่องมันมาถึงทุกวันนี้ หนูว่ามันไกลเกินไปแล้ว มันไม่ยาวหรอกถ้าจะทำให้มันจบ จบในความรู้สึกหนุมันจบไปนานแล้ว จริงๆหนูไม่อยากจะพูดแล้ว ตัวกลางมันเยอะเหลือเกิน ถ้าเราคุยกันสองคนก็ไม่มีสองคนจริงๆ ขึ้นมาหรอก เรื่องค่าใช่จ่ายที่เค้ารับผิดชอบหนูก็บอกไปแล้วว่าเค้ารับผิดชอบจริงๆ หนูไม่ได้โกหก แต่ถ้าพูดถึงว่าช่วงวินาทีที่หนูรู้ว่าหนูมีน้องจนหนูคลอด ช่วงเวลาที่ติดคุกที่เรียกว่าบ้านเนี้ยหนูต้องการใครซักคนที่จับมือหนูแล้วบอกว่าไม่เป็นไรนะหนูต้องผ่านมันไปให้ได้ หนูต้องอดทนนะหรืออะไรก็ได้ ให้กำลังใจหนูบ้าง เงินทองไม่ได้ต้องการเลย คนท้องนะทำอะไรให้หนูบ้าง พูดอะไรให้หนูชื่นใจบ้าง เงินทองมาทีหลังเลย อย่างค่าคลอดเค้าก็ให้หนูมา เค้าบอกเค้าอยากดูแลน้องให้ค่าคลอดหนูก็ยินดี เหมือนเพลงนะพี่มันทั้งรักทั้งแค้นนะ พอเค้าจะเข้ามาในชีวิตเราก็ดีใจแต่มันก็ยังมีความแค้น ตั้ง9 เดือนนะ มันทรมาน หนูไปทำแท้งยังน่าประนามเสียกว่า เค้าก็ให้ค่าใช่จ่ายหนูมาพอน้องได้ 1เดือนเค้าก้มาดูหน้าน้อง ให้ค่านมลูก แล้วพอน้องไม่สบายก็ให้ค่ารักษาพยาบาลน้อง เพราะเงินหนูก็ไม่ได้มีมากมายแล้ว หนูถ่ายละครแค่ 2 เรื่องหนูได้ 3 แสนเอง ทั้งเลี้ยงน้องทั้งให้แม่ ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ คิดดูหนูอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ค่าพยาบาลก็จ่ายให้จริง หนูก็ชื่นใจ จริงๆ เค้าก็ได้รับผิดชอบในส่วนหนึ่งแล้วไม่ได้บอกว่าเค้าไม่ได้ให้ ณ วันนี้ที่มาบอกว่าใช่ไม่ใช่ ตัวแปลที่กลับไปคุยกันไม่ได้ คือวันนี้มันมีคนโน้นออกมาพูดอย่างนั้นอย่างนี้ ผู้หญิงอะยังไงมันก็เสียหาย ต่อให้ประชาชนเห็นใจ หนูก็เสียหายอยู่ดี คำสัญญาให้ฟิล์มให้ไว้ คำเดียวเลยค่ะ “อดทนนะเพราะคุณคือแม่ของลูกผม” ผู้หญิงคนไหนได้ยินคำนี้ก็ถวายหัวเลยนะ ชีวิตหนูหนูให้จริงๆ สัญญาแต่งงานไมมีค่ะ ชีวิตหนูหนูไม่ได้คิดว่าเรื่องแต่งงานสำคัญ ใจสำคัญกว่า อยู่ด้วยกันสำคัญกว่า กองละครไม่มีใครรู้ เรื่องนั้นมันเป็นดีเทลส่วนตัวหนูขอไม่ตอบเน้อ มันลึกๆส่ วนตัวจริงๆ มันไม่งามพี่ ถ้ามีผู้ใหญ่เป็นตัวกลาง หนูว่ามันล่วงเลยไปแล้ว หนูเคยเสนออะไรไปตั้งเยอะกับทางผู้จัดการเค้า

      จริงๆ เรื่องมันควรจะจบด้วยดีตั้งนานแล้ว วันนี้อยากให้มองว่าถ้ามันจบแบบแฮปปี้แอนดิ้งไม่ได้ อยากให้ทุกคนเดินหน้าต่อเถอะอย่าหยุดตรงที่ตรงนี้เลยตัวเค้าเองก็ยังมีงานที่ต้องโกอินเตอร์ทำโน้นทำนี้ อย่างที่แอนนี่ถามนั้นแหละถามใจลึกๆว่าลูกคนนี้ใช่ลูกของคุณไหมถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ถ้าถามในใจลึกๆโดยที่ไม่มีคนอื่นอยู่ ถ้าคิดว่าใช่มันก็ใช่ จริงๆแล้ว DNA มันอยู่ที่หน้าลูกหนูหมดแล้วหนูไม่ต้องพูดอะไรเลย คนทุกคนไม่ได้หน้าโหลเหมือนกันทุกคน ถ้าเด็กเค้าพูดได้จะลองถามเค้าดูไหมว่าเค้าจะพูดอะไร งั้นก็ลองถามเค้าอีกซัก 10 ปี อยากฝากเฮียฮ้อว่ให็โอกาสฟิล์ม หนูเห็นว่าแฟนคลับฟิล์มทุกคนรักฟิล์มมาก หนูเห็น sms บนหน้าจอทีวีว่ารักฟิล์ม รักอย่างนี้ไปเถอะเค้าเป็นคนดี เค้าไม่ได้เป็นคนไม่ดี หนูหวังว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น ให้โอกาสเค้าเถอะ หวังว่าเฮียเองจะให้โอกาสฟิล์มเหมือนกัน ถามว่ายังรักฟิล์มไหม ทั้งรักทั้งชังมั้ง”   ♦

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ดีเจมะตูม” เปิดใจถึง “ดิว อิริสรา” แซว “หมอของขวัญ” จ้างตนได้นะ 1 ล้าน

น่าดู! “เฌอปราง อารีย์กุล” นำทีมคืนจอในซีรีส์อบอุ่นหัวใจ

วิกหมอชิตคว้า “ธันวา-แคท ซอนญ่า” คืนจอ

“พี่จูดี้ จารุกิตติ์” ได้เติมฝันเติมไฟ ครั้งหนึ่งของชีวิตได้เป็นนางเอกซีรีส์

ชีเสิร์ฟไฟลุก!! “อิงฟ้า วราหะ” จัดเต็มโชว์เวทีใหญ่ ร่วมผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพจัด Bangkok World Pride 2030

“ต้นหอม ศกุนตลา” ปลื้มใจคุณครูชม “น้องปกป้อง” ช่วยเก็บขยะไปทิ้ง

แฟนๆ ร่วมอาลัย “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” สูญเสียคุณแม่ “มาจอลิน”

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments