สำหรับ “เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร” ที่งานนี้ ขอมาออกพ๊อกเก็ตบุ๊คในชื่อเก๋ไก๋ “นักฉกไร้ยางอาย” กับเค้าบ้าง แม้หนุ่มเอจะบอกว่ารายได้จากการจัดจำหน่ายจะมอบให้แก่การทำบุญ แต่งานนี้ก็ส่งผลกระทบถึงคนถูกพาดพิงอีกหลายคน
“พี่เอก็ต้องขอโทษคนพาดพิง เพราะเราเป็นเจ้าของหนังสือ ก็อยากให้ช่วยกันทำบุญ พี่เอ๋ก็ไม่ได้คิดว่าการเขียนพ๊อกเก็ตบุ๊คจะทำให้ตัวเองรวยกว่านี้ รู้สึกสบายใจมากเพราะพี่ไม่ได้อยากเอาหน้าคนเดียวคนที่มีชื่ออยู่ในหนังสือเนี้ย เป็นคนที่ร่วมกันทำบุญครั้งนี้ด้วยนะครับ โกโก้บอกว่าพาดพิงจะฟ้อง พี่เอก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องตั้งนานแล้ว อันนั้นอย่างที่บอกว่าเรามีโกสไร้เตอร์ เค้าจะทำเหมือนเมืองนอกที่เอาข่าวมาตี พี่เอก็ไม่ทราบการทำงานว่าต้องขออนุญาติใครก่อนหรือเปล่า ก็ต้องขอโทษแทนทีมงานพี่เอด้วย มันเกิดจากการไม่ตั้งใจ อยากให้หนังาสือมีอรรถรส ไม่คิดเลยว่าจะมีปัญหา เงินรายได้จะทำบุญหมดเลยครับ เรื่องแอนนี่ไม่ได้ดูคิวให้ ไม่เกี่ยวเลยครับ แต่ถ้าบางงานที่เค้าติดต่อน้องมาทางพี่เอ ก็ยินดีครับ ก็ถือว่าแม่หาเงินไปซื้อผ้าอ้อมให้ลูก เท่าที่ทราบเค้าติดต่อทางเต๋า ทีวีพูลครับ แล้วเฮเลนติดต่อไปทางแอนนี่ ทางพี่เอไม่มีเลย ตอนเกิดเรื่องพี่เอก็พาคุณพ่อคุณแม่น้องอั้มไปเที่ยวเกาหลี เพิ่งกลับครับ เรื่องพี่พจน์ พี่เอว่าอารมณ์ของคนนะครับ ทุกคนก็รักลูกตัวเอง ถ้าเราได้มีโอกาสได้พูดคุยกันปัญหามันก็จะไม่เกิดขึ้นนะครับ พี่พจน์ก็มีสิทธิ์ที่จะคิดมีสิทธิ์ที่จะพูด ก็ยินดีคุย พี่เอเป็นกุนซือไม่จริงครับ พี่เอไม่มีเวลาเลย เด็กของพี่เอคือจุ้น พี่ทราบเท่าที่จุ้นพูดเหมือนที่เคยแถลงข่าวไป พี่ทราบแค่นั้น พี่เป็นคนไปขอจุ้นจากคุณพ่อเค้าเข้าวงการพอน้องมีปัญหาพี่ก็อยากจะอยู่เคียงข้าง พี่เป็นคนดึงเค้ามาในวงการบันเทิง ก็ถือว่าเป็นครอบครัวของเค้า พี่ก็ทำหน้าที่ของพี่ไม่ใช่ยืนอยู่ตรงที่เค้ารับรางวัล จุ้นทำอย่างนั้นเพราะอยากให้ช่อง 3 สะอาดบริสุทธิ์ ไม่อยากไปเป็นปัญหาพี่เอยังดีกันอยู่กับช่อง 3 ไม่มีผลกระทบกับนักแสดงคนอื่นครับ” ♦